แนวทางการทูตของผู้นำจีน: ประธานาธิบดีจีนตอบจดหมายผู้ดูแลแพนด้าชาวเบลเยียม
สวนสัตว์ไพรี ไดซา ในเมืองบรูกเลตต์ ประเทศเบลเยียม จัดงานวันเกิดอายุครบ 3 ปี ให้กับ“เป่าตี้” (ซ้าย) และ
“เป่าเม่ย” แพนด้าแฝดที่เกิดเมื่อปี 2562 ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2565 (ซินหัว/เจิ้ง หวนซ่ง)
อีริก ดอม (Eric Domb) ประธานและผู้ก่อตั้งสวนสัตว์ไพรี ไดซา (Pairi Daiza zoo) ในเมืองบรูกเลตต์ (Brugelette) ได้รับจดหมายตอบจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเมื่อต้นสัปดาห์โดยผ่านสถานทูตจีนประจำประเทศเบลเยียม
ดอมเขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีจีนเมื่อต้นเดือนมิถุนายน โดยกล่าวถึงเมื่อครั้งประธานาธิบดีสีเดินทางไปเยี่ยมชมสวนสัตว์ฯ ในปีพ.ศ. 2557 และสรุปการพัฒนาล่าสุดให้ประธานาธิบดีสีได้ทราบ ดอมกล่าวกับซินหัวว่า “ผมไม่คิดว่าจะได้รับจดหมายตอบจากประธานาธิบดีสี ประธานาธิบดีจีนท่านมีงานยุ่งมากที่สุดในโลก” เป็นความรู้สึกที่พิเศษมากที่ได้รับจดหมายตอบในเวลาอันสั้น ซึ่งสำคัญพอ ๆ กับข้อความในจดหมายฉบับนี้
ประธานาธิบดีสี กล่าวในจดหมายที่ตอบดอมว่า เขามั่นใจว่าดอมและบุคคลอื่น ๆ ที่เป็นมิตรจะยังคงบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งมิตรภาพต่อไป ช่วยให้ผู้คนจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ ให้กระตือรือร้นในการมีส่วนร่วมสร้างมิตรภาพสร้างคุณูปการใหม่ๆ ในการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-เบลเยียม และจีน-ยุโรปต่อไป
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 ระหว่างการเยือนเบลเยียม ประธานาธิบดีสีและสมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิป กษัตริย์เบลเยียม และสมเด็จพระราชินีได้ร่วมกันเปิดบ้านหมีแพนด้าในสวนสัตว์ และยังได้ร่วมกันปลูกต้นแมกโนเลียที่มีดอกสีม่วง ประธานาธิบดีสี กล่าวในจดหมายตอบว่า “ผมดีใจที่ได้ทราบว่าต้นไม้ดังกล่าวมีดอกเบ่งบานและแพนด้ายักษ์ทั้งสองในฐานะทูตแห่งมิตรภาพก็เติบโตขึ้นเช่นกัน”
ผู้ดูแลอุ้มแพนด้าแฝด “เป่าตี้” (ซ้าย) และ “เป่าเม่ย” ในสวนสัตว์ไพรี ไดซา ในเมืองบรูกเลตต์
ประเทศเบลเยียม ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 (ซินหัว/เจิ้ง หวนซ่ง)
แพนด้ายักษ์ซิงฮุย (Xing Hui) และหาวห่าว (Hao Hao) มาถึงเบลเยียมในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 และอยู่ในคอกแพนด้าของสวนสัตว์ฯ ต่อมา ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 หาวห่าวได้ตกลูกเพศผู้ชื่อ “เทียนเป่า (Tian Bao)” ซึ่งมีความหมายว่า “สมบัติจากท้องฟ้า” และในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562 ได้ตกลูกแฝด “เป่าตี้ (Bao Di) และเป่าเม่ย (Bao Mei)” ซึ่งแปลว่า “น้องชายคนเล็กของเทียนเป่า” และ “น้องสาวคนเล็กของเทียนเป่า” ตามลำดับ ตอนนี้สวนสัตว์ฯ มีแพนด้ายักษ์ทั้งหมดห้าตัว
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวในจดหมายถึงดอมว่า จีนกำลังแข็งขันในการส่งเสริมการพัฒนาจีนให้ทันสมัย ซึ่งเสนอให้มนุษย์กับธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน และดำเนินโครงการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญๆ ทั้งนี้ เนื่องจากแพนด้ายักษ์ชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์จำนวนมากได้รับการคุ้มครองอย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีการลดระดับจากภาวะใกล้สูญพันธุ์ มาเป็นสัตว์ที่อยู่ในข่ายเกือบใกล้สูญพันธุ์
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวว่า ความมุ่งมั่นของจีนต่อเส้นทางการพัฒนาคุณภาพสูงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ระบบนิเวศ รวมทั้ง การนำเสนอสิ่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ จะเป็นการมอบโอกาสให้กับทั่วโลกและสนับสนุนความก้าวหน้าของมนุษย์มากยิ่งขึ้น
ดอมกล่าวว่า “ทั้งเบลเยียมและจีนมุ่งมั่นที่จะปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ ผู้คนยังคงลงทุนในการอนุรักษ์สายพันธุ์หายากและสภาพแวดล้อมที่พวกเขาอาศัยอยู่ ซึ่งได้ปรับปรุงระบบนิเวศทั้งหมดและปกป้องสายพันธุ์ทางอ้อมมากขึ้น นับเป็นงานที่เป็นประโยชน์ต่ออนาคตของมนุษยชาติ”
ประธานาธิบดีสีกล่าวในจดหมายว่า “การพัฒนาความสัมพันธ์จีน-เบลเยียมไม่สามารถบรรลุผลได้หากปราศจากความพยายามระยะยาว และการอุทิศตนอย่างไม่เห็นแก่ตัวของบุคคลที่เป็นมิตรจากทุกสาขาอาชีพของทั้งสองประเทศ”
เมื่อดอมเริ่มสร้างสวนแบบจีนเมื่อ 17 ปีก่อน เขาได้เชิญช่างฝีมือจากจีนให้มาร่วมประมูลการแสดงวัฒนธรรมจีนที่แท้จริง และพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีของดอม ดอมกล่าวว่า “การส่งเสริมให้คนธรรมดาอย่างผมและคนอื่น ๆ สร้างมิตรภาพ คือหนึ่งในทางออกสำหรับโลกที่สงบสุข ด้วยการทำงานร่วมกันเพื่อทำให้โลกเป็นสีเขียวมากขึ้นและเป็นมิตรกับทุกชีวิตมากขึ้น”
พนักงานสวนสัตว์กำลังเตรียมเค้กวันเกิดให้แพนด้าแฝด “เป่าตี้” และ “เป่าเม่ย” ที่สวนสัตว์ไพรี ไดซา
ในเมืองบรูกเลตต์ ประเทศเบลเยียม ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2564 (ซินหัว/จ้าง เฉิง)