ความสัมพันธ์บริกส์ขับเคลื่อนการเติบโต

นักสังเกตการณ์การตลาดและผู้นำธุรกิจกล่าวว่า ความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นและการประสานงานที่ดีขึ้นในกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) ซึ่งประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีนและแอฟริกาใต้จะหนุนนำการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้และส่งเสริมระบบการค้าพหุภาคี

ผู้สันทัดกรณีเหล่านี้กล่าวว่าด้วยการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งร่วมกัน ประเทศศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ทรงอิทธิพลเหล่านี้ สามารถกำหนดทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นได้

ความสัมพันธ์ทางการค้าในกลุ่มบริกส์

ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศยังคงขับเคลื่อนการเติบโตที่โดดเด่นของกลุ่มฯ โดยจีนมียอดการค้ากับประเทศสมาชิกกลุ่มบริกส์ เป็นเงิน 2.38 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ส่งเสริมความร่วมมือ

ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนเมื่อต้นเดือนนี้ระบุว่า ที่ประชุมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ากลุ่มประเทศบริกส์ให้ความสำคัญเห็นความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลมากขึ้น ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสร้างความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน

นายอาทูล ดาลาโกที (Atul Dalakoti) กรรมการบริหารสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดียซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงนิวเดลีกล่าวว่า ความสำคัญของการค้าและการลงทุนในกลุ่มประเทศบริกส์ พร้อมกับความพยายามร่วมกันด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี การปฏิวัติอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัลใหม่ ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเป็นแรงกระตุ้นการเติบโตในกลุ่มประเทศบริกส์

การขยายตัวทางการค้า

ข้อมูลจากกรมศุลกากรจีนระบุนอกจากการส่งออกผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมของจีน เช่น เครื่องจักรก่อสร้าง รถไฟ อุปกรณ์การผลิต อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และเครื่องใช้ในครัวเรือนไปยังประเทศในกลุ่มบริกส์แล้ว ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนยังได้ส่งออกยานพาหนะโดยสารและแผงโซลาร์เซลล์ที่ผลิตในจีนไปยังประเทศเหล่านี้ด้วย ซึ่งได้รับความนิยมเช่นกัน

นอกจากนี้ ประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดียและแอฟริกาใต้ที่เดิมส่งออกโลหะ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติและธัญพืชไปยังจีน ปัจจุบันยังมีการส่งออกเครื่องบินโดยสาร ไม้ เนื้อสัตว์ เหล็กกล้า ฝ้าย สารเคมี ยาและอุปกรณ์การแพทย์ไปยังจีนด้วย