บาร์บีคิวชื่อดังสะท้อนความมีชีวิตชีวาของจีนหลังโรคระบาด
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองจือปั๋ว มณฑลซานตงเม่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 โดยกล่าวว่า บางคนบอกว่านี่เป็นเพียงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ประโคมข่าวที่ได้รับการสนับสนุนจากนักกิน ผู้มีอิทธิพล และนักลงทุน แล้วไง? บาร์บีคิวอันโด่งดังของเมืองอุตสาหกรรมเก่าที่มีผู้อยู่อาศัย 4.7 ล้านคนแห่งนี้ได้ดึงนักกินจำนวนมาก จุดประกายเศรษฐกิจให้เฟื่องฟูและความตื่นเต้นหลังการแพร่ระบาดที่รอคอยมานาน
เมืองจือปั๋วอยู่ห่างจากกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 450 กิโลเมตร สามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยรถยนต์หรือรถไฟ การนั่งรถไฟความเร็วสูงจากปักกิ่งใช้เวลาสูงสุด 3 ชั่วโมง ค่าใช้จ่าย 230 หยวนหรือราว 1,150 บาท (33 ดอลลาร์สหรัฐ)
นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับอาหารบาร์บีคิวท้องถิ่นในเมืองจือปั๋ว มณฑลซานตง ทางตะวันออกของจีน เมื่อ
วันที่ 29 เมษายน 2566 (ซินหัว/จู เว้ย)
“เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า อาหารอร่อยและราคาไม่แพง” เหอ ซิน นักศึกษามหาวิทยาลัยจากเมืองเหวยฟางที่อยู่ใกล้เคียงกล่าว ในราคาไม่ถึง 100 หยวน แม้แต่คนกินจุก็สามารถกินได้ที่ร้านบาร์บีคิวทุกแห่งในเมืองจือปั๋วโดยอิ่มแปล้ด้วยเนื้อย่างหลากหลายชนิดและผักสดในห่อ
“ไม่เหมือนกับร้านอาหารจีนส่วนใหญ่ตรงที่อาหารที่นี่จะเสิร์ฟแบบดิบๆ และผู้ทานควรย่างบนเตาที่ตั้งไว้ในแต่ละโต๊ะ” เหอกล่าว
เบื้องหลังความอร่อยและความนิยมอย่างล้นหลามที่เกิดขึ้นในเมืองจือปั๋ว คือความอิ่มอกอิ่มใจของชาวจีนหลังโรคระบาด ตลอดจนความมีชีวิตชีวาและความยืดหยุ่นในสังคมแห่งความรัก งานเลี้ยงดังกล่าวซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัยทั่วประเทศจีนในช่วงต้นปีนี้ ได้ผลักดันให้เมืองจือปั๋วกลายเป็นดาวเด่นในโลกออนไลน์ และเสนอจุดหมายปลายทางยอดนิยมให้กับนักกินจากทั่วประเทศในช่วงวันหยุดฤดูใบไม้ผลิแรก หลังจากที่จีนได้ปรับมาตรการรับมือโควิด-19 ให้เหมาะสม
ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยสำนักงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวท้องถิ่นในช่วงวันหยุดยาว 5 วันของเดือนพฤษภาคม เมืองนี้ได้รองรับนักท่องเที่ยวหลายพันคน และยอดสั่งซื้อด้านการท่องเที่ยว ซึ่งรวมถึงโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจถึง 2,000 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 แสดงให้เห็นอาหารสไตล์บาร์บีคิวจือปั๋วซึ่งประกอบด้วยเนื้อย่างและ
ต้นหอมห่อด้วยแผ่นแป้งตอติญ่า เมืองจือปั๋วมณฑลซานตง ภาคตะวันออกของจีน (ซินหัว/หลิว อี้หมิง)
เมืองแห่งความรัก
ด้วยตระหนักดีว่าโรงแรมในใจกลางเมืองถูกจองเต็มหมดแล้วและคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาจะเกินกว่าการรองรับของที่พักในเมือง สำนักงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวท้องถิ่นจึงออกจดหมายเปิดผนึกเมื่อวันที่ 26 เมษายน บอกกล่าวให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะมาพักในโรงแรมที่นี่ให้เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน
นายหลี่ ยี่ว์เฉิง ที่เพิงจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและได้งานที่บริษัทวัสดุแห่งใหม่ในเมืองจือปั๋วเมื่อปีที่แล้ว เขาทำความสะอาดห้องนอนพิเศษในอพาร์ตเมนต์ของเขาและเสนอให้เป็นที่พักฟรีแก่นักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถจองห้องพักในโรงแรมได้นายหลี่กล่าวกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซินหัวว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจจากชาวท้องถิ่นคนอื่นๆ ที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เขากล่าวว่า “ผมออกไปเดินเล่นและเห็นคนเข้าคิวยาวนอกร้านอาหารบาร์บีคิวทุกร้านเพื่อรอโต๊ะ มีคนแจกเครื่องดื่มฟรีให้พวกเขา” พร้อมระบุ“เจ้าของรถส่วนตัวบางรายเสนอบริการรถฟรีให้กับนักท่องเที่ยวในตอนกลางคืน เมื่อแท็กซี่มีไม่พอ”
นายจาง เผิง อาสาสมัครกล่าวว่าทุกคนกำลังทำงานเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของเมืองด้วยการทำงานของตนเองให้ดีและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
นายหลี่ ยี่ว์เฉิง ผู้อาศัยใหม่ในเมืองจือปั๋ว กล่าวว่านี่คือ “เมืองแห่งความรัก” “นั่นคือสิ่งที่ประทับใจเมื่อมาที่นี่ครั้งแรก และผมจะส่งต่อความรักนี้ให้กับคนอื่นๆ”นายหลี่ซึ่งเป็นชาวมณฑลจี๋หลินทางตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างจากเมืองจือปั๋วกว่า 1,300 กิโลเมตร กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่พบอาหารบ้านเกิดของเขาที่โรงอาหารของบริษัท นั่นทำให้เขาคิดถึงบ้านน้อยลงและเขาก็ตกหลุมรักเมืองนี้
อาสาสมัครนำทางนักท่องเที่ยวที่ขับรถเที่ยวเองในเมืองจือปั๋ว มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน เมื่อ
วันที่ 29 เมษายน 2566 (ซินหัว/หวงผู้ เสี่ยวเหวิน)
เมืองจือปั๋วยินดีต้อนรับนักศึกษาจบใหม่อย่างน้อย 100,000 คนที่เลือกทำงานและใช้ชีวิตที่นี่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และวางแผนที่จะรับนักศึกษาอีก 200,000 คนในช่วง 5 ปีตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2570
คาดว่าความพยายามเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาสมองไหลของเมืองที่เริ่มขึ้นในช่วงเปลี่ยนศตวรรษ เมื่อฐานการผลิตเครื่องปั้นดินเผาและแก้วโบราณ รวมถึงแหล่งกำเนิดของอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของจีนประสบปัญหาคอขวดในการเติบโตเนื่องจากมลพิษและการขาดแคลนทรัพยากร
ทุกวันนี้ เมืองนี้ได้ต้อนรับนักกินบาร์บีคิวตัวยงด้วยไมตรีจิตแบบเดียวกันโดยการให้บริการจอดรถฟรี 2 ชั่วโมงที่สถานีรถไฟหลัก เปิดให้บริการที่จอดรถและห้องน้ำที่สถานที่ราชการท้องถิ่น 207 แห่งแก่นักท่องเที่ยวฟรีในช่วงวันแรงงาน ความพยายามเหล่านี้ได้ผลเนื่องจากนักท่องเที่ยวชื่นชมเมืองจือปั๋วทางโลกออนไลน์หลังจากเยี่ยมชม “การต้อนรับและความช่วยเหลือเป็นภูมิทัศน์ที่สวยงามที่สุดที่นักท่องเที่ยวคาดหวังได้” “บรรยากาศสำคัญกว่าตัวอาหาร”
พลังที่แข็งแกร่ง
ร้านบาร์บีคิวได้กระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจเมืองจือปั๋วและเพิ่มความมีชีวิตชีวา ข้อมูลเบื้อต้นแสดงให้เห็นว่าเมืองนี้มีร้านบาร์บีคิวมากกว่า 3,000 ร้าน ในเดือนที่แล้วมีร้านอาหารเปิดใหม่อย่างน้อย 370 ร้าน งานเลี้ยงที่ร้อนระอุ ผู้มารับประทานอาหารจำนวนมาก ตลอดจนการบริโภคที่เพิ่มขึ้นตามมาและโอกาสในการทำงานที่เพิ่มขึ้น ล้วนเป็นสัญญาณของความมีชีวิตชีวาและการเติบโตที่แข็งแกร่ง
กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเปิดเผยว่า ในช่วงหยุดยาว 5 วันที่เริ่มในวันที่ 29 เมษายน ชาวจีนเดินทางภายในประเทศ 274 ล้านคน เพิ่มขึ้น 70.83 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมากกว่าปี 2562 ที่เป็นช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ถึง 19.09 เปอร์เซ็นต์ รายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 148,060 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 128.9 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
การเดินทางที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วประกอบกับประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจที่สดใสของจีน ทำให้การคาดการณ์ของสถาบันต่างๆ ดีขึ้น นางคริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ กล่าวว่าการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหมายความว่าจีนถูกกำหนดให้มีสัดส่วนประมาณหนึ่งในสามของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2566 ในขณะเดียวกันนายเดวิส มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลกได้ประกาศเมื่อต้นเดือนเมษายนว่าผู้ให้กู้ได้เพิ่มการคาดการณ์การเติบโตทั่วโลกสำหรับปี 2566 เป็น 2 เปอร์เซ็นต์จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมกราคมที่ระดับ 1.7 เปอร์เซ็นต์ อันเนื่องมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
นายหลัว จี้เหิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ Yuekai Securities ประเมินว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่สอง โดยมีการเติบโตของจีดีพีกว่า 7 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
