จีนปฏิบัติตามแนวทางที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อเปลี่ยนวิสัยทัศน์สู่ความเป็นจริง
“เรื่องราวของจีนเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าประเทศที่กำลังพัฒนาสามารถขจัดความยากจนได้ และแม้แต่นกที่อ่อนแอก็สามารถเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็วและบินได้สูงเมื่อมีความอดทน ความเพียร และจิตวิญญาณที่มุ่งมั่น ซึ่งสามารถทำให้หยดน้ำทะลุผ่านโขดหินได้ในช่วงเวลาหนึ่งและทำให้พิมพ์เขียวกลายเป็นความจริง”
คำกล่าวเหล่านี้ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้กล่าวในสุนทรพจน์ระหว่างการประชุมสุดยอด G20 ครั้งที่ 19 สมัยที่ 1 ภายใต้หัวข้อ “การสร้างโลกที่ยุติธรรมและการพัฒนาร่วมกัน” ณ เมืองริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล โดยเขาได้อธิบายอย่างลึกซึ้งถึงผลกระทบของการต่อสู้กับความยากจนของจีนต่อโลก ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองอย่างเข้มแข็งจากชุมชนระหว่างประเทศ
สวนสาธารณะขนาดย่อมในอำเภอเจิ้งติ้ง เมืองสือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย ทางตอนเหนือของจีน ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 14
ตุลาคม 2566 (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
ประสบการณ์ของจีนในการบรรเทาความยากจนได้รับความสนใจจากทั่วโลก เนื่องจากประเทศจีนสามารถช่วยเหลือประชากรกว่า 800 ล้านคนให้หลุดพ้นจากความยากจน และบรรลุเป้าหมายการบรรเทาความยากจนตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนปี ค.ศ.2030 ของสหประชาชาติได้ก่อนกำหนด
ประสบการณ์ของจีนมีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการศึกษา เนื่องจากเรื่องราวของจีนได้แสดงให้เห็นว่าประเทศที่กำลังพัฒนาสามารถขจัดความยากจนได้เช่นกัน ในปัจจุบัน ประชากรประมาณ 733 ล้านคนกำลังเผชิญกับปัญหาความหิวโหย และจำนวนประชากรที่ประสบปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี หลายประเทศต่างมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์การบรรเทาความยากจนของจีนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการฟื้นฟู
ตามคำกล่าวโบราณของจีนที่ สี จิ้นผิงได้กล่าวไว้หลายครั้งว่า “การนำประโยชน์มาสู่ประชาชนเป็นหลักการพื้นฐานของการปกครอง” สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ในการสร้างชีวิตที่มีความสุขให้กับประชาชนอย่างชัดเจน
ทุกสิ่งที่จีนดำเนินการนั้น จีนให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับแรก และประกาศอย่างจริงจังว่า “ไม่ควรละทิ้งภูมิภาคหรือบุคคลที่ยากจนแม้แต่คนเดียว” นั่นคือเหตุผลที่จีนประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับความยากจน และเป็นแบบอย่างในการลดความยากจนทั่วโลก
พรรคคอมมิวนิสต์จีนให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับแรกและมุ่งมั่นในการแสวงหาความสุขให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ในหมู่บ้านเหลียงเจียเหอ มณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน สี จิ้นผิงในฐานะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำหมู่บ้าน ยึดมั่นในหลักการ “การนำประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมมาสู่ประชาชน” จึงได้เป็นผู้นำชาวบ้านในการขุดบ่อน้ำ สร้างขั้นบันไดและเขื่อนกักเก็บตะกอน รวมถึงการสร้างหลุมผลิตก๊าซมีเทนแห่งแรกของจังหวัด
ในเขตเจิ้งติ้ง มณฑลเหอเป่ย ทางตอนเหนือของจีน เขาได้เดินทางเยือนหมู่บ้านมากกว่า 200 แห่งโดยการขี่จักรยาน เพื่อสำรวจเส้นทางการปฏิรูปชนบทและการบรรเทาความยากจน
ในเมืองหนิงเต๋อ มณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน เขาได้สร้างร่องรอยไว้ในเกือบทุกเทศมณฑลและตำบล เพื่อค้นหาวิธีที่จะ “ให้นกที่อ่อนแอได้เริ่มต้นอย่างรวดเร็วและบินได้สูง”
ฟาร์มปศุสัตว์นอกชายฝั่งทางทะเลในหมู่บ้านชีซิง เขตเจียวเฉิง เมืองหนิงเต๋อ มณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้
ของจีน ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแอฟริกากลาง นายโฟสแตง- อาร์คองช์ ตูอาเดรา กล่าวภายหลังการเยือนหมู่บ้านเหลียงเจียเหอว่า นายสี จิ้นผิงมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับประชาชน ยืนเคียงข้างและรับใช้ประชาชนเสมอมา
มีเพียงพรรครัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของประชาชนเท่านั้นที่สามารถมอบการสนับสนุนทางการเมืองและองค์กรที่เข้มแข็งเพื่อความพยายามในการบรรเทาความยากจนได้
นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนครั้งที่ 18 สี จิ้นผิงได้เป็นประธานสัมมนาเกี่ยวกับการขจัดความยากจนจำนวน 7 ครั้ง เดินทางไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับการลดความยากจนมากกว่า 50 ครั้ง และเยี่ยมชมพื้นที่ยากจนที่อยู่ติดกันทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศ
ความสำเร็จในการบรรเทาความยากจนของจีนเป็นผลจากความพยายามร่วมกันอย่างเข้มแข็งของรัฐบาลและประชาชนจีน ในการต่อสู้กับความยากจน จีนได้กำหนดนโยบายเฉพาะที่เหมาะสมกับแต่ละหมู่บ้าน แต่ละครัวเรือน และแต่ละบุคคล อำนวยความสะดวกในการเติบโตโดยนำความสามารถ เงินทุน และเทคโนโลยีไปสู่ภูมิภาคที่ด้อยพัฒนาอย่างเต็มที่ ช่วยให้ท้องถิ่นต่าง ๆ สร้างการเติบโตโดยส่งเสริมอุตสาหกรรมที่มีลักษณะเฉพาะและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน โดยคำนึงถึงเงื่อนไขของตนเอง และส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันโดยการจับคู่ภูมิภาคที่ร่ำรวยกับภูมิภาคที่ด้อยพัฒนา จีนประสบความสำเร็จในการรณรงค์ต่อต้านความยากจนอย่างกว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยสร้างปาฏิหาริย์ในการลดความยากจน
จากการปฏิญาณว่า “สังคมสังคมพอกินพอใช้นั้นเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรได้สัมผัส” ไปจนถึงคำสัญญาว่า “บนเส้นทางสู่ความทันสมัย ไม่มีใครหรือประเทศใดควรต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” แม้ว่าจีนจะมุ่งมั่นในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ก็ยังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของโลกเพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนในทุกประเทศมีชีวิตที่ดีขึ้น
ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสุดยอด G20 ครั้งที่ 19 สมัยที่ 1 สี จิ้นผิงได้เน้นย้ำว่า “ดอกไม้บานเพียงดอกเดียวยังไม่นับเป็นฤดูใบไม้ผลิ จีนต้องการเห็นดอกไม้นับร้อยดอกบานสะพรั่ง และจะร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ในการพัฒนาประเทศให้ทันสมัย”
นอกจากนี้ เขายังได้ชี้แจงถึงแนวทาง 8 ประการของจีนสำหรับการพัฒนาโลก ซึ่งรวมถึงการแสวงหาความร่วมมือที่มีคุณภาพสูงในข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง การดำเนินการตามแผนริเริ่มการพัฒนาโลก และการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างประเทศในการลดความยากจนและความมั่นคงด้านอาหาร แนวทางเหล่านี้ได้กำหนดทิศทางสำหรับการพัฒนาโลกและสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลสำหรับความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของทุกประเทศ
ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในการดำเนินงาน จีนจึงให้การสนับสนุนการพัฒนาประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ อย่างเข้มแข็ง ผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศเรียกจีนว่า “พลังบวกที่ขับเคลื่อนการพัฒนาโลก”
จีนจะมุ่งมั่นทำงานเพื่อการพัฒนาโลกด้วยความตั้งใจที่จะสร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับมวลมนุษยชาติ โดยยึดมั่นในแนวทางที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมส่งเสริมความรู้สึกอิ่มเอม ความสุข และความปลอดภัยของประชาชนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จีนยังพร้อมที่จะก้าวเดินร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อสร้างโลกแห่งการพัฒนาที่ยุติธรรม และร่วมกันขจัดความยากจน พร้อมเปลี่ยนวิสัยทัศน์ให้เป็นจริง