นิทรรศการเป็นประตูสู่การลงทุนจากต่างประเทศสู่ตลาดขนาดใหญ่ของจีน

(People's Daily Online)วันศุกร์ 27 ธันวาคม 2024

เมื่อเร็วๆ นี้ เมืองเซินเจิ้น ทางตอนใต้ของจีนได้จัดงานนิทรรศการต่าง ๆ มากมาย ดึงดูดผู้บริหารจากต่างประเทศจำนวนมากที่ต้องการสำรวจโอกาสและขยายการลงทุนในตลาดอันกว้างใหญ่ของจีน

การประชุมส่งเสริมการลงทุนระดับโลกเซินเจิ้นประจำปี 2024 จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนธันวาคม โดยมีตัวแทนจากบริษัทและสถาบันต่าง ๆ มากกว่า 700 แห่งใน 33 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงบริษัทในกลุ่มฟอร์จูน โกลบอล 500 มากกว่า 200 แห่ง

มีการลงนามโครงการมากกว่า 400 โครงการในงานประชุม โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมเกินกว่า 900,000 ล้านหยวน (ประมาณ 125,180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมีบริษัทต่าง ๆ เช่น Rockwell Automation, Knorr-Bremse และ Dassault Systemes เข้าร่วม โครงการเหล่านี้ครอบคลุมภาคส่วนสำคัญ เช่น เศรษฐกิจการบินระดับต่ำ ยานยนต์เชื่อมต่ออัจฉริยะ และชีวการแพทย์

ความสำเร็จของการประชุมครั้งนี้เน้นย้ำถึงความพยายามของเมืองเซินเจิ้นในการดึงดูดการลงทุนและธุรกิจจากต่างประเทศ

งานแสดงสินค้าได้กลายเป็นช่องทางสำคัญและเป็นพลังขับเคลื่อนในการเปิดตลาดของจีน ซึ่งช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นระดับโลกและกระตุ้นเศรษฐกิจโลกด้วย

งานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติของจีน (CIIE) ครั้งที่ 7 จัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ในเดือนพฤศจิกายน ดึงดูดผู้แสดงสินค้าเกือบ 3,500 รายและกลุ่มจัดซื้อ 800 กลุ่ม โดยมียอดธุรกรรมที่วางแผนไว้ 80,010 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากปีก่อน

ในเดือนเดียวกัน งานมหกรรมห่วงโซ่อุปทานนานาชาติจีน (CISCE) ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง มีบริษัทเข้าร่วมงานมากกว่า 600 บริษัท ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์จากงาน CISCE ครั้งแรกในปี 2566 ส่วนแบ่งของผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 26 เปอร์เซ็นต์เป็น 32 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากเกือบ 70 ประเทศและภูมิภาค บริษัทจากสหรัฐฯ เป็นผู้นำในการเข้าร่วมงาน ขณะที่การมีส่วนร่วมจากยุโรปและญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน

ในทำนองเดียวกัน งานตลาดการท่องเที่ยวนานาชาติของจีน (CITM) ปี 2024 ที่จัดขึ้นในเซี่ยงไฮ้ ได้ต้อนรับผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศมากกว่า 1,000 รายและตัวแทนท่องเที่ยวต่างประเทศ 600 รายจากกว่า 80 ประเทศ พร้อมด้วยการจัดประชุมจับคู่ธุรกิจมากกว่า 600 ครั้ง

นักวิเคราะห์เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของจีนในห่วงโซ่อุปทานโลก ตัวอย่างเช่น เซินเจิ้นได้พัฒนาห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ที่ครอบคลุม ซึ่งรวมถึงยานยนต์ แบตเตอรี่ มอเตอร์ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ และห้องโดยสารอัจฉริยะ

ทิม คุก ซีอีโอของ Apple กล่าวขณะเยี่ยมชมบูธของ Apple ที่งาน CISCE ว่า “ผมรู้สึกภูมิใจมากที่ Apple ได้นำพันธมิตรของเรามาจัดแสดงที่นี่ เราคงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้หากไม่มีพวกเขา” นอกจากนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเภสัชกรรม เช่น Eli Lilly, Pfizer และ Bayer ก็ได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาและนวัตกรรมใหม่ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของพวกเขาในประเทศจีน