บทวิเคราะห์: รถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรปสร้างความเหนือกว่าท่ามกลางวิกฤตทะเลแดงสะท้อนให้เห็นถึงอะไร

(CRI)วันพฤหัสบดี 07 มีนาคม 2024

ทะเลแดงคือทางเข้าสำคัญของคลองสุเอซทางหนึ่ง และคือจุดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของเส้นทางการค้าระหว่างยุโรปตะวันตกและสหรัฐฯ บางเส้นทางด้วย ผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องแสดงว่าในแต่ละปี 15% ของการค้าทางทะเลของโลก 30% ของการค้าตู้คอนเทนเนอร์ของโลก 30% ของการค้าเชื้อเพลิงสำหรับการบินของโลก 12% ของก๊าซ LPN ของโลก 8% ของการค้าอาหารของโลก ล้วนต้องขนส่งผ่านทะเลแดงทั้งสิ้น

ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กลุ่มกองกำลังติดอาวุธฮูตีในเยเมนโจมตีเรือที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลในทะเลแดงหลายครั้งเพื่อสนับสนุนปาเลสไตน์ บริษัทการขนส่งทางเรือหลายบริษัทเช่น เมอส์กเป็นต้น ประกาศยุติเส้นทางทะเลแดงสำหรับคลองสุเอซเป็นการชั่วคราว เปลี่ยนเป็นไปเส้นทางอ้อมแหลมกู๊ดโฮปแทน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ และอังกฤษเริ่มโจมตีกลุ่มกองกำลังติดอาวุธฮูตีทางอากาศโดยตรง เมื่อสถานการณ์ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้เรือที่ต้องไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮปมากยิ่งขึ้น

ทำให้รถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรปนั้นกลายเป็นจุดจับตามมองของผู้คน ปัจจุบันประเทศยุโรปหลายประเทศเพิ่มความต้องการใช้รถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรป และเริ่มหันมาค้นหาแผนการโลจิสติกส์ที่จะขนส่งทางรถไฟแทนทางทะเล

เทียบกับวิธีการขนส่งทางทะเล รถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรปมีความเหนือกว่าที่ชัดเจนที่สุดก็คือเสถียรภาพ ไม่ว่าการโจมตีจากกลุ่มกองกำลังติดอาวุธฮูตีในทะเลแดง ภัยแล้งของคลองปานามา หรือการปะทะกันที่อาจเกิดขึ้นในเขตบริเวณช่องแคบมะละกานั้น ล้วนแต่แสดงความอ่อนแอของ “ช่องแคบ” ทางทะเลทั้งนั้น เทียบกันแล้วการขนส่งทางหลวงข้ามเอเชียและยุโรปนั้นมีความน่าเชื่อถือและความตรงเวลามากกว่า

ตัวเลขสถิติแสดงว่าปีนี้รถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรปเดินรถจำนวนกว่า 2,600 ขบวน ซึ่งนำสินค้ายุโรปเข้าสู่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจีนมากยิ่งขึ้น และทำให้ “made in China” นั้นได้รับความนิยมจากประชาชนชาวยุโรปมากยิ่งขึ้นเช่นกัน

ปัจจุบันรถไฟขนส่งสินค้าจีนยุโรปได้เชื่อม ประเทศยุโรป 25 ประเทศ และ 219 เมืองเข้าด้วยกัน ซึ่งเปิดช่องทางขนส่งสินค้าข้ามเอเชียและยุโรปใหม่และสะพานความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าใหม่ สร้างห่วงโซ่โลจิสติกส์ระหว่างประเทศที่มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นและอัดฉีดกำลังใหม่ให้กับการพัฒนาของเอเชียและยุโรป