ท่ามกลางมาตรการส่งเสริมการเติบโต แนวโน้มการพัฒนาระยะยาวในจีนไม่เปลี่ยน
ผู้บริโภคในร้านกาแฟที่เมืองซีอัน มณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2566
(ซินหัว/ช่าว รุ่ย)
แนวโน้มการพัฒนาเชิงบวกของเศรษฐกิจจีนจะไม่เปลี่ยนแปลงในระยะยาว ด้วยมาตรการต่าง ๆ ที่สนับสนุนการเติบโตอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ
เหมิง เหว่ย โฆษกคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจประจำเดือนบางตัวลดลง รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในภาคการผลิตและผลกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีน โดยให้ความเห็นว่า “ความผันผวนเป็นสิ่งปรกติและชั่วคราวเท่านั้น ความต้องการทางการตลาดค่อย ๆ ฟื้นตัว เนื่องจากมีแรงสนับสนุนจากนโยบายต่าง ๆ อีกทั้งโครงสร้างอุปทานกำลังปรับตัวดีขึ้น ซึ่งช่วยกระตุ้นการเติบโตของการพัฒนาเศรษฐกิจจีน”
ยอดขายปลีก (มาตรวัดการเติบโตของการบริโภค) ของจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 เมื่อเทียบปีต่อปี มูลค่า 18.76 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 2.63 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์) และการบริโภคที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการเติบโตอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม อัตราการเติบโตทางรายได้ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศพุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 40 เมื่อเทียบปีต่อปี ในขณะที่ในภาคธุรกิจการจัดเลี้ยงอยู่ที่ร้อยละ 22.6
การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนมีมูลค่ารวม 18.88 ล้านล้านหยวนในช่วงเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบปีต่อปี และการลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทคเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เมื่อเทียบปีต่อปี ท่ามกลางความพยายามของประเทศในการส่งเสริมการปฏิรูปและยกระดับอุตสาหกรรม
เหมิง เหว่ยกล่าวว่า “แนวโน้มขาขึ้นของตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจหลัก ๆ ยังคงระดับอยู่ในระยะยาว แต่สิ่งที่ต้องระวังคือความต้องการทางการตลาดที่ไม่เพียงพอ และยังคงต้องปรับปรุงเรื่องพลังภายนอกของระบบเศรษฐกิจ”
ท่ามกลางความกดดันและท้าทายต่าง ๆ จีนจะใช้มาตรการอัดฉีดและเพิ่มพลังให้กับระบบเศรษฐกิจในขั้นต่อไป
เหมิง เหว่ยกล่าวว่า “จีนจะออกนโยบายเพื่อฟื้นฟูและขยายภาคการบริโภคอย่างทันท่วงทีและต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงสิ่งแวดล้อมด้านการบริโภค และปลดปล่อยศักยภาพการบริโภคในภาคบริการ”
เหมิงกล่าวเพิ่มว่า “เพื่อกระตุ้นการบริโภครถยนต์ จีนจะเร่งสร้างสถานที่ชาร์จแบตเตอรี่และเปลี่ยนระบบส่งไฟฟ้าในเมืองต่าง ๆ รวมทั้ง สนับสนุนการใช้พาหนะพลังงานใหม่ในพื้นที่ชนบท”
ทั้งนี้ จะมีความพยายามในการเพิ่มรายได้ของประชาชนที่อยู่ชานเมืองและชนบท เหมิงกล่าวและให้คำมั่นว่าประเทศจะสร้างเสถียรภาพในการจ้างงาน ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมในชนบทมากขึ้น ขยายช่องทางให้เกษตรกรร่ำรวยขึ้น ดำเนินนโยบายลดภาษีและค่าธรรมเนียมที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ปรับปรุงระบบประกันสังคมแบบหลายชั้น
ธนาคารประชาชนจีนจะลดอัตราดอกเบี้ยหนึ่งปีของวงเงินกู้ระยะกลางในวันพฤหัสบดีเพื่อกระตุ้นการเติบโต ตามด้วยการลดอัตราของนโยบายอีกสองด้านที่คล้ายคลึงกัน ได้แก่ อัตราการซื้อคืนย้อนหลัง 7 วัน และอัตราวงเงินสินเชื่อคงที่ การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่จะเสริมสร้างการปรับตัวตามวัฏจักร (ผ่อนปรนเกณฑ์ต่าง ๆ ให้เหมาะกับบริบทที่กำลังเผชิญ) และสนับสนุนความคาดหวังของตลาด
ในด้านการคลัง รัฐบาลกลางได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเงินจำนวน 10.06 ล้านล้านหยวนในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจัดการกับวิกฤติทางการเงินที่เกิดจากปัจจัยต่าง ๆ รวมทั้งมีการลดภาษีและค่าธรรมเนียมจำนวนมาก
รายงานการทำงานของรัฐบาลในปีนี้ระบุว่า ในปี พ.ศ. 2566 จีนตั้งเป้าที่จะขยายเศรษฐกิจประมาณร้อยละ 5 และจะเพิ่มอุปสงค์ในประเทศโดยให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวและการขยายตัวของการบริโภค
