จีนมีการเดินทางเพื่อทัศนศึกษาเพิ่มขึ้น

นักเรียนร่วมทัศนศึกษาที่กว่างโจว 4 มีนาคม 2566 (ซินหัว)

ปีที่แล้วมีผู้เดินทางทัศนศึกษามากกว่า 6 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด

สถาบันการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน (China Tourism Academy) เผยแพร่รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า การท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาได้รับความนิยมในหมู่คนทุกวัย ปีที่แล้วมีกว่า 6 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าจำนวน 4.8 ล้านคนในช่วงก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2562 ตามรายงานของคณะกรรมการการศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และสาธารณสุขของสภาประชาชนแห่งชาติ

นายลั่ว ซู่กัง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการฯกล่าวในฟอรัมเมื่อวันจันทร์ว่า “ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษากับผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวอื่น ๆ คือการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษามุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้ความรู้ในขณะเดินทาง”  การท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาหรือทัศนศึกษาสามารถย้อนหลังไปยังราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ.1503-1822) และราชวงศ์หมิง (พ.ศ.1911-2187) เมื่อกวีหลายคนเขียนถึงประสบการณ์ของพวกเขาในการเดินทางเพื่อทัศนศึกษา “ประเทศนี้ก่อตั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาในช่วงที่มีการปฏิรูปและเปิดประเทศ ซึ่งมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา” พร้อมเสริมว่าจนถึงขณะนี้นักเรียนโรงเรียนประถมและมัธยมต้นถือเป็นกลุ่มหลักของการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา 

นายไต้ ปิน ประธานสถาบันการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน กล่าวในฟอรัมว่าการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาได้ส่งเสริมการศึกษาด้านสังคมของนักเรียนประถมและมัธยมต้น ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผสมผสานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว พร้อมแนะนำให้จีนสร้างที่ตั้งแคมป์ระดับชาติสำหรับการท่องเที่ยวเชิงศึกษาในสถานที่ที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม นายลั่ว ซู่กัง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการฯกล่าวว่าการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาของประเทศยังคงประสบปัญหาในการพัฒนา เช่น มีการเชื่อมโยงกับหลักสูตรระดับชาติไม่มาก และโอกาสในการฝึกฝนระหว่างการเดินทางมีน้อย การกำกับดูแลการตลาดตามหลังการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาอยู่หลายขุม เนื่องจากขาดข้อกำหนดการเข้าสู่ตลาดระดับรัฐ ตลาดการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาในประเทศยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยมีหน่วยงานต่างๆ มากมาย เช่น บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวและที่ปรึกษาพากันหลั่งไหลเข้าสู่ตลาด ภารกิจเร่งด่วนสำหรับหน่วยงานภาครัฐคือการช่วยรักษาโมเมนตัมการพัฒนาที่ดีของอุตสาหกรรม ในขณะเดียวกันก็กำหนดและดำเนินการตามข้อกำหนดหรือมาตรฐานเพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลตลาด

นายซีว์ ฮั่วหยี่ ประธานกลุ่มการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมโลกมณฑลอันฮุย (Anhui Global Culture Tourism Group) กล่าวว่าการขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา หลายคนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาเป็นผู้ที่เคยทำงานกับบริษัทนำเที่ยว และบางคนก็มองว่ามันเป็นธุรกิจ จำเป็นต้องจัดทำคู่มือการเดินทางเพื่อการศึกษาอย่างมืออาชีพมากขึ้นและรับสมัครผู้มีความสามารถเพื่อพัฒนาหลักสูตรที่จะใช้ระหว่างการเดินทางเพื่อการศึกษา พร้อมระบุ “เรายังต้องการมาตรฐานระดับรัฐเพื่อช่วยให้เรากำหนดข้อกำหนดในการสรรหาและฝึกอบรมพนักงานได้ดียิ่งขึ้น”