แหล่งต้นน้ำแม่น้ำ 3 สาย กระตุ้นความอยากอนุรักษ์

(People's Daily Online)วันพุธ 07 ธันวาคม 2022


ฝูงละมั่งทิเบตที่พบในบริเวณโฮห์ ซิลล์(Hoh Xil) ของอุทยานเมื่อปีที่แล้ว (Xinhua)

อุทยานแห่งชาติซานเจียงหยวน ครอบคลุมพื้นที่ 190,700 ตารางกิโลเมตร เป็นอุทยานฯ ที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีพื้นที่ใหญ่กว่าอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนของสหรัฐอเมริกาประมาณ 14 เท่า และใหญ่กว่าอุทยานแห่งชาติแบมฟ์ของแคนาดาถึง 19 เท่า เป็นอุทยานที่มีประชากรเบาบางในมณฑลชิงไห่ที่ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 4,500 เมตร และเป็นที่อยู่อาศัยในอุดมคติของสัตว์ป่าหลายชนิด รวมถึงละมั่งทิเบตและเสือดาวหิมะ

ซานเจียงหยวน ซึ่งแปลว่า “แหล่งที่มาของแม่น้ำสามสาย” เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำแยงซี แม่น้ำเหลือง และแม่น้ำล้านช้าง โดยแม่น้ำสายหลังนี้รู้จักกันในชื่อแม่น้ำโขงเมื่อออกจากดินแดนของจีน ด้วยเหตุนี้ อุทยานแห่งนี้จึงได้รับการขนานนามว่า “หอเก็บน้ำแห่งเอเชีย”     ร้อยละ 2 ของปริมาณน้ำทั้งหมดในแม่น้ำแยงซี ร้อยละ 49 ของแม่น้ำฮวงโห และร้อยละ 17 ของแม่น้ำล้านช้างมาจากพื้นที่ซานเจียงหยวน โดยที่เหลือเป็นน้ำในแม่น้ำสาขา

ทศวรรษที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและกิจกรรมของมนุษย์ทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลให้ทะเลสาบจำนวนมากเหือดแห้งและจำนวนสัตว์ป่าลดลงอย่างรวดเร็ว

ในปี พ.ศ. 2559 มีการดำเนินโครงการนำร่องระบบการจัดการอุทยานแห่งชาติซานเจียงหยวน และได้มีการกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว     ด้วยการปฏิบัติอย่างอุตสาหะ การพัฒนา และนวัตกรรม ความพยายามที่จะเปลี่ยนสวนสาธารณะให้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้าของอารยธรรมทางนิเวศวิทยาของจีน เป็นต้นแบบของปราการความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของประเทศ และผืนดินอันบริสุทธิ์สำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต


กวางปากขาวในอุทยานแห่งชาติซานเจียงหยวน มณฑลชิงไห่ ถ่ายเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 (Xinhua)

“สิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศ” หมายถึงแนวคิดที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืนของมนุษย์และธรรมชาติ     ทางการท้องถิ่นกล่าวว่าพวกเขาได้พิทักษ์สภาพแวดล้อมของที่ราบสูงอย่างสุดความสามารถ โดยพยายามที่จะพัฒนาให้เป็นต้นแบบของการอนุรักษ์ที่เกี่ยวข้องในระดับชาติหรือแม้แต่ระดับโลก

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การอนุรักษ์น้ำในพื้นที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ทุกปี และพื้นที่ดังกล่าวได้จัดหาน้ำ 90 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีให้กับพื้นที่ด้านล่าง ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้วการครอบคลุมของทุ่งหญ้าและการปลูกหญ้าได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 11 และ 30 ตามลำดับ

ทอบตัน(Tobdan) ซึ่งเป็นชนเผ่าทิเบต เป็นผู้พิทักษ์สิ่งแวดล้อมและเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าในเขตมาตอย(Madoi) จังหวัดปกครองตนเองชาชาติทิเบตโกลก มณฑลชิงไห่ ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่น้ำฮวงโห     พื้นที่อันเป็นที่อยู่ของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ากว่า 3,000 นาย เช่นเดียวกับทอบตัน พวกเขาสวมปลอกแขนและเสื้อกั๊กสีเขียวเรืองแสง มีหน้าที่ตรวจลาดตระเวนทะเลสาบที่เรียกกันในท้องถิ่นว่า“ทะเลดาว”

