เศรษฐกิจการบินระดับต่ำของจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

“ยานโดยสารทางภาคพื้นดินและอากาศ” รถยนต์บินได้ที่พัฒนาโดย XPENG ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน จัดแสดง
ณ พื้นที่เขตเศรษฐกิจการบินระดับต่ำในงาน Airshow China ในเมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีนเมื่อวันที่ 13
พฤศจิกายน 2567 (ซินหัว)

ลองจินตนาการว่าคุณยืนอยู่บนกำแพงเมืองจีน และชื่นชมทัศนียภาพอันกว้างไกลของภูเขาสูงชัน ในขณะที่โดรนกำลังบินลงมาอย่างนุ่มนวลเพื่อส่งกาแฟสด

นี่ไม่ใช่ฉากจากภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นมุมมองของเศรษฐกิจการบินระดับต่ำที่กำลังเติบโตของจีน

ในกรุงปักกิ่ง เส้นทางโลจิสติกส์ที่ใช้โดรนเส้นทางแรกเปิดให้บริการแล้วที่บริเวณกำแพงเมืองจีนด่านปาต๋าหลิ่ง นักเดินป่าที่เคยต้องเดินลุยเส้นทางที่ลาดชันนานถึง 50 นาทีเพื่อซื้อเครื่องดื่ม ตอนนี้สามารถจิบกาแฟหรือโคล่าได้ในเวลาเพียง 5 นาทีด้วยการแตะสมาร์ทโฟนเพียงไม่กี่ครั้ง

การเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เฉพาะคนรวยเท่านั้นอีกต่อไป ในเซี่ยงไฮ้ เที่ยวบินโดยสารที่บินในระดับต่ำหลายเที่ยวได้เปิดให้บริการแก่สาธารณชนแล้ว การเดินทางจากสนามบินผู่ตงของเซี่ยงไฮ้ไปยังเมืองคุนซานในมณฑลเจียงซูซึ่งอยู่ติดกัน ซึ่งใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงด้วยรถยนต์ ปัจจุบันสามารถเดินทางได้ในเวลาประมาณ 25 นาทีด้วย “แท็กซี่ทางอากาศ”

จี้ เสี่ยวเจี๋ย ชาวเมืองคุนซาน ซึ่งเพิ่งจ่ายเงิน 1,600 หยวน (ราว 7,600 บาท) เพื่อขึ้นแท็กซี่ทางอากาศ กล่าวว่า “ตอนแรกฉันกังวลเรื่องความไม่สะดวกสบาย แต่การเดินทางก็ราบรื่นมาก ไม่มีอาการหูอื้อทัศนียภาพที่สวยงามทำให้เป็นประสบการณ์ที่น่ายินดี และฉันอยากลองอีกครั้งในอนาคต”

เศรษฐกิจการบินระดับต่ำ หมายถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นไปที่ยานบินที่มีคนขับและไม่มีคนขับซึ่งปฏิบัติการในน่านฟ้าโดยปกติจะอยู่เหนือพื้นดินไม่เกิน 1,000 เมตร

เศรษฐกิจการบินระดับต่ำของจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว สำนักบริหารการบินพลเรือนแห่งประเทศจีนประเมินว่าตลาดการบินระดับต่ำของประเทศจะพุ่งสูงขึ้นจาก 5 แสนล้านหยวนในปี 2566 เป็น 1.5 ล้านล้านหยวนในปี 2568 และเพิ่มขึ้นถึง 3.5 ล้านล้านหยวนในปี 2578

ในปีนี้เป็นครั้งแรกที่คำว่า “เศรษฐกิจการบินระดับต่ำ” ถูกบรรจุอยู่ในรายงานการปฏิบัติงานของรัฐบาลจีน ซึ่งถือเป็นการรับรองอย่างเป็นทางการที่สร้างความมั่นใจให้กับเมืองต่าง ๆ จำนวนมาก

ในขณะเดียวกัน ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น ซูโจว และเมืองอื่น ๆ อีกหลายสิบแห่งได้ประกาศนโยบายสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ระดับต่ำ

