ตลาดการท่องเที่ยวขาออกของจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว

สถาบันการท่องเที่ยวจีนเผยว่า คาดว่าในปีนี้กระบวนการการฟื้นตัวของตลาดการท่องเที่ยวของจีนทั้งขาเข้าและขาออกจะมีแรงผลักดันเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าและขาออกจะเกิน 264 ล้านคน ขณะที่รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดว่าจะเกิน 107,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

พนักงานกำลังต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2566
(ภาพโดยซินหัว)

นักท่องเที่ยวจีนสนใจท่องเที่ยวในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมากเนื่องจากการเดินทางที่สะดวก สภาพแวดล้อมทางภาษาที่เป็นมิตร ทรัพยากรการท่องเที่ยวที่อุดมสมบูรณ์ รวมทั้งค่าเดินทางที่ค่อนข้างต่ำ

เมื่อเร็วๆ นี้ หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ใช้นโยบายอำนวยประโยชน์ด้านวีซ่า เช่น ประเทศมาเลเซียได้ประกาศให้ฟรีวีซ่า 30 วันแก่นักท่องเที่ยวจีน ในขณะที่ประเทศไทยประกาศว่าไทยและจีนจะยกเว้นวีซ่าแก่ประชาชนของกันและกันตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป การเปลี่ยนแปลงนโยบายเชิงบวกเหล่านี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวจีน

ข้อมูลจาก ฟลิกกี้ (Fliggy) แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวของบริษัทอาลีบาบาเผยว่า หลังการประกาศนโยบายฟรีวีซ่าเพียงหนึ่งชั่วโมง จำนวนการค้นหาเที่ยวบินไปไทยก็เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า

การฟื้นตัวของเที่ยวบินระหว่างประเทศส่งผลให้การท่องเที่ยวขาออกเพิ่มขึ้น

ข้อมูลจากสำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน จำนวนเที่ยวบินผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากเดิมที่น้อยกว่า 500 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ในช่วงต้นปีที่แล้ว เป็นมากกว่า 4,600 เที่ยวบินในปีนี้ การขนส่งผู้โดยสารระหว่างจีนและยุโรปเพิ่มขึ้นจากระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 กว่าร้อยละ 60 และจำนวนเที่ยวบินตรงระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเป็น 63 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

หลายคนวางแผนเดินทางไปต่างประเทศในช่วงวันหยุดฤดูหนาวและวันหยุดเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง

ข้อมูลจากถูหนิว (Tuniu) ผู้ให้บริการการเดินทางออนไลน์ของจีนเผยว่า มีการจองผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมียอดจองสูงสุดเร็วกว่าเดิม

ยอดจองการท่องเที่ยวขาออกในช่วงวันหยุดเทศกาลคิดเป็นร้อยละ 34 ของยอดจองทั้งหมด จุดหมายปลายทางยอดนิยม ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มัลดีฟส์ รัสเซีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และกลุ่มประเทศนอร์ดิก