ในรายงานของหนังสือพิมพ์กวงหมิงเดลี่ ทอบตันซึ่งเหมือนกับชาวทิเบตส่วนใหญ่ที่ใช้เพียงชื่อเดียว เขามีหน้าที่รับผิดชอบในการพิทักษ์ทุ่งหญ้า ทะเลสาบและสัตว์ป่า กำจัดขยะและมลพิษอื่นๆ และบันทึกสภาพแวดล้อมของทะเลสาบ เขากล่าวว่าเขายังได้อธิบายถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมแก่นักท่องเที่ยว โดยเสริมว่า ทะเลสาบแห่งนี้สวยงามมากจนใครก็ตามที่มาเยือนต่างก็อยากจะปกป้องมัน

ซุน ลี่จุน(Sun Lijun) รองผู้อำนวยการสำนักบริหารอุทยานแห่งชาติซานเจียงหยวน กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่กว่า 20,000 คนกลายเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและผู้พิทักษ์ในพื้นที่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่มุ่งสร้างงานหนึ่งงานต่อหนึ่งครัวเรือน     ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงให้ค่าตอบแทนรายปีแก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าคนละ 21,600 หยวน (ราว108,000บาท) ในขณะที่มีการลงทุนมากกว่า 2.2 หมื่นล้านหยวนในโครงการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในพื้นที่


เสือดาวหิมะสำรวจหุบเขาในสวนสาธารณะในเดือนกรกฎาคม 2563 (Xinhua)

ชาวบ้านในท้องถิ่นเพลิดเพลินกับของขวัญที่ธรรมชาติมอบให้ และการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติได้ช่วยให้คนเลี้ยงสัตว์ในท้องถิ่นเปลี่ยนจากการแสวงหาผลประโยชน์จากธรรมชาติมาเป็นผู้พิทักษ์และได้ประโยชน์จากธรรมชาติ

ซัมดรับ(Samdrub) คนเลี้ยงสัตว์ในอำเภออังไซ จังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าทิเบตอวี้ซู่ มณฑลชิงไห่ กล่าวว่า ผู้อาวุโสในหมู่บ้านของเขาพูดเสมอว่าการพิทักษ์ทุ่งหญ้าคือการปกป้องบ้าน เพราะคนเลี้ยงสัตว์เลี้ยงชีพด้วยการเลี้ยงวัวและแกะ ทุ่งหญ้าของเขาตั้งอยู่ในหุบเขาอังไซที่เป็นต้นกำเหนิดแม่น้ำล้านช้าง เขาเล่าว่า เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้วทุ่งหญ้าในบ้านเกิดของเขา“ป่วยด้วยโรคร้าย”

การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอากาศและหนูที่หิวโหยหมายความว่าความเสื่อมโทรมของทุ่งหญ้าเป็นปัญหาร้ายแรง เนื่องจากแม่น้ำมีมลพิษ และมีขยะอยู่ทุกหนทุกแห่ง เขาบอกกับสำนักข่าวซินหัว     ในปี 2561 อุทยานแห่งชาติซานเจียงหยวนนำร่องให้สิทธิ์แก่อำเภอในการดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวแบบแฟรนไชส์ และฝึกอบรมคนเลี้ยงสัตว์ให้ทำงานเป็นไกด์นำเที่ยวรอบหุบเขา ช่วยเหลือผู้มาเยือนจากในและต่างประเทศ

ซัมดรับเป็นหนึ่งใน 22 คนในท้องถิ่นที่ได้รับการฝึกอบรมเป็นมัคคุเทศก์ พวกเขามีการแนะนำกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมไปจนถึงพาทัวร์ชมสัตว์ป่าซึ่งรวมถึง“ภารกิจเสือดาวหิมะ”    ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ซัมดรับมีรายได้จากการทำงาน 30,000 หยวน เขากล่าวว่า“มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะทำเงินได้เพียงแค่พาคนมาชมและชมสัตว์ป่า ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นในอังไซและการเพิ่มขึ้นของสัตว์ป่าที่นี่”

