จดหมายของประธานาธิบดีจีนช่วยให้เข้าใจโลกลึกซึ้งยิ่งขึ้น

(People's Daily Online)วันจันทร์ 06 กุมภาพันธ์ 2023


ภาพจากซินหัว

การติดต่อของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกับเยาวชนต่างชาติแสดงให้เห็นวิธีการทางการฑูตส่วนตัวของเขา ที่แม้ตารางงานประจำวันแน่นเอี้ยดแต่ประธานาธิบดีสี ก็ยังหาเวลาติดต่อกับคนหนุ่มสาวในต่างประเทศ เพื่อทำให้ประเทศจีนเป็นที่รู้จักมากขึ้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้นำจีนได้ตอบจดหมายเยาวชนชาวต่างชาติหลายสิบฉบับที่สนใจเรียนภาษาจีนและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนอย่างมาก ในจดหมายตอบวัยรุ่นในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ซาอุดีอาระเบีย ลาว อิตาลี และมอลตา นายสี จิ้นผิงสนับสนุนให้ทูตมิตรภาพรุ่นเยาว์เหล่านี้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของตนกับจีน ผู้เชี่ยวชาญระบุการติดต่อแลกเปลี่ยนกันทางจดหมายดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวทางส่วนตัวของประธานาธิบดีที่มีต่อการทูต และการเปิดกว้างของจีนสู่โลกเพื่อการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนที่มากขึ้น

จดหมายตอบฉบับล่าสุดเป็นการตอบจดหมายเมื่อเดือนที่แล้วถึงนักเรียนที่โรงเรียนสองภาษาฮังการี-จีนในกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี นายสี จิ้นผิง ยินดีต้อนรับพวกเขาเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของจีนหลังสำเร็จการศึกษา และกล่าวว่าเขาหวังว่าคนหนุ่มสาวจากฮังการีจะรักและเรียนภาษาจีนมากขึ้น หยีว์ เจียง รองเลขาธิการศูนย์ความคิดสี จิ้นผิงเกี่ยวกับการทูตและรองประธานศูนย์ศึกษาการทูต สถาบันการศึกษานานาชาติแห่งประเทศจีนระบุ“คนหนุ่มสาวไม่เพียงแต่เป็นผู้สืบทอดมิตรภาพดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเริ่มต้นความร่วมมือที่เป็นมิตรมากขึ้นในอนาคต” โดยเขากล่าวในจดหมายว่าเขาหวังว่าจะมีความพยายามมากขึ้นในการส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างผู้คนในประเทศต่างๆ และส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองของอารยธรรมที่แตกต่างกัน ซึ่งนำไปสู่การสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมวลมนุษยชาติ

แม้ความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างสองประเทศจะไม่สู้ดีนัก แต่ประชาชนทั่วไปก็ยังสามารถแสดงความปรารถนาของพวกเขาเพื่อมิตรภาพและความเข้าใจกันผ่านการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนในระดับต่างๆ รวมถึงการติดต่อกันทางจดหมาย ในปี 2020 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 50 คนที่โรงเรียนประถมศึกษาคาสเคด รัฐยูทาห์ของสหรัฐอเมริกา เขียนบัตรอวยพรเป็นด้วยภาษาจีนถึงนายสีจินผิงในวันสิ้นปีก่อนปีใหม่จีน โดยบอกเล่าเกี่ยวกับการเรียนภาษาจีนและงานอดิเรกของพวกเขา พวกเขายังแสดงความรักต่อประเทศจีนและวัฒนธรรมจีน ตลอดจนหวังว่าจะมีโอกาสไปเยือนประเทศจีนในจดหมายตอบนักเรียนเหล่านี้ นายสี จิ้นผิงบอกกับพวกเขาว่า จีนเป็นประเทศใหญ่เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา และคนจีนมีอัธยาศัยดีพอๆ กับชาวอเมริกัน และหวังว่าพวกเขาจะเป็นยุวทูตแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนสองประเทศ ในปี 2019 นายสี จิ้นผิงตอบจดหมายนักเรียนมัธยมปลายสหรัฐอเมริกากลุ่มหนึ่งที่กำลังเรียนภาษาจีนที่โรงเรียนมัธยมไนลส์ นอร์ธ รัฐอิลลินอยส์ หยีว์ เจียง รองประธานศูนย์ศึกษาการทูต สถาบันการศึกษานานาชาติแห่งประเทศจีน (China Institute of International Studies) กล่าวว่า การแลกเปลี่ยนกันทางจดหมายยังช่วยให้ผู้คนเห็นว่าผู้นำจีนมีความพยายามและมีความจริงใจอย่างยิ่งในการส่งเสริมภาษาและวัฒนธรรมจีนในเวทีระดับโลก

