จีนรักษ์โลก ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ กระตุ้นนานาประเทศให้ตามรอย

(People's Daily Online)วันพฤหัสบดี 23 มีนาคม 2023

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2566 ครบรอบปีที่ 11 ของวันป่าไม้โลก ด้วยการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของชีวภาพและการเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่วจีน ความสำเร็จในการปกป้องสิ่งแวดล้อมคืบหน้าอย่างมีนัยะสำคัญ

อัตราการปกคลุมของพื้นที่ป่าไม้ในจีนอยู่ที่ 24.02% มีพื้นที่ป่าไม้ 231 ล้านเฮกตาร์ (1,443.75 ล้านไร่) เป็นพื้นที่สีเขียวใหม่ที่มีขนาดถึงหนึ่งในสี่ของโลก ทำให้จีนเป็นแหล่งทรัพยากรป่าไม้ที่เจริญเติบโตเร็วและกว้างใหญ่ที่สุดในโลก

จีนมีความก้าวหน้าอย่างน่าทึ่งในการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ ตามข้อมูลของรายการประจำปี 2565 บนนิตยสาร Life China เดือนพฤษภาคม 2565 จำนวนสัตว์ป่าหายากและพืชที่กำลังสูญพันธุ์มากกว่า 300 ชนิดเติบโตขึ้น จำนวนประชากรแพนด้ายักษ์และกวางละมั่งทิเบตต่างเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยะสำคัญโดยทั้งสองลดระดับจากใกล้สูญพันธุ์เป็นระดับความเสี่ยง จำนวนกวางพันธุ์หมีลู่ (Milu) ที่เคยหายไปจากป่าจีน ตอนนี้มีมากกว่า 8,000 ตัว

ในขณะเดียวกัน เมื่อเดือนธันวาคม 2565 องค์กรนาซ่าได้ปล่อยภาพถ่ายใหม่ของโลก เปรียบเทียบกับภาพถ่าย “บลูมาร์เบิล” อันมีชื่อเสียงที่ถ่ายเมื่อ 50 ปีก่อน ภาพใหม่แสดงให้เห็นใบหน้าของโลกซึ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด

แผ่นน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกามีขนาดลดลงอย่างเห็นได้ชัด พืชสีเขียวเข้มในเขตร้อนของแอฟริกาหดตัวลงอย่างมาก และภูมิทัศน์ที่เคยเขียวขจีของมาดากัสการ์ในปัจจุบันส่วนใหญ่กลายเป็นสีน้ำตาล

ท่ามกลางการเผชิญความเสียหายในความหลากหลายทางชีวภาพ ประชาคมระหว่างประเทศควรทำอย่างไรเพื่อร่วมมือและรับวิกฤติการณ์นี้ ประชาคมโลกเรียนรู้อะไรจากกระบวนการรักษ์โลกของจีน

นายโจว จินเฟิง รองประธานและเลขาธิการมูลนิธิอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและพัฒนาพื้นที่สีเขียวของจีน และ นายชาห์บาซ ข่าน ผู้อำนวยการและผู้แทนองค์กรยูเนสโกประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ญี่ปุ่น มองโกเลีย และสาธารณรัฐเกาหลี ได้รับเชิญให้หารือเกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าวในเวทีพูดคุยดับบลิวอี (W.E. Talk) ครั้งล่าสุด

นายชาห์บาซ ข่านกล่าวว่า ประสบการณ์ของจีนด้านการอนุรักษ์ระบบนิเวศมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานประเพณีกับความสมัยใหม่และนำมาซึ่งปัญญา ความเป็นผู้นำของจีนและแนวคิดเกี่ยวกับอารยธรรมเชิงนิเวศสำคัญต่อโลกมาก

นายโจวเชื่อว่า ด้วย “อารยธรรมเชิงนิเวศ” ซึ่งระบุบนรัฐธรรมนูญนั้น จีนได้กำหนดวิธีการต่าง ๆ เพื่ออนุรักษ์ระบบนิเวศและทำประชามติวงกว้างในหมู่ประชาชน จีนเป็นผู้นำโลกในการเผยแพร่ความหลากหลายทางชีวภาพ

ด้านล่างเป็นข้อความจากเวทีพูดคุยดับบลิวอี

China News Service: ใครควรมีบทบาทนำในการหยุดยั้งแนวโน้มการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

นายโจว จินเฟิง: การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพเป็นความท้าทายอันใหญ่หลวงของมนุษยชาติและโลก และทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อจัดการเรื่องนี้ รัฐบาลควรเป็นผู้นำ ในขณะที่ความร่วมมือจากภาคสังคม บรรษัท บุคคลก็เป็นสิ่งจำเป็น องค์การระหว่างประเทศ บุคคลทุกอาชีพสาขาและสาธารณชนควรสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเอาจริง

นายชาห์บาซ ข่าน: ทุกประเทศจะต้องทำ และทุกคนในประเทศจะต้องทำ เริ่มตั้งแต่ระดับบุคคลจนถึงระดับเขต เมือง และมณฑล ตลอดทางจนถึงรัฐบาลกลาง และรัฐบาลต่าง ๆ ต้องร่วมมือกัน

สาเหตุง่าย ๆ คือเนื่องด้วยประเด็นเหล่านี้เชื่อมโยงกัน ณ ขณะนี้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงจำเป็นต้องร่วมกันทำงานอย่างจริงจังมากกว่าเดิม มันไม่ใช่แค่ปัญหาที่แก้ไขได้โดยนักวิทยาศาสตร์ หรือรัฐบาลเท่านั้น เราต้องการนักธุรกิจและต้องการทุกคนร่วมกันแก้ปัญหา

China News Service: ประเทศต่าง ๆ จะร่วมมืออย่างแข็งขันเพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพได้อย่างไร

นายโจว จินเฟิง: ประการแรก ประเทศต่าง ๆ ต้องเสริมสร้างการประสานงานด้านนโยบายตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศด้านสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์

ประการที่สอง การแบ่งปันข้อมูลจะสร้างความแตกต่าง สัตว์บางชนิดมีการอพยพ เช่น นกปักกิ่ง เมื่อกรุงปักกิ่งเข้าสู่ฤดูหนาว นกจะอพยพไปแอฟริกาใต้ ยังมีสายพันธุ์อพยพหลายชนิดและสายพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน เช่น ตั๊กแตนทะเลทราย ซึ่งเป็นภัยพิบัติทางการเกษตรและภัยคุกคามต่อความหลกหลายทางชีวภาพ ประเทศต่าง ๆ ควรมีการคาดการณ์ เตือนภัยล่วงหน้า และช่วยกันจัดหาข้อมูลทางดาวเทียม เทคโนโลยีและสารสนเทศ

ประการที่สาม คือเรื่องการแบ่งปันเทคโนโลยี ประเทศต่าง ๆ มีเทคโนโลยีเฉพาะด้านในสาขาที่ต่างกัน เช่น พื้นที่แห้งแล้งและป่าดิบชื้น การแบ่งปันทางเทคโนโลยีเป็นเรื่องสำคัญเพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพของโลก

นายชาห์บาซ ข่าน: ผมคิดว่าพวกเราต้องชักชวนประชาชนและสื่อสารร่วมกันดั่งเช่น ตัวอย่างของ COP15 กรอบงานคุนหมิง-มอนทรีออล

สิ่งที่องค์กรยูเนสโกกำลังทำคือ การสร้างเครือข่าย เช่น เครือข่ายเขตสงวนชีวมณฑลโลก (World Network of Biosphere Reserves ) และแหล่งมรดกโลกและมรดกทางธรรมชาติก็เป็นเรื่องสำคัญ อุทยานธรณีระดับโลกที่มีความหลากหลายทางธรณีวิทยาก็เป็นสิ่งสำคัญมากมาก

อะไรเกิดขึ้นกับเครือข่ายเหล่านี้ ตัวอย่างที่เราเห็น เช่น อุทยานธรณีระดับโลกและเครือข่ายความหลากหลายทางธรณีวิทยา ผู้นำจากนายกเทศมนตรี ผู้นำทางการเมืองของเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางชีวภาพ ผู้นำระดับท้องถิ่น มณฑลและระดับชาติต่างนำพานักวิทยาศาสตร์ และคนในพื้นที่ รวมทั้งกลุ่มคนที่หลากหลาย โดยเฉพาะวัยรุ่นมาร่วมสร้างพลังกับพวกเราด้วย

China News Service: โลกได้เรียนรู้อะไรจากประสบการณ์การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพของจีน

นายโจว จินเฟิง: ข้อแรก คนจีนได้รับความรู้ด้านการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพมากยิ่งขึ้น แนวคิดเรื่องอารยธรรมทางนิเวศวิทยาถูกระบุอยู่บนรัฐธรรมนูญของประเทศ จีนได้พัฒนาชุดกฏหมายและระเบียบข้อบังคับอย่างเป็นระบบภายใต้แนวทางของรัฐธรรมนูญ

ข้อสอง การปกป้องความหลายหลายทางชีวภาพกลายเป็นฉันทามติทั่วประเทศของจีน พูดอย่างเห็นชัด ๆ ได้เลยว่า จีนเป็นผู้นำอย่างแท้จริงในการสร้างความเข้าใจด้านความหลากหลายทางชีวภาพให้แก่ประชาชน

ข้อสาม ชุดลำดับของวิธีการได้ถูกพัฒนาขึ้นในจีนเพื่อสนับสนุนแนวคิดเรื่องอารยธรรมทางนิเวศวิทยาวิธีการเหล่านี้มีแนวคิดหลักร่วมกันคือ แหล่งน้ำที่ใสสะอาดและหุบเขาที่เขียวขจีเป็นสินทรัพย์อันประเมินค่ามิได้ สินทรัพย์อันล้ำค่าเหล่านี้ก็คือธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ

นายชาห์บาซ ข่าน: ประสบการณ์ของจีนในด้านการอนุรักษ์ทางนิเวศวิทยามีเอกลักษณ์อย่างยิ่ง กล่าวได้ว่าเป็นการนำประเพณีด้วยความทันสมัยนำมาซึ่งแนวคิดทางปรัชญา ดังนั้น อารยธรรมทางนิเวศวิทยาที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเสนอ เป็นแนวคิดที่สำคัญมาก

ถ้าเราคิดถึงการปกป้องนิเวศวิทยาอยู่ในมือด้านหนึ่ง และอีกด้านคืออารยธรรม และหากเราคิดเพียงแค่สิ่งใดสิ่งเดียวจากสองสิ่งนี้ เราจะไม่สามารถสร้างความก้าวหน้าให้โลกได้เลย แต่หากเราคิดเรื่องอารยธรรมทางนิเวศวิทยา ความกลมกลืนกันของการมีอยู่ของมนุษย์กับผืนโลก นั่นเป็นส่วนที่สวยงามที่สุด

ผมคิดว่า อารยธรรมทางนิเวศวิทยาเป็นแนวคิดที่นำไปใช้ได้จริง แนวคิดที่สามารถนำพามาตรฐานระดับโลกเข้าด้วยกัน เช่น อนุสัญญาความหลากหลายทางชีวภาพ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือ อนุสัญญาสากลว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพที่มีลักษณะเฉพาะของจีนนำมาซึ่งอารยธรรมทางนิเวศวิทยา ฉะนั้น แนวคิดเรื่องอารยธรรมทางนิเวศวิทยาของจีนเป็นสิ่งสำคัญต่อโลกอย่างยิ่ง

China News Service: เราไม่ควรขยายเศรษฐกิจด้วยต้นทุนทางสิ่งแวดล้อม ประสบการณ์อะไรของโลกที่คุณคิดว่ามีคุณค่าน่าสนับสนุน

นายโจว จินเฟิง: พวกเราควรกระตุ้นการตื่นรู้ของประชาชน ออกกฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และเรียกร้องให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น นี่เป็นเครื่องมือสามอย่างในการประสานงานเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการปกป้องสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น โครงข่ายไฟฟ้าถูกพิจารณาว่ามีผลกระทบในทางลบต่อนก ดังนั้น บริษัทสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าของจีน (State Grid Corp of China) จึงจัดอาสาสมัครเพื่อลาดตระเวนเครือข่ายทั่วประเทศเพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์และประกันการพัฒนาเศรษฐกิจ

จีนได้ดำเนินคดีต่อการฟ้องร้องเพื่อสาธารณประโยชน์ทางสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ปี 2558 มูลนิธิเพื่อการพัฒนาสีเขียวและอนุรักษ์ความหลากหลายทางธรรมชาติในประเทศจีน (CBCGDF) ได้ฟ้องร้องเพื่อปรับโครงการพัฒนาทางเศรษฐกิจหลายคดี เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพในขณะที่กำลังพัฒนาด้านเศรษฐกิจ

China News Service: ในอนาคตเราจะปกป้องสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นอย่างไร ด้วยการใช้นวตกรรมทางเทคโนโลยี

นายโจว จินเฟิง: เรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พวกเราไม่สามารถกล่าวได้ว่ามันเป็นสิ่งดีหรือไม่ดี การใช้แนวคิดอารยธรรมทางนิเวศวิทยาเป็นบทนำ พวกเราควรพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ช่วยขับดันการคงอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ และเพื่อตอบรับต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน

ภายใต้การนำของอารยธรรมนิเวศวิทยา เครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการแก้ปัญหาสถานการณ์ปัจจุบันคือ การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างรอบด้าน

นายชาห์บาซ ข่าน: วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกำลังวิวัฒนาการไป มีผลผลิตจำนวนมากจากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซึ่งเป็นอันตรายและก็ยังคงส่งผลอยู่ แต่ทว่าก็มีความหวังไม่น้อยเช่นกัน พวกเรามีการปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 ผมคิดว่าพวกเรากำลังจะเข้าสู่การปฏิรูปอุตสาหกรรมจาก 4.0 ไปยัง 5.0 ซึ่งเรามองเรื่องเทคโนโลยีที่สะอาดมากขึ้น อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (ไอโอที) ที่ดีขึ้น การใช้ปัญญา ประดิษฐ์ที่ดีขึ้น บล็อกเชน และวิธีการค้นหาข้อมูลจำนวนมหาศาลจากความสามารถของดาวเทียมและเหมืองข้อมูล

การใช้ดาวเทียม การใช้พลังการประมวลผลที่ดีกว่าของพวกเรา ใช้เหมืองข้อมูลที่ดีกว่าผ่านปัญญาประดิษฐ์ และการใช้ไอโอทีในการเชื่อมต่อด้วยเซนเซอร์ต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้จะทำให้พวกเราเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกและสถานที่ของมัน และพวกเราก็กำลังใช้เครื่องมือเหล่านี้อยู่