ซูโจวและเมืองอื่นอีก 5 แห่งของจีน เตรียมนำร่องบริการการบินของเครื่องบินที่ขึ้นและลงทางดิ่งด้วยระบบไฟฟ้า (eVTOL) ซึ่งเป็นยานพาหนะที่สามารถขึ้นและลงในแนวดิ่งได้เหมือนเฮลิคอปเตอร์ โดยไม่ต้องใช้รันเวย์

เมืองซูโจวได้สร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งสำหรับเศรษฐกิจการบินระดับต่ำ ซึ่งครอบคลุมถึงการวิจัยและพัฒนา การผลิต และการประยุกต์ใช้ ในปีนี้ เมืองได้ลงนามโครงการที่เกี่ยวข้องมากกว่า 300 โครงการ โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 9 หมื่นล้านหยวน

ในเมืองอู๋ซีซึ่งเป็นเมืองใกล้เคียง เครื่องบินสองที่นั่งแบบเบาสำหรับการกีฬาที่พัฒนาโดยบริษัท แมกนัสของฮังการีได้บินขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อไม่นานมานี้ โดยสามารถบินได้ไกลประมาณ 1,600 กม. ต่อถังน้ำมันเต็ม และความเร็วสูงสุด 256 กม./ชม. เครื่องบินรุ่นนี้จึงมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นสำหรับการบินทางอากาศ การกู้ภัยฉุกเฉิน และการฝึกนักบิน

เมืองอู๋ซีมีบริษัทในภาคการบินระดับต่ำเกือบ 160 แห่งและกองทุนการลงทุนในด้านนี้ 30 กองทุน เมืองนี้ยังได้เปิดเส้นทางการบินระดับต่ำ 32 เส้นทาง ซึ่งมีความยาวรวม 1,320 กิโลเมตร

เกา หยวนหยาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยอุตสาหกรรมการบินทั่วไปแห่งมหาวิทยาลัยเป่ยหางในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า “เศรษฐกิจการบินระดับต่ำเป็น ‘มหาสมุทรสีน้ำเงิน’ ของโอกาสทางธุรกิจ”

เกาตั้งข้อสังเกตว่าการเปิดตัวระบบระยะยาวสำหรับเศรษฐกิจการบินระดับต่ำกำลังดำเนินการอยู่ทั่วประเทศจีน ตั้งแต่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการปลูกฝังสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบ ไปจนถึงการส่งเสริมการใช้เชิงพาณิชย์และการสร้างระบบอุตสาหกรรมที่ครอบคลุม

สถานการณ์การใช้งานระดับความสูงต่ำขยายออกไปไกลเกินกว่าการเดินทางและการขนส่ง ในพื้นที่ชนบทของจีน เกษตรกรกำลังลดภาระงานที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ด้วยการหันมาใช้โดรนในการใส่ปุ๋ย พ่นยาฆ่าแมลง และหว่านเมล็ดพันธุ์

ข้อมูลจากศูนย์บริการและส่งเสริมเทคโนโลยีทางการเกษตรแห่งชาติของจีน (NATESC) แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันจีนมีโดรนทางการเกษตรมากกว่า 250,000 ลำ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเพียง 695 ลำเมื่อทศวรรษที่แล้ว

ตามที่ สวี หนิง นักวิจัยเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยหนานจิงกล่าว ขอบเขตของเศรษฐกิจในพื้นที่ระดับต่ำกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การขนส่งผู้โดยสารและสินค้า การผลิตทางการเกษตร ไปจนถึงสาขาอื่น ๆ มากมาย รวมถึงการท่องเที่ยวพักผ่อนและบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน

สวี หนิง กล่าวว่า “เพื่อให้บรรลุศักยภาพอย่างเต็มที่ หน่วยงานในพื้นที่ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับสถานการณ์การใช้งานเศรษฐกิจในพื้นที่ต่ำให้มากขึ้น” พร้อมเสริมว่าการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ระดับต่ำไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตร แต่เป็นการวิ่งมาราธอน