พืชผลจากต่างประเทศเติบโตดีท่ามกลางเศรษฐกิจจีนที่มีชีวิตชีวา

เดือนพฤศจิกายน ผูเอ่อร์ เมืองชายแดนมณฑลยูนนาน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เต็มไปด้วยผลกาแฟสีแดงที่ห้อยระย้าเต็มต้นก่อนที่จะถูกเก็บและส่งไปยังร้านกาแฟต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มณฑลยูนนานได้กลายเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟที่เจริญรุ่งเรือง รวมทั้ง อะโวคาโดและแมคคาเดเมียที่มีต้นกำเนิดจากพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก

ผลผลิตเหล่านี้ได้พัฒนาเป็นอุตสาหกรรมหลักในพื้นที่ชายแดนของจีน และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในตลาดโลก ความก้าวหน้าดังกล่าวตอกย้ำถึงการขยายการมีส่วนร่วมของจีนกับโลก และสะท้อนถึงความมีชีวิตชีวาของเศรษฐกิจจีน

เกษตรกรกำลังเก็บอะโวคาโดที่สวนในเมืองผูเอ่อร์ มณฑลยูนนาน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมื่อวันที่ 20
กันยายน พ.ศ. 2566 (ซินหัว)

กาแฟอันกลมกล่อม

ณ สิ้นปี 2565 ผูเอ่อร์มีพื้นที่ปลูกกาแฟ 679,000 โหม่ว (ประมาณ 282,916.66 ไร่) มีผลผลิตต่อปีมากกว่า 55,700 ตัน ผูเอ่อร์จึงกลายเป็นเมืองชั้นนำของจีนทั้งในด้านปริมาณการผลิตกาแฟและมูลค่าของผลผลิต

ที่ไร่กาแฟ “เสี่ยวหวาจื่อ” เมืองผูเอ่อร์ นายเลี่ยว ซิ่วกุ้ย ผู้จัดการไร่กำลังตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดกาแฟปีนี้ เขาคือผู้บุกเบิกการปลูกกาแฟท้องถิ่น ตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980 เขาได้อุทิศตนเพื่อปลูกกาแฟชั้นเลิศมานานกว่า 3 ทศวรรษ

นายเลี่ยว ซิ่วกุ้ย ผู้จัดการฯ (ซ้าย) พูดคุยกับนักท่องเที่ยวที่ไร่กาแฟในเมืองผูเอ่อร์ มณฑลยูนนาน ภาคตะวันตก
เฉียงใต้ของจีน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 (ซินหัว)

ผู้จัดการเลี่ยว วัย 82 ปี เล่าว่า “ตอนแรก ผมแค่ต้องการปรับโครงสร้างการปลูกพืชให้หลากหลายขึ้นและส่งเสริมรายได้ในท้องถิ่น” เขาเริ่มพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกาแฟในปี 2562 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื้อหาที่ให้ความรู้ซึ่งเผยแพร่โดยไร่กาแฟแห่งนี้ได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

ปัจจุบันนี้ มีผู้ชื่นชอบกาแฟประมาณ 2,000 คนจากทั่วโลกพากันมาเยี่ยมชมไร่กาแฟในแต่ละเดือน ผู้เข้าชมสามารถลิ้มลองกาแฟ 9 ประเภทที่แตกต่างกันได้ในราคา 40 หยวน (ประมาณ 200 บาท) สำรวจไร่กาแฟและโรงงานแปรรูป รวมถึงรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยีกาแฟ

ไร่กาแฟ “เสี่ยวหวาจื่อ” สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนากาแฟที่แข็งแกร่งของยูนนาน ข้อมูลจากกรมเกษตรและกิจการชนบทประจำมณฑลฯ แสดงให้เห็นว่าในปี 2565 พื้นที่ปลูกกาแฟของมณฑลสูงถึง 1.27 ล้านโหม่ว (ราว 529,166.66 ไร่) มีผลผลิตรวม 113,600 ตัน และมูลค่าโดยรวมอยู่ที่ 41,800 ล้านหยวน (ประมาณ 209,000 ล้านบาท)

นักท่องเที่ยวชิมกาแฟที่ไร่กาแฟ “เสี่ยวหวาจื่อ” เมืองผูเอ่อร์ มณฑลยูนนาน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 (ซินหัว)

อโวคาโดสด

อะโวคาโดยังคงได้รับความนิยมในหมู่ชาวเมืองของจีนเนื่องจากพวกเขานิยมวิถีชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น อะโวคาโดในอดีตเคยเป็นผลไม้ที่ประเทศจีนนำเข้าเกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันอำเภอเมิ่งเหลียน เมืองผูเอ่อร์ได้กลายเป็นอำเภอที่ปลูกอะโวคาโดมากที่สุดในจีน โดยปีนี้ คาดว่าผลผลิตอะโวคาโดสดของที่นี่จะเกิน 10,000 ตัน มูลค่ากว่า 300 ล้านหยวน (ราว 1,500 ล้านบาท)

