ตงซิง เมืองแห่งศูนย์กลางการค้าและการท่องเที่ยวข้ามพรมแดน

เมื่อวันจันทร์ที่ 20 มกราคม ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ที่หน้าด่านศุลกากรในเมืองตงซิง (Dongxing) เมืองชายแดนเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน มีคนเข้าคิวรอผ่านแดนจำนวนมาก

โง ธิ ทุย วัย 36 ปีจากเมืองหม่องก๋าย (Mong Cai) ของเวียดนาม กำลังรอผ่านพิธีการศุลกากรเพื่อเข้าสู่เมืองตงซิง ซึ่งมีแม่น้ำเป่ยหลุน (Beilun) ที่ตื้นและคดเคี้ยวกั้นกลาง

กิจวัตรประจำวันนี้เป็นสิ่งที่ โง ธิ ทุยทำมาตลอดในช่วงแปดปีที่ผ่านมา โดยทั่วไปการเดินทางของเธอจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที และตอนนี้เป็นการเดินทางที่คุ้นเคยดี โดยเริ่มจากการนั่งมอเตอร์ไซค์ไปถึงชายแดน 15 นาที ตามด้วยการเดินทางระยะสั้นข้ามสะพานลอยความยาว 111 เมตรที่เชื่อมระหว่างทั้งสองประเทศ ก่อนที่จะเดินอย่างรวดเร็วไปยังแผงลอยของเธอในใจกลางเมืองตงซิง ซึ่งเป็นที่ที่เธอทำมาหากิน

ที่ตลาดขายส่งนานาชาติว่านจ้ง (Wanzhong International Wholesale Market) ในตึกสูง 6 ชั้นนี้เป็นสถานที่ค้าขายสำคัญในท้องถิ่น โง ธิ ทุย ได้เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มจากผู้ค้าหลายร้อยรายจากทั้งสองฝั่งชายแดนด้วยการขายทุกอย่างตั้งแต่ของว่างเวียดนามไปจนถึงกาแฟสำเร็จรูปและงานหัตถกรรมแฮนด์เมด

ภายใต้โครงการนำร่องของรัฐบาลที่ดำเนินการในปี 2560 ชาวเวียดนามสามารถเปิดและดำเนินธุรกิจของตนในเมืองจีนแห่งนี้ได้อย่างถูกกฎหมาย เมื่อปลายปีที่แล้ว จำนวนธุรกิจส่วนบุคคลที่จดทะเบียนซึ่งเป็นเจ้าของโดยชาวเวียดนามเกิน 1,100 แห่ง

ในปี 2567 ตงซิงบันทึกการเดินทางของผู้โดยสารข้ามพรมแดนได้ทั้งหมด 8.58 ล้านครั้ง การเดินทางโดยชาวเวียดนามคิดเป็นร้อยละ 39 ของการเดินทางข้ามพรมแดนทั้งหมดที่บันทึกไว้ในเขตปกครองตนเองกว่างซีเมื่อปีที่แล้ว

ร้านค้าและป้ายถนนส่วนใหญ่ในตงซิงแสดงถึงการผสมผสานที่แปลกใหม่ระหว่างจีนและเวียดนาม โดยมีตัวอย่างการผสมผสานนี้มากมายที่เห็นได้จากลักษณะทางกายภาพของเมืองชายแดนแห่งนี้

จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนตงซิงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถือเป็นโอกาสอันมีค่าสำหรับธุรกิจในท้องถิ่นที่จะเติบโต ทำให้พวกเขาได้รับเงินของนักท่องเที่ยวที่เต็มใจจะใช้จ่าย ขณะเดียวกันก็ทำให้ตงซิงเป็นหนึ่งในตำแหน่งบนแผนที่ของจุดหมายปลายทางสำคัญ ๆ อีกด้วย

จากข้อมูลของหน่วยงานการท่องเที่ยวท้องถิ่น ระบุว่า ในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนตงซิงประมาณ 15.95 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.42 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ในปี 2567 เมืองนี้สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 15.21 พันล้านหยวน (ประมาณ 2.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.92 เมื่อเทียบกับปี 2566

ในปี 2560 สะพานใหม่คร่อมแม่น้ำเป่ยหลุน ซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรือเดิม 3 กิโลเมตรได้เปิดตัวแล้ว ในตอนแรกทางข้ามนี้ถูกกำหนดไว้สำหรับการขนส่งสินค้าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หกปีต่อมา ได้มีการเปิดตัวให้บริการแก่ผู้โดยสารอย่างเป็นทางการเพื่อช่วยบรรเทาความกดดันด้านการจราจร