ละครโทรทัศน์ยอดฮิตทำให้นักท่องเที่ยวแห่มาต้าหลี่

(People's Daily Online)วันจันทร์ 30 มกราคม 2023


นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับความงามตามธรรมชาติของทะเลสาบเอ๋อไห่ในต้าหลี่ มณฑลยูนนาน
ในช่วงวันหยุดเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ วันที่ 23 มกราคม 2566 (ภาพจากไชน่าเดลี่)

เสน่ห์ของวิถีชนบทและการแสวงหาความสุขสงบภายในเมืองโบราณที่เงียบสงบใกล้กับทุ่งหญ้าและทะเลสาบ ห่างไกลจากยานพาหนะและแล็ปท็อป ดึงนักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันมายังเขตปกครองตนเองชนชาติไป๋ต้าหลี่ มณฑลยูนนานในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิหรือเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ชีวิตโรแมนติกในต้าหลี่นี้เพิ่งปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนจากละครโทรทัศน์ยอดฮิตเรื่อง “ ณ ที่สายลมรักพัดผ่าน” นางเอกซึ่งเป็นสาวออฟฟิศที่ทำงานในเมืองแล้วลาออกจากงานหลังสูญเสียเพื่อนรักที่คบหากันมาตั้งแต่เด็ก และย้ายไปอยู่ในเมืองเล็กๆของเขตปกครองตนเองชนชาติไป๋ต้าหลี่ หลังจากเธอสามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในชนบทที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม มนต์เสน่ห์จากวัฒนธรรม ตลอดจนความมีน้ำใจของคนในท้องถิ่น ทำให้เธอกลับมามีความสุขกับการใช้ชีวิตอีกครั้งและตกหลุมรักกับหนุ่มผู้ประกอบการรายหนึ่ง ซีรีย์เรื่องนี้ได้คะแนนจากโต้วปั้น(Douban) 8.3 จากคะแนนเต็ม 10 สถานที่ที่ตัวละครหลักของเรื่องไปเยี่ยมชม และสิ่งต่างๆ ที่พระเอกนางเอกสัมผัสและปรากฎในละครดึงให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันย้อนรอยไปชมสถานที่จริงโดยหลังการแพร่ภาพออกอากาศตอนแรกของละครเรื่องนี้ได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ในช่วงต้นเดือนมกราคม ในบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ฟลิกกี้(Fliggy) มีการค้นหาข้อมูลเมืองต้าหลี่เพิ่มขึ้นสองเท่า และการค้นหาเมืองโบราณซาซี ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากต่างๆ เพิ่มขึ้น 10 เท่า ในขณะที่คำหลักที่เกี่ยวข้องกลายเป็นคำค้นหายอดนิยมบนในซิน่า เวยปั๋ว(Sina Weibo) หลายต่อหลายครั้ง

นักท่องเที่ยวคนหนึ่งจากจูไห่ในมณฑลกวางตุ้งกล่าวกับยูนนานเดลี่ว่าเธอมาเยี่ยมบ้านที่ตัวละครหลักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเฟิ่งหยางยี่ โดยบอกว่าเธอต้องการสัมผัสชีวิตสโลว์ไลฟ์ในต้าหลี่ หมี่ ตู๊ (Mi Dou) ขับรถจากเมืองเฉิงตูมณฑลเสฉวนที่อยู่ใกล้เคียงไม่ไกลกันนักเล่ากับ Chengdu.cn ว่าเธอต้องต่อแถวรอนาน 1 ชั่วโมงเพื่อไปเยี่ยมบ้าน เธอยังบอกด้วยว่าแม้เธอจะไม่รู้ตำแหน่งที่แน่ชัด แต่เธอก็หวังว่าจะได้ไปดูต้นไม้ที่ตัวละครหลักร้องไห้

ต้าหลี่ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องภูเขาชางซาน ทะเลสาบเอ๋อไห่ และวัฒนธรรมชนเผ่าไป่ ตามข้อมูลจากสำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวท้องถิ่น ในช่วงวันหยุดตรุษจีน ได้รองรับนักท่องเที่ยวประมาณ 4.23 ล้านคน เพิ่มขึ้น 219% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นจำนวน 3,160 ล้านหยวน (465 ล้านเหรียญสหรัฐ)เพิ่มขึ้น 162% ความเฟื่องฟูด้านการท่องเที่ยวเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ที่ส่งเสริมให้ผู้คนรีบออกไปค้นหาความตื่นเต้นจากการเดินทางที่ห่างหายไปนานสามปี

นายไบรอัน ลินเดน (Brian Linden) วัย 60 ปีจากสหรัฐอเมริกา ผู้บริหารโรงแรมลินเดน เซ็นเตอร์ ในเมืองโบราณซีโจวของต้าหลี่ กล่าวว่าเขาและเพื่อนร่วมงานยุ่งอยู่กับการรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในช่วงเทศกาล มีนักท่องเที่ยวเข้ามาทุกวันๆละ 500 ถึง 800 คน และลานของเราเปิดให้ทุกคนเข้าชมได้ เราต้องควบคุมการสัญจรไปมาของผู้คนเพื่อไม่ให้อาคันตุกะของเราได้รับผลกระทบ โดยบางฉากในละครเรื่องนี้ ถ่ายทำในโรงแรมของเขาและนักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องการเข้าไปดู เขายังเปิดเผยด้วยว่าห้องพักถูกจองหมดเกลี้ยงก่อนเทศกาล และคาดว่าโรงแรมจะมีรายได้สูงกว่าช่วงเทศกาลของ 2 ปีที่ผ่านมารวมกัน นับเป็นการมอบประสบการณ์ที่หลากหลายแก่ผู้เข้าพัก รวมทั้งการมัดย้อมและการเชิดมังกร โดยประมาณ 1 ใน 4 ของผู้เข้าพักไม่ใช่ชาวจีน พร้อมย้ำว่าการปรับนโยบายโควิด-19 ให้เหมาะสมสำหรับภาคการท่องเที่ยวเป็นความคิดที่ดี พวกเราไม่มีใครโคม่าและผมรู้สึกปลอดภัยที่นี่ “ชาวจีนและชาวต่างชาติจำนวนมากได้กลับมาสู่การแลกเปลี่ยนระดับประชาชน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้เรื่องราวที่แท้จริงของจีน” อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่าการเติบโตอย่างรวดเร็วอาจไม่ยั่งยืน และการควบคุมต้นทุนในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ

นางเหย่ อี้เจี่ยว (Ye Yijiao) ผู้ดูแลที่พักพร้อมอาหารเช้าระดับกลางในเมืองโบราณซวงหลาง ใกล้ทะเลสาบเอ๋อไห่ กล่าวว่าห้องพักทั้ง12 ห้องของเธอถูกจองประมาณหนึ่งเดือนก่อนเทศกาล เป็นเวลานานแล้วที่นักท่องเที่ยวพบว่าการหาห้องว่างที่นี่เป็นเรื่องยากมาก ราคาห้องพักของเธอสูงกว่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิครั้งก่อนๆ ถึง 3 เท่า เฉลี่ยอยู่ที่คืนละ 1,500 หยวน โดยเธอกล่าวถึงข้อจำกัดในการเดินทางที่ลดลงและอิทธิพลจากรายการโทรทัศน์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่กันแค่ 1-3 วัน ถ่ายรูปและเดินเล่นรอบๆ เมือง ซีรี่ย์เรื่องนี้เตือนให้พวกเขานึกถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายไม่เร่งรีบและเงียบสงบ ทะเลสาบมีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งปี และที่นี่ผู้คนต่างค้นหาบทกวี เธอเสริมว่าในขณะที่คนส่วนใหญ่ฟื้นตัวจากโควิด-19 และเศรษฐกิจก็ฟื้นตัวเช่นกัน แต่เธอก็คิดในแง่บวกเกี่ยวกับธุรกิจในอนาคตหลังจากช่วงวันหยุดยาว

นายหยาง ซูหลิน (Yang Shulin) หัวหน้าเมืองโบราณซาซีกล่าวว่าละครแสดงองค์ประกอบของวัฒนธรรมชนเผ่าไป๋ เช่นเดียวกับความงามและความสำเร็จในการทำให้เสน่ห์ของวิถีชีวิตในชนบทของซาซีเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ชม การท่องเที่ยวที่เฟื่องฟูยังสร้างความท้าทายให้กับเมืองเล็กๆ ที่มีประชากร 20,000 คนในแง่ของสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานและบริการ เช่นเดียวกับการอนุรักษ์ชีวิตที่เงียบสงบและเรียบง่าย โดยเสริมว่าหมู่บ้านมีแผนที่จะพัฒนาการเดินป่า ตั้งแคมป์ นิทรรศการดิจิทัลเกี่ยวกับชนเผ่าไป๋ การแสดงโอเปร่าและโครงการสำหรับเด็กที่จะมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับธรรมชาติเพื่อเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยว พร้อมทั้งย้ำว่า “นอกจากความงามตามธรรมชาติที่เห็นในละครแล้ว ยังมีขนบธรรมเนียม พิธีกรรม และประเพณีของครอบครัวที่สืบทอดต่อกันมานับพันปี ซึ่งไม่สามารถอธิบายได้ทั้งหมดจากการแสดงเพียงครั้งเดียว ดังนั้น เราจะเพิ่มองค์ประกอบเหล่านั้นลงในผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวในอนาคต เพื่อเพิ่มคุณค่าจากระยะสั้นให้กลายเป็นลุ่มลึกและยาวไกล”