เซวัง ตอร์เจ(Tsewang Dorje) นายอำเภอเมืองกล่าวว่ารายได้จากการท่องเที่ยวจัดสรรเป็นสามส่วน ร้อยละ 45 เป็นของประชาชนในท้องถิ่น ร้อยละ 45 นำไปใช้ในกิจการสาธารณประโยชน์ของท้องถิ่น และที่เหลือร้อยละ 10 นำไปใช้ในการรักษาสิ่งแวดล้อม     รายได้จากการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมถูกนำมาใช้เพื่อช่วยชีวิตสัตว์ป่าที่บาดเจ็บจำนวนมาก

ทาซือ ตอนดรับ(Tashi Dondrub) เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่าเมื่อชาวบ้านตระหนักว่าบ้านเกิดของพวกเขาเป็นสถานที่ที่ผู้คนต้องการไปเยี่ยมชม และพวกเขาสามารถสร้างรายได้จากสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศที่ดี แนวคิดเรื่องความกลมกลืนระหว่างมนุษยชาติและธรรมชาติจะหยั่งรากลึกลงในจิตใจของพวกเขา


ฝูงลาป่าทิเบตลัดเลาะรอบทะเลสาบขณะที่พวกมันเดินผ่านที่ราบสูง (Xinhua)

ศูนย์อนุรักษ์ซานสุ่ยซึ่งเป็นองค์กรในกรุงปักกิ่งได้ช่วยอังไซติดตั้งระบบตรวจสอบ     เจ้า เซี่ยง (Zhao Xiang) หัวหน้าศูนย์กล่าวว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมทิวทัศน์ในอังไซ 349 คน โดยกว่า 100 คนเป็นชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจีน     ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ศูนย์แห่งนี้ได้ติดตั้งกล้องอินฟราเรดเกือบ 800 ตัวทั่วอุทยานแห่งชาติซานเจียงหยวน ถ่ายภาพเสือดาวหิมะได้ประมาณ 100,000 ภาพ และจำแนกสัตว์แต่ละชนิดได้อย่างน้อย 400 ตัว     ยิ่งไปกว่านั้น ในพื้นที่โดยรอบโฮห์ ซิล(Hoh Xil) จำนวนละมั่งทิเบต ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครองชั้นหนึ่งของประเทศ ได้เพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 20,000 ตัวในปี 1990 เป็นมากกว่า 70,000 ตัวในปีที่แล้ว

ก่าน เสวียปิง(Gan Xuebin) รองผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการพื้นที่ต้นน้ำแม่น้ำเหลืองในอุทยาน กล่าวว่า ต้นน้ำไหลไม่ขาดสายมาเกือบ 16 ปีแล้ว จำนวนทะเลสาบในมาตอย(Madoi) ซึ่งเรียกกันในท้องถิ่นว่า“พื้นที่แห่งทะเลสาบหนึ่งพันแห่ง”เพิ่มขึ้นเป็น 5,849 แห่ง ขณะที่พื้นที่ชุ่มน้ำขนาด 104 ตารางกิโลเมตร เพิ่งเพิ่มเข้ามาในเขต

นายเฉิน รุ่ยเฟิง(Chen Ruifeng) กรรมการในคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประจำมณฑลชิงไห่ กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่าการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับชิงไห่ มณฑลได้พยายามคุ้มครองสัตว์ พืช น้ำ และภูเขาบนที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต และสภาพแวดล้อม ก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตรที่ครอบคลุมตลอดถึงลุ่มน้ำ พร้อมทั้งกล่าวทิ้งท้ายว่า     นอกจากการตั้งอุทยานแห่งชาติซันเจียงหยวนแล้ว งานนำร่องในอุทยานแห่งชาติภูเขาฉีเหลียนได้เสร็จสิ้น และมณฑลยังทำงานอย่างหนักเพื่อตั้งอุทยานแห่งชาติทะเลสาบชิงไห่อีกด้วย