ผลผลิตถั่วเหลืองจีนทุบสถิติ

(People's Daily Online)วันศุกร์ 20 มกราคม 2023


คนงานเกลี่ยถั่วเหลืองที่เป่ยอัน มณฑลเฮยหลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
เมื่อ 20 ตุลาคม 2565 (ภาพจากซินหัว)

เจ้าหน้าที่เกษตรกล่าวเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมาว่าเมื่อใช้หลากหลายวิธีผสมผสานกัน ซึ่งรวมถึงการปลูกพืชหมุนเวียนและการปลูกพืชแซม เพื่อขยายพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองและเรพซีด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลิตน้ำมันปรุงอาหารและอาหารสัตว์ ทำให้ผลผลิตทุบสถิติ นายเจิ้ง เหยียนเต่อะ หัวหน้านักปฐพีวิทยากระทรวงเกษตรและกิจการชนบทกล่าวในการแถลงที่จัดขึ้นโดยสำนักงานสารสนเทศสภาแห่งรัฐที่กรุงปักกิ่งว่าในแผ่นดินใหญ่จีนปีที่แล้วมีพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองบนแผ่นดินใหญ่ 10.26 ล้านเฮกตาร์ ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2501 เพิ่มขึ้น 1.82 ล้านเฮกตาร์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ขณะที่นายพัน เหวินโป๋ (Pan Wenbo) ผู้อำนวยการแผนกจัดการการเพาะปลูกพืชของกระทรวงกล่าวว่าผลผลิตถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นเป็น 20.28 ล้านตัน สูงกว่าปีก่อนหน้า 3.89 ล้านตันนี่ เป็นครั้งแรกที่ผลผลิตถั่วเหลืองบนแผ่นดินใหญ่ทะลุ 20 ล้านตัน สิ่งนี้ช่วยเพิ่มอัตราการพึ่งพาตนเองของถั่วเหลืองได้ถึง 3 จุด ขณะที่ผลผลิตพืชน้ำมันขยับขึ้นเป็น 36.53 ล้านตันเพิ่มขึ้น 1.1% ในปีที่แล้ว การจัดหาที่ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการรณรงค์ระดับชาติเพื่อส่งเสริมการประหยัดในภาคการจัดเลี้ยง ทำให้การพึ่งพาตนเองในการผลิตน้ำมันปรุงอาหารโดยรวม เพิ่มขึ้น 1.6 จุด เหล่านี้เป็นผลมาจากโครงการของรัฐบาลกลางที่เริ่มเมื่อปีที่แล้วเพื่อขยายการเพาะปลูกถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่นๆ โดยทางกระทรวงได้ใช้เทคนิคหลายอย่างเพื่อบรรลุ “ภารกิจทางการเมืองที่ล้มเหลวไม่ได้”

ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองแบบดั้งเดิม เกษตรกรได้ปลูกข้าวโพดเป็นพืชหมุนเวียน ในพื้นที่ต่างๆ เช่น ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนและตอนล่างของแม่น้ำแยงซี เกษตรกรได้รับการส่งเสริมให้ปลูกถั่วเหลืองและข้าวโพดด้วยกันหากปัจจัยแวดล้อมเอื้อ การปลูกถั่วเหลืองกระจายอยู๋ในพื้นที่กว่า 1,000 อำเภอของ 16 มณฑลและเขต สำหรับเมล็ดเรพซีด ซึ่งปลูกกันเป็นทุ่งในพื้นที่รกร้างของภาคใต้ในช่วงฤดูหนาวก็มีการนำมาใช้เพื่อเพิ่มผลผลิต โดยได้มีการชักชวนให้เกษตรกรในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนปลูกเรพซีดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่ในพื้นที่ภาคเหนือมีการส่งเสริมให้ปลูกพืชน้ำมันอื่นๆ เช่น ถั่วลิสง ปอ งา และทานตะวัน โดยนายพัน เหวินโป๋กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้กระทรวงมีเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอย่างน้อย660,000เฮกตาร์ และเพิ่มอัตราการพึ่งพาตนเองสำหรับการผลิตน้ำมันปรุงอาหารขึ้น 1 จุด

หลังการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ในปี 2500 พื้นที่ปลูกถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 12.73 ล้านเฮกตาร์ ต่อมาการเพาะปลูกเริ่มหดตัวในทศวรรษ 2533 หลังจากที่ถูกบดบังด้วยพืชเศรษฐกิจที่สามารถทำกำไรได้มากกว่าอย่างข้าวโพด จีนเป็นผู้ผลิตถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลกจนถึงสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น (พ.ศ. 2474-2488) แต่ปัจจุบันซื้อมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการในตลาดโลก ความสำเร็จในการเพิ่มพืชน้ำมันเป็นผลจากการผลักดันการผลิตธัญพืชโดยรวมท่ามกลางโรคระบาดและภัยธรรมชาติมากมาย

นายพันกล่าวว่าผลผลิตธัญพืชในปีที่แล้วซึ่งแตะระดับ 686.5 ล้านตัน สูงเป็นประวัติการณ์และสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่หน่วยงานกลางกำหนดไว้ที่ 650 ล้านตันเป็นปีที่แปดติดต่อกัน เขาได้ยกสุภาษิตจีนที่ว่า“หากคุณไม่มีประสบการณ์ด้วยตนเอง ก็ยากที่จะเข้าใจความยากลำบากที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้”  อย่างปริมาณน้ำฝนทำให้การปลูกพืชผลที่เก็บเกี่ยวในฤดูร้อนหยุดชะงักเป็นวงกว้าง และข้าวสาลีฤดูหนาวหนึ่งในสามต้องปลูกช้ากว่าที่กำหนดไว้ การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ความแห้งแล้ง และโรคระบาดจากแมลงยังทำให้การเก็บเกี่ยวในฤดูร้อนมีความซับซ้อนขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่าผลผลิตที่ได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดในปีที่แล้วจึงได้ขยายพื้นที่ปลูกธัญพืชเพิ่มขึ้น 701,000 เฮกตาร์ มีการจัดสรรเงินจำนวน 40,000 ล้านหยวน (5,900ล้านดอลลาร์) ให้ชาวนาเพื่อชดเชยราคาข้าวและข้าวสาลีที่ตกต่ำ นอกจากนี้ จัดสรรเงินอีก 17,000 ล้านหยวนเพื่อช่วยเหลือการเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูร้อน