ผู้เชี่ยวชาญชาวโครเอเชียระบุยุโรปจะต้องไม่เป็นข้าทาสบริวารของสหรัฐฯ
ธงสหภาพยุโรปปรากฏอยู่นอกสำนักงานคณะกรรมาธิการยุโรปในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม วันที่ 6
มกราคม 2566 (ซินหัว/เจิ้ง ฮวนซง)
นายดราโก โพลดรูเกซ นักวิเคราะห์การเมืองชาวโครเอเชียกล่าวว่ายุโรปต้องเป็นอิสระเพราะนั่นเป็นทางเดียวที่จะอยู่รอด แม้ว่าจะเป็นพันธมิตรของสหรัฐอเมริกา แต่ยุโรปก็จะต้องไม่กลายเป็นข้าทาสบริวารของสหรัฐอเมริกา ที่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่วอชิงตันกำหนด
สำนักข่าวซินหัว รายงานจากกรุงซาเกร็บ เมืองหลวงของโครเอเชีย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2566 อ้างคำกล่าวผู้เชี่ยวชาญชาวโครเอเชียในวันเดียวกันว่ายุโรปต้องเป็นอิสระในแง่ของนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง และต้องไม่ตกเป็นข้าทาสบริวารของสหรัฐอเมริกา
นายดราโก โพลดรูเกซ นักวิเคราะห์การเมืองชาวโครเอเชียกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซินหัวว่ายุโรปต้องเป็นอิสระเพราะนั่นคือทางเดียวที่จะอยู่รอด แม้ว่าจะเป็นพันธมิตรของสหรัฐอเมริกา แต่ยุโรปก็จะต้องไม่เป็นข้าทาสบริวารของสหรัฐอเมริกา ที่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่วอชิงตันกำหนด
ผู้คนภายนอกอาคารสำนักงานคณะกรรมาธิการยุโรปในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 18
พฤศจิกายน 2565 (ซินหัว/เจิ้ง ฮวนซง)
นายดราโก โพลดรูเกซชื่นชมนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่ผลักดัน “ความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์” จากสหรัฐอเมริกา โดยสังเกตว่า “เช่นเดียวกับรุ่นก่อนๆ ของเขา มาครงเป็นตัวแทนของแนวคิดเรื่องความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์ของยุโรป” เขายังกล่าวด้วยว่ายุโรปต้องร่วมมือกับประเทศอื่นๆ เหนือสิ่งอื่นใดกับจีน และประเทศในแอฟริกาและอาหรับ ซึ่งยุโรปสามารถทำการตลาดผลิตภัณฑ์ของตนได้ การพึ่งพาสหรัฐฯ ไม่ได้มีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศยุโรป พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าสหรัฐอเมริกา ได้รับผลจากยุโรปจากการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรงจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน เนื่องจากนำไปสู่วิกฤตพลังงานและอัตราเงินเฟ้อที่สูงทั่วยุโรป อีกทั้งการที่สหรัฐอเมริกาเข้ามาแทนที่รัสเซียในฐานะผู้จัดหาน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดให้แก่สหภาพยุโรป
นายดาวอร์ เดียเนโร่เห็นด้วยกับนายโพลดรูเกซ ว่ายุโรปต้องมีนโยบายเป็นอิสระจากสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นหนทางเดียวที่จะรักษาผลประโยชน์ระยะยาวของยุโรป
ผู้คนเดินผ่านอาคารคณะกรรมาธิการยุโรปในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 21
ธันวาคม พ.ศ. 2564 (ซินหัว/เจิ้ง ฮวนซง)
นายดาวอร์ เดียเนโร่กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่ายุทธศาสตร์การปกครองตนเองของยุโรป ซึ่งผลักดันโดยประธานาธิบดีฝรั่งเศส เป็นเป้าหมายที่เป็นจริงได้ และเป็นสิ่งที่ยุโรปมุ่งหมายให้ตระหนักมาเป็นเวลานาน และเสริมว่ายุโรปต้องดำเนินการในลักษณะที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นตัวของตัวเองทั้งด้านนโยบายต่างประเทศ ความมั่นคง และความเป็นหนึ่งเดียวกัน
ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์การเมืองทั้งสองท่านนี้มีขึ้นในขณะที่ประธานสภายุโรป นายชาลส์ มิเชลกล่าวว่าผู้นำสหภาพยุโรปจำนวนมากขึ้นสนับสนุนการผลักดันของประธานาธิบดีมาครง สำหรับ “ยุทธศาสตร์ความเป็นอิสระ”
ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานสภายุโรปกล่าวถึงสหรัฐอเมริกา ตามรายงานของสำนักข่าวโพลิติโก โดยระบุว่า“ในประเด็นความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา เป็นที่แนชัดว่าอาจมีความแตกต่างและความละเอียดอ่อนสำหรับสภายุโรป...ผมคิดว่ามีไม่กี่คนที่คิดเหมือนนายเอ็มมานูเอล มาครง” และยังเพิ่มเติมว่า“หากการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกานี้จะถือว่าเราติดตามจุดยืนของสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นระบบในทุกประเด็นอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ก็หาใช่ไม่”