“แฟรงก์เฟิร์ตบุ๊กแฟร์” หน้าต่างเพื่อความเข้าใจจีน

(People's Daily Online)วันพุธ 25 ตุลาคม 2023


ผู้ชมงานมหกรรมหนังสือแฟรงก์เฟิร์ตบุ๊กแฟร์ ครั้งที่ 75 ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม
พ.ศ. 2566 (จาง ฟั่น/ซินหัว)

งานมหกรรมหนังสือแฟรงก์เฟิร์ตบุ๊กแฟร์ ครั้งที่ 75 เปิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา สิ่งพิมพ์ล่าสุดจากจีนปรากฏในมุมยอดนิยมสำหรับนักอ่านทั่วโลกเพื่อติดตามแนวคิดเบื้องหลังของโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ที่จีนเสนอ

ในสัปดาห์เดียวกัน จีนประสบความสำเร็จในการจัดการประชุมสุดยอดเความร่วมมือระหว่างประเทศหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ครั้งที่ 3 ซึ่งดึงความสนใจของผู้เชี่ยวชาญและนักอ่านจากนานาประเทศในงานมหกรรมหนังสือฯ

นายคอร์ด เอเบอร์สเพเชอร์ นักจีนวิทยาและนักประวัติศาสตร์ชาวเยอรมันกล่าวในงานมหกรรมหนังสือฯ ว่า  “ภายในเวลาเพียง 10 ปี BRI ได้กลายเป็นแนวคิดใหม่และแนวปฏิบัติเพื่อความร่วมมือระหว่างจีนกับส่วนอื่น ๆ ของโลก”

เมื่อพูดถึงหนังสือวาทกรรมของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เกี่ยวกับข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งมีชื่อว่า "The Belt and Road Initiative"  เขากล่าวว่า  “เป้าหมายที่ระบุไว้ในหนังสือเล่มนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งรวมถึงการยกระดับการสื่อสารนโยบาย การเชื่อมต่อทางถนน การค้าที่ปราศจากอุปสรรค การหมุนเวียนทางการเงิน และความเข้าใจระหว่างผู้คน”

หนังสือเล่มนี้รวบรวมคำกล่าวของประธานาธิบดีสีเกี่ยวกับข้อริเริ่มฯระหว่างปี พ.ศ. 2556 - 2561 และมีบทความ 42 บท จากสุนทรพจน์และคำปราศรัยของประธานาธิบดีสี


ผู้ชมงานมหกรรมหนังสือแฟรงก์เฟิร์ตบุ๊กแฟร์ ครั้งที่ 75 ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 18
ตุลาคม พ.ศ. 2566 (ซินหัว/จาง ฟั่น)

นายเบอร์คาร์ด ริสซี ผู้เชี่ยวชาญการแปลของสำนักพิมพ์ภาษาต่างประเทศจีน (China Foreign Languages ​​Press) กล่าวว่า ขณะแปลหนังสือเล่มนี้ เขาได้พบกับแนวคิดและสำนวนใหม่ๆ มากมายที่เกี่ยวข้องกับความคิดริเริ่มนี้ การแปลหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาเยอรมันช่วยให้ผู้อ่านชาวเยอรมันได้เข้าใจแนวความคิดเหล่านี้ได้ดียิ่งขึ้น

ในฐานะงานมหกรรมหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีบริษัทสำนักพิมพ์มาร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งงานจะมีไปจนถึงวันอาทิตย์นี้ โดยเน้นไปที่ประเด็นเร่งด่วนที่สุดที่เกี่ยวข้องกับวรรณกรรมและสังคม

นายดานิโล เติร์ก อดีตประธานาธิบดีสโลวีเนีย กล่าวในงานว่า การผงาดขึ้นอย่างสันติของจีนในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงลักษณะที่สำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลงระดับโลก ซึ่งถือเป็น “การเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกมาก” จีนไม่เพียงมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจโลกเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความหวังว่าโลกจะก้าวหน้าต่อไปในอนาคต