สำหรับชนชาติล่าฮู่ที่อำเภอเมิ่งเหลียน พวกเขาไม่มีแนวคิดเรื่อง “อะโวคาโด” ในภาษาท้องถิ่น สิ่งที่ไม่มีอยู่ในทางภาษาสามารถพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมที่ช่วยเพิ่มรายได้ นับเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิด

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อำเภอเมิ่งเหลียนได้ยกระดับอุตสาหกรรมอะโวคาโดให้เป็นอุตสาหกรรมชั้นนำที่สร้างรายได้ให้กับประชาชนผ่านการสนับสนุนทางเทคนิคและการให้รางวัลเป็นทุน

เกษตรกรกำลังคัดเลือกผลอะโวคาโดที่สวนในอำเภอเมิ่งเหลียน เมืองผูเอ่อร์ มณฑลยูนนาน ภาคตะวันตกเฉียงใต้
ของจีน เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2566 (ซินหัว)

น่าตัว วัย 53 ปี จากอำเภอเมิ่งเหลียน เป็นเจ้าของที่ดินกว่า 12.5 ไร่ ก่อนหน้านี้ครอบครัวของเธอปลูกอ้อยและข้าวโพด มีรายได้ค่อนข้างจำกัด ในปี 2561 เจ้าหน้าที่หมู่บ้านสนับสนุนให้พวกเขาลงทุนที่ดินในสหกรณ์อะโวคาโด

หลังจากการพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดเกี่ยวกับเทคนิคการปลูกและการปลูกผลไม้ นาตัวจึงตัดสินใจลงทุนที่ดินจำนวน 10 ไร่ในสหกรณ์แห่งนี้ เธอและสามียังรับหน้าที่ดูแลอะโวคาโดให้กับสหกรณ์อีกด้วย

เธอเล่าว่า “การดูแลต้นอะโวคาโดต้นหนึ่งสามารถสร้างรายได้ปีละ 11 หยวน” ส่วนนี้สามารถสร้างรายได้ปีละ 22,000 หยวน และการเลี้ยงไก่ใต้ต้นไม้ช่วยให้ครอบครัวเธอมีรายได้เพิ่มขึ้นทุกปี

เกษตรกรกำลังตกแต่งกิ่งของต้นแมคคาเดเมียที่เขาปลูกในเมืองหลินชาง มณฑลยูนนาน ภาคตะวันตกเฉียงใต้
ของจีน เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2562 (ซินหัว)

ถั่วที่มีคุณค่าทางโภชนาการ

แมคคาเดเมียซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด กำลังได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีนและในซูเปอร์มาร์เก็ตเช่นกัน

แมคคาเดเมียซึ่งมีถิ่นกำเนิดในออสเตรเลียได้เข้ามายูนนานในช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อมณฑลยูนนานเริ่มทดลองปลูกถั่วหายากชนิดนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้บริโภคในประเทศจีนยังไม่คุ้นเคยกับถั่วแปลกชนิดนี้

เป้าหมายเริ่มแรกของทางการยูนนานคือ การบรรเทาความยากจนและปรับปรุงสถานะทางเศรษฐกิจของชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ภูเขา

หลินชาง เมืองในมณฑลยูนนานที่มีสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ที่โดดเด่น ดินที่อุดมสมบูรณ์ แสงแดดที่เพียงพอ และปริมาณน้ำฝนที่อุดมสมบูรณ์ สร้างสภาพทางธรรมชาติที่เหมาะสำหรับการปลูกแมคคาเดเมีย

พนักงานกำลังเก็บถั่วในสวนถั่วแมคคาเดเมียในเมืองหลินชาง มณฑลยูนนาน ภาพถ่ายไม่ได้บันทึกวัน (ซินหัว)

ในเมืองหลินชาง ผลิตภัณฑ์ถั่วแมคคาเดเมียมีการพัฒนาไปไกลกว่าถั่วแห้งแบบดั้งเดิม ปัจจุบัน อุตสาหกรรมได้ใช้ผลผลิตทั้งหมดเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ เครื่องสำอาง และยารักษาโรค

เฉิน เสี่ยวเว่ย รองผู้อำนวยการสถาบันการพัฒนาชนบท สังกัดสถาบันสังคมศาสตร์ยูนนานกล่าวว่า กาแฟ อะโวคาโด และแมคคาเดเมียที่ข้ามมหาสมุทรมา ผลักดันพื้นที่ที่เป็นที่อยู่ของชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน “ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางการเกษตรระหว่างประเทศที่ประสบผลสำเร็จ”