ในเดือนธันวาคม ประธานาธิบดีจีนตอบจดหมายนักศึกษาจาก4วิทยาลัยของซาอุดีอาระเบีย ก่อนเริ่มการเยือนซาอุดีอาระเบีย โดยตั้งข้อสังเกตว่าคนหนุ่มสาวเป็นแหล่งของความหวังที่ไม่สิ้นสุด และคนรุ่นใหม่คืออนาคตของมิตรภาพจีน-ซาอุดีอาระเบีย และชิโน-อาหรับ โดยแสดงความหวังว่านักเรียนจะรักษาช่วงเวลาที่ดีและตั้งใจเรียน เพื่อสร้างคุณูปการใหม่ในการเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างชาวจีนและชาวซาอุดิอาระเบีย ตลอดจนระหว่างชาวจีนและชาวอาหรับโดยทั่วไป นางสาววิศาล อับดุลรามาน อัลการ์นี ซึ่งเรียนวิชาเอกภาษาจีนที่มหาวิทยาลัยคิงอับดุลอาซีส เมืองเจดดาห์ทางชายฝั่งตะวันตกของซาอุดีอาระเบีย เป็นหนึ่งในนักเรียนที่เขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีจีนสำหรับเธอคงไม่มีกำลังใจใดดีไปกว่าจดหมายจากประธานาธิบดีจีน เธฮกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวก่อนหน้านี้ว่า “ฉันตื่นเต้นมากและบอกครอบครัวของฉันทันทีที่ได้รับจดหมายตอบ พวกเขาทุกคนภูมิใจในตัวฉัน ฉันโชคดีมากที่ได้ใช้ภาษาจีนในช่วงปีที่สวยงามที่สุดในชีวิตของฉัน จดหมายตอบจากท่านประธานาธิบดีทำให้ฉันมีความแข็งแกร่งขึ้น มีความมั่นใจในการเรียนภาษาจีนให้ดียิ่งขึ้น”  ด้วยแรงบันดาลใจจากจดหมายของประธานาธิบดีสี เธอกล่าวว่าเธอจะทำงานอย่างหนักเพื่อภาษาจีน เพื่อที่เธอจะได้เป็นครูสอนภาษาและช่วยให้ชาวซาอุดิอาระเบียเรียนภาษาจีนได้มากขึ้น นอกจากนี้ เธอยังกล่าวอีกว่า เธอต้องการอุทิศตนให้กับการแปลวิดีทัศน์และบทความเกี่ยวกับจีนเพื่อเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียให้มากขึ้น เพื่อแนะนำประเทศจีนให้กับคนทั่วโลก

จากข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศ ณ สิ้นปี 2021 กว่า 180 ประเทศและภูมิภาค ได้เริ่มการศึกษาภาษาจีน และ 76 ประเทศได้รวมภาษาจีนไว้ในหลักสูตรระดับชาติ นอกจากนี้ จำนวนผู้เรียนภาษาจีนในต่างประเทศมีมากกว่า 25 ล้านคน และเกือบ 200 ล้านคนได้เรียนรู้หรือใช้ภาษาจีนนอกประเทศจีน

ในจดหมายที่เขียนถึงประธานาธิบดีสีในปี 2021 ตัวแทนของคนหนุ่มสาวต่างชาติจาก 28 ประเทศจากเวทีการสนทนาผู้นำรุ่นเยาว์ระดับโลก (Global Young Leaders Dialogue) ได้พูดคุยเกี่ยวกับการเดินทางไปจีนและแสดงความหวังว่าจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการเจรจาระหว่างจีนกับประเทศอื่นๆ โลก เวทีนี้เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของคนหนุ่มสาวจากประเทศและสาขาต่างๆในจดหมายตอบของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้ชื่นชมความพยายามอย่างแข็งขันของพวกเขาในการเยี่ยมชมส่วนต่างๆ ของจีน และทำความเข้าใจจีนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และยินดีที่จะต้อนรับคนหนุ่มสาวจากต่างประเทศให้มาเยือนจีนเพื่อแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น

นางสาวเหมียว ลู่ ผู้ก่อตั้งเวทีนี้กล่าวว่าผู้เข้าร่วมทุกคนได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากจดหมายของประธานาธิบดีสี พวกเขารู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นมากที่จะได้สนทนาในลักษณะนี้กับประมุขของประเทศ    พร้อมเสริมว่าคนหนุ่มสาว จะได้ประโยชน์จากคำกล่าวของท่านสีต่อไปในอนาคต

นางสาวเหมียว ลู่ยังเป็นเลขาธิการศูนย์จีนและโลกาภิวัตน์ ซึ่งเป็นคลังสมองที่ตั้งอยู่ในปักกิ่งด้วย กล่าวว่าตามที่ท่านสีได้เน้นย้ำในจดหมายดังกล่าวว่ายินดีต้อนรับคนหนุ่มสาวจากส่วนอื่นๆ ของโลกให้มาเยือนจีนเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับ การพัฒนาประเทศ เมื่อพวกเขารู้ว่าประเทศจีนที่แท้จริงเป็นอย่างไร พวกเขากระตือรือร้นที่จะแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาได้เห็นและได้ยินได้ฟังที่นี่กับคนอื่นๆ

นายดงโลนา อดาวา โทมัสจากชาดและเป็นผู้สมัครเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาเอกด้านการเมืองระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ได้มีส่วนร่วมในการเขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีสี เมื่อปี 2021 กล่าวว่า “การตอบสนองของประธานาธิบดีสี สนับสนุนให้เราศึกษาให้หนักขึ้นและเดินทางไปให้ทั่ว เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีน เพื่อให้เป็นไปตามที่ท่านได้กล่าวไว้ในจดหมาย เราได้รับโอกาสหลายครั้งในการเดินทางไปยังพื้นที่ภาคต่างๆทั้งระดับมณฑล รวมถึงเขตซินเจียง” ซึ่งการไปทัศนศึกษาครั้งนี้ทำให้มีความรู้เกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรมจีนอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า“การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประชาชนประเทศต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันเราอยู่ในโลกยุคโลกาภิวัตน์และสามารถเชื่อมโยงถึงกัน และแก่นแท้ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่าง ๆ ต้องอาศัยการแลกเปลี่ยนดังกล่าว”