ส่องนวัตกรรมผ่านความพยายามในการสร้าง IP ของจีนในรอบ 75 ปี

(People's Daily Online)วันพุธ 09 ตุลาคม 2024

วิวัฒนาการของทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ของจีนสร้างคุณค่าให้แก่การสร้างนวัตกรรมของประเทศจีนในรอบ 75 ปี

นับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี พ.ศ.2492 โครงการริเริ่มด้านทรัพย์สินทางปัญญามีความสำคัญต่อการปกป้องสิ่งประดิษฐ์ส่วนบุคคล ส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันขององค์กร และขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

การตระหนักในองค์ความรู้

เมื่อ 39 ปีที่ผ่านมา เมื่อ หู กั๋วหัว ได้ยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตรการประดิษฐ์ และต่อมาในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2528 ได้มีการประกาศใช้กฎหมายสิทธิบัตรในประเทศจีน ซึ่งนำไปสู่การยื่นคำขอฯ มากกว่า 3,400 รายการจากแหล่งที่มาทั้งในและต่างประเทศ สร้างสถิติรายวันในประวัติศาสตร์สิทธิบัตรในขณะนั้น

แปดเดือนต่อมา หู กั๋วหัว ได้รับใบรับรองสิทธิบัตรสำหรับการประดิษฐ์ของเขา ซึ่งเป็นอุปกรณ์แสดงผลแบบสีที่ช่วยวิเคราะห์ภาพจากดาวเทียม หนังสือพิมพ์ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของวิศวกรการบินและอวกาศผู้สวมแว่น ซึ่งกลายเป็นผู้ถือสิทธิบัตรรายแรกของจีน


หู กั๋วหัว (คนแรกทางขวา) ผู้ยื่นขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์คนแรกของจีน แสดงใบรับรองสิทธิบัตรของตนเองในการ
ประชุมกับสื่อที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561

หู กั๋วหัวตั้งข้อสังเกตว่า ในทศวรรษที่ 1960 ชาวจีนส่วนใหญ่ไม่รู้จักทรัพย์สินทางปัญญา นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสามารถเข้าถึงสิ่งประดิษฐ์ของกันและกันได้ แม้ว่าแนวทางปฏิบัติดังกล่าวจะช่วยให้เทคโนโลยีแพร่หลาย แต่พวกเขาก็ล้มเหลวในการปกป้องงานและแนวคิดของแต่ละบุคคลอย่างเพียงพอ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะเป็นอุปสรรคต่อการสร้างนวัตกรรมในระยะยาว

นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 ประเทศจีนได้เริ่มบังคับใช้กฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงกฎหมายเครื่องหมายการค้า กฎหมายสิทธิบัตร และกฎหมายลิขสิทธิ์ กฎหมายเหล่านี้ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยประสบการณ์ในทางปฏิบัติ เพื่อให้มั่นใจว่ามีการคุ้มครองทางกฎหมายที่เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสิ่งที่น่าสังเกตเป็นพิเศษคือประมวลกฎหมายแพ่งที่ตราขึ้นใหม่ ซึ่งได้ทำให้เกิดระบบลงโทษสำหรับการละเมิดที่ถือว่ามีมาตรฐานสูงในระดับสากล

รัฐบาลกลางยังมีการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาทั่วไปในวาระสำคัญ โดยดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและต่อสู้กับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม


หู กั๋วหัว (คนแรกทางขวา) พูดคุยกับนักข่าวหลังการยื่นขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ด้านนอกสำนักงานสิทธิบัตรแห่งชาติ
ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2528 (ซินหัว)

ใบรับรองสิทธิบัตรฉบับแรกของ หู กั๋วหัว ในปัจจุบันได้เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีนนับตั้งแต่สิทธิบัตรหมดอายุ ปัจจุบัน ใบรับรองสิทธิบัตรเป็นสิ่งที่แพร่หลายมากขึ้นในจีน

ในปลายปี 2566 จีนกลายเป็นประเทศแรกของโลกที่มีจำนวนการจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์ที่ยังมีอายุใช้งาน มากกว่า 4 ล้านฉบับ

จากคำขอรับสิทธิบัตรเพียง 98 รายการในปี 2537 ที่ยื่นผ่านองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) มาเป็น 59,000 รายการในปี 2562 ทำให้จีนผงาดขึ้นมาในฐานะแหล่งคำขอรับสิทธิบัตรระดับนานาชาติชั้นนำของโลก และยังคงอยู่ในอันดับต้น ๆ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

การปกป้องสำหรับวิสาหกิจ

วิสาหกิจเป็นผู้อุทิศตนรายหลักในการยื่นขอสิทธิบัตรของจีนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าความคุ้มทุนเคยเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันหลักในการเจาะตลาด แต่แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของการขยายตัวในต่างประเทศได้กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความสามารถในการแข่งขันด้านทรัพย์สินทางปัญญา ตอนนี้วิสาหกิจต่างทราบกันดีว่า นวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ เพื่อการบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน

กรณีของบริษัทกู๊ดเบบี้เป็นตัวอย่างที่สำคัญ ในปี 2557 “กู๊ดเบบี้” บริษัทผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กของจีนได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรการออกแบบรถเข็นเด็กที่ปฏิวัติอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์นี้ทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์เกรดอากาศยานน้ำหนักเบา มีน้ำหนักเพียง 4.6 กิโลกรัม และได้รับการยกย่องว่าเป็น “รถเข็นเด็กพกพา” นับตั้งแต่เปิดตัว เนื่องจากสามารถใส่ในกระเป๋าเป้สะพายหลังได้อย่างง่ายดาย ในปีเดียวกันนั้น บริษัทได้เข้าสู่ตลาดโลกผ่านการควบรวมและซื้อกิจการระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเผชิญกับการละเมิดสิทธิบัตรอย่างรุนแรงเมื่อเข้าสู่ตลาด บริษัทประสบความสำเร็จในการปกป้องสิทธิ์และชนะคดีทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบัน สิทธิบัตรหลักสำหรับรถเข็นเด็กที่ออกแบบโดยจีนนี้ได้รับการอนุมัติในกว่า 30 ประเทศ


