รถไฟความเร็วสูงเชื่อมเมืองเฉิงตูกับเมืองคุนหมิง

(People's Daily Online)วันอังคาร 27 ธันวาคม 2022


เส้นทางรถไฟสายใหม่เมืองเฉิงตู-คุนหมิง (Xinhua/Jiang Hongjing)

ทางรถไฟสายใหม่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเปิดให้บริการในวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคมนี้ ทำให้ลดเวลาการเดินทางในภูมิภาคระหว่างเมืองใหญ่ 2 เมืองคือเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวนและคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน    ทางรถไฟสายนี้ระยะทาง 915 กิโลเมตรเชื่อมเมืองเฉิงตูกับเมืองคุนหมิงทำให้ลดเวลาการเดินทางระหว่างสองเมืองเหลือ 7.5 ชั่วโมง  ขณะที่เวลาในการเดินทางระหว่างเฉิงตูกับเมืองใหญ่อีก 2 เมืองในเส้นทางคือ เมืองซีชางและพานจือฮัว ก็ลดลงเหลือ 3 และ 5 ชั่วโมงตามลำดับ โดยทางรถไฟสายนี้เริ่มต้นที่เฉิงตู ผ่านเมืองเหมยซาน เมืองเล่อซาน เขตปกครองตนเองชนชาติอี๋เหลียงซาน และเมืองพานจือฮัว มณฑลเสฉวน  จากนั้นเข้าสู่เขตปกครองตนเองชนชาติอี๋ฉู่สง มณฑลยูนนาน และสิ้นสุดที่เมืองคุนหมิง ขบวนรถไฟขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

การก่อสร้างทางรถไฟเป็นไปด้วยความยากลำบากจากสภาพภูมิประเทศตลอดเส้นทางมีความสลับซับซ้อน ผ่านแม่น้ำและภูเขา รวมถึงแม่น้ำหมินเจียง แม่น้ำต้าตู้และแม่น้ำจินซา และภูเขาเอ๋อเหมยซาน วิศวกรต้องระดมสมองในการสำรวจตลอดจนใช้ประโยชน์จากอุโมงค์และสะพานช่วงยาวจำนวนมากเพื่อเอาชนะความท้าทายด้านภูมิประเทศ ซึ่งบางปัญหาก็หนักมาก ตลอดเส้นทางมีการสร้างอุโมงค์เจ็ดอุโมงค์ แต่ละอุโมงยาวกว่า 10 กิโลเมตร รวมถึงอุโมงค์เสี่ยวเซียงหลิง ที่ยาวถึง 22 กิโลเมตร และสะพาน 11สะพานยาวกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นโครงการสำคัญสำหรับการพัฒนาขนาดใหญ่ในภาคตะวันตกของจีน และเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของทางรถไฟจากจีนสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การเปิดเดินรถไฟสายนี้เป็นการส่งเสริมเครือข่ายทางรถไฟในภาคตะวันตกเฉียงใต้ เพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งทางรถไฟ   นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกอย่างมากในการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของภูมิภาค ส่งเสริมการพัฒนาชนบทและการเปิดประเทศ   ทางรถไฟสายใหม่นี้เป็นสายที่สองที่เชื่อมระหว่างเมืองเฉิงตูกับเมืองคุนหมิง โดยสายเก่าความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เปิดให้บริการเมื่อปี 2513 ระยะทาง 1,096 กิโลเมตร


เส้นทางรถไฟสายใหม่เมืองเฉิงตู-คุนหมิง (Xinhua/Jiang Hongjing)

เนื่องจากภูมิประเทศที่สลับซับซ้อน ในอดีตเคยเชื่อกันว่าบางพื้นที่ไม่สามารถตัดทางรถไฟได้ และผู้เชี่ยวชาญด้านการรถไฟก็มองว่าการสร้างทางรถไฟสายเก่าได้เสร็จสมบูรณ์ถือเป็นหนึ่งใน “ปาฏิหาริย์” ที่เป็นสัญลักษณ์ของการพิชิตธรรมชาติในศตวรรษที่ 20 ซึ่งเส้นทางนี้ก็เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญและให้การสนับสนุนการขนส่งที่แข็งแกร่งในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม  อย่างไรก็ตาม ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้น การรองรับการเดินทางและการขนส่งของสายเก่าไม่เพียงพออีกต่อไป จึงมีการตัดสินใจสร้างสายที่สองเพื่อเชื่อมสองเมืองดังกล่าว โดยเป็นการใช้งานคู่จนานกันไป แต่ใช้เส้นทางตรงมากขึ้นด้วยการขุดเจาะอุโมงค์และสร้างสะพานยาว  ในขณะที่สายเก่าต้องใช้เส้นทางที่ขยายออกไปเพื่อลดความชัน ส่วนสายใหม่สร้างที่เสร็จสมบูรณ์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็เป็นการเติมเต็มเส้นทางระหว่างเมืองเอ๋อเหมยซานและอำเภอเหมือนหนิง เขตปกครองตนเองชนชาติอี๋เหลียงซาน มณฑลเสฉวนได้ในที่สุด

ในช่วงแรกที่เปิดให้บริการ กรมการรถไฟกำหนดใช้รถไฟโดยสารวิ่งระหว่างเมืองเฉิงตูกับเมืองซีชาง และระหว่างเมืองเฉิงตูกับเมืองพานจือฮัววันละ 8 ขบวน ขณะที่ระหว่างเมืองเฉิงตูกับเมืองคุนหมิงใช้รถไฟโดยสาร 10 ขบวน บริการขนส่งสินค้าประมาณ 60 รายการจากเมืองเฉิงตูไปยัง เมืองพานจือฮวาและซีชางทุกวัน รถไฟที่ใช้วิ่งเป็นรถไฟหัวกระสุนฟู่ซิงรุ่นอัพเกรดซีอาร์-200เจ โดยเปิดให้ทันรองรับการเดินทางท่องเที่ยว 40 วันในเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2566 ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมและสิ้นสุดในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 โดยเริ่มเปิดให้จองตั๋วตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2565 และนี่จะเป็นครั้งแรกของการเดินทางในช่วงเทศกาลตรุษจีน    นับตั้งแต่มีการประกาศใช้มาตรการใหม่ในการแพร่ระบาดเมื่อเดือนที่แล้ว โดยได้ยกเลิกการตรวจกรดนิวคลีอิกและรหัสสุขภาพเมื่อมีการเดินทาง กลุ่มบริษัทการรถไฟแห่งชาติจีนคาดว่า ความต้องการทั้งในส่วนของการเดินทางรและการขนส่งสินค้าในช่วงเร่งด่วนจะเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงการเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวและการท่องเที่ยว การเดินทางกลับมาทำงานและเริ่มการผลิตอีกครั้ง ตลอดจนการขนส่งถ่านหินสำหรับการผลิตไฟฟ้าในช่วงฤดูหนาว

ในช่วงเร่งด่วน กรมการรถไฟจะประสานการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดและหาทางปรับปรุงบริการ   บริษัทการรถไฟแห่งชาติจีนจะให้บริการรถไฟโดยสาร 12,154 ขบวนในวันเร่งด่วนก่อนวันตรุษจีน และ 12,214 ขบวนในวันเร่งด่วนหลังวันหยุด เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลเทศกาลตรุษจีนปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19