เจ้าหน้าที่ทำงานในสายการผลิตของกู๊ดเบบี้ กรุ๊ป บริษัทผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่เมืองคุนซาน มณฑลเจียงซู ทางตะวัน
ออกของจีน เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 (ซินหัว)

ในการประชุมประจำปีทรัพย์สินทางปัญญาของจีน ครั้งที่ 13 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งเมื่อเดือนกันยายน ทนายความท่านหนึ่งได้กล่าวกับซินหัวว่า “ในอดีต มีเพียงบริษัทข้ามชาติรายใหญ่ของจีนเท่านั้นที่สนใจยื่นขอสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในต่างประเทศ และตอนนี้บริษัทจีนขนาดเล็กจำนวนมากก็พยายามปกป้องสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาเช่นกัน”

เขากล่าวว่า “ในอดีต บริษัทจีนหลายแห่งที่ฉันเป็นตัวแทนเป็นเพียงจำเลยในคดีในศาล และตอนนี้ลูกค้าชาวจีนของฉันจำนวนมากเป็นโจทก์ในสหรัฐอเมริกาเพื่อฟ้องร้องบริษัทสัญชาติอเมริกันในข้อหาละเมิดสิทธิบัตร”


ประชาชนเยี่ยมชมบูธเทสลาในงานมหกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะโลก 2024 ที่นครเทียนจิน ทางตอนเหนือของจีน เมื่อ
วันที 22 มิถุนายน 2567 (ซินหัว)

ขณะที่จีนกำลังเร่งขยายตัวในระดับสากล โลกก็มีปฏิสัมพันธ์กับตลาดจีนเพิ่มมากขึ้น

จีนมุ่งมั่นที่จะให้การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เท่าเทียมกันแก่องค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทจากต่างประเทศและบริษัทร่วมทุนมากกว่า 5,000 แห่ง่ได้รับการจดทะเบียนในศูนย์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาระดับรัฐ และในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลทรัพย์สินทางปัญญาของจีนได้แก้ไขข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญาหลายครั้งที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจากประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และฝรั่งเศส

จากข้อมูลของสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติของจีน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 จำนวนสิทธิบัตรการประดิษฐ์จากต่างประเทศที่ยังมีอายุและเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนในจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 และร้อยละ 3.8 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของบริษัทต่างชาติต่อตลาดจีน และความมั่นใจในงานปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของจีน

การอุทิศต่อการสร้างความทันสมัย

ตามดัชนีนวัตกรรมระดับโลกประจำปี 2024 ของ WIPO ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่สำคัญสำหรับแนวโน้มนวัตกรรมระดับโลก จีนได้ไต่ขึ้นสู่อันดับที่ 11 ในการจัดอันดับประเทศที่มีเศรษฐกิจที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก

ถาง ต้าเหริน ผู้อำนวยการทั่วไปของ WIPO มองว่า การมุ่งเน้นด้านการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์มีส่วนอุทิศต่อความก้าวหน้าของจีน


นักวิทยาศาสตร์จีนประชุมหารือแผนการทดลองกับนักวิจัย ITER (คนที่สองด้านขวา) ในเมืองเหอเฝย มณฑลอันฮุย ทาง
ตะวันออกของจีน เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 (ซินหัว)

ปัจจุบัน ทรัพย์สินทางปัญญาของจีนขยายไปสู่นวัตกรรมล้ำสมัยในเกือบทุกสาขา ตั้งแต่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ไปจนถึงปัญญาประดิษฐ์ ตัวอย่างความสำเร็จในเรื่องนี้ก็คือบทบาทของจีนในเตาปฏิกรณ์ทดลองนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ (International Thermonuclear Experimental Reactor หรือ ITER) ซึ่งเป็นโครงการทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อจำลองการหลอมรวมของดวงอาทิตย์ เพื่อผลิตพลังงานสะอาด ในเดือนเมษายน 2564 ITER ได้บรรลุเป้าหมายหนึ่งด้วยการติดตั้งขดลวดตัวนำยิ่งยวดขนาดใหญ่ (superconducting coil) ชุดแรก

IP ไม่เพียงแต่ส่งเสริมความก้าวหน้าของผลิตภัณฑ์เฉพาะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ยังช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกด้วย

นับตั้งแต่ปี 2564 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 12.4 ต่อปี โดยในปี 2565 มูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมที่เน้นสิทธิบัตรของจีนมีมูลค่าสูงถึง 15.32 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 2.19 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12.7 ของจีดีพีจีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก


หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ในงานการประชุมหุ่นยนต์โลกในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567
(ซินหัว)

โดยเฉพาะในภาคเศรษฐกิจดิจิทัล มีการอนุมัติสิทธิบัตรการประดิษฐ์ 406,000 ฉบับในอุตสาหกรรมหลักในปีที่แล้ว คิดเป็นร้อยละ 45 ของสิทธิบัตรทั้งหมดของประเทศ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ภาคส่วนนี้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 21 ต่อปี

เริ่มจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ จีนได้กลายเป็นผู้ยื่นสิทธิบัตรรายใหญ่ที่สุดในโลก และกำลังก้าวไปสู่การเป็นมหาอำนาจด้านทรัพย์สินทางปัญญา รัฐบาลได้ให้คำมั่นที่จะใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาต่อไป เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและสนับสนุนความทันสมัยของจีน