เทศกาลตรุษจีนกระตุ้นการบริโภคและการเดินทาง

ภาพจากโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในเมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568
(ซินหัว)

ในขณะที่จีนปิดฉากวันหยุดยาว 8 วันในเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ หรือ ตรุษจีนเพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นปีมะเส็ง จีนในฐานะประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกก็มีการชอปปิงและการท่องเที่ยวที่บูมขึ้น โดยชาวจีนหลายร้อยล้านคนกลับมารวมตัวกับครอบครัวกันอีกครั้ง

วันหยุดตรุษจีนปีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม ถึง 4 กุมภาพันธ์ ถือเป็นปีที่สองติดต่อกันที่ผู้คนในจีนได้ขยายวันหยุดราชการออกไป ผู้คนแห่กันไปยังสถานที่ท่องเที่ยว เพลิดเพลินกับประสบการณ์ทางวัฒนธรรม และชอปปิงในช่วงวันหยุด

ด้วยจำนวนภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ในประเทศที่เน้นช่วงวันหยุดซึ่งนำผู้ชมภาพยนตร์จำนวนมากเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศจีน อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของประเทศได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่สนุกสนานนี้

ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธ์ ยอดจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์ต่อวันเกิน 1 พันล้านหยวน (เกือบ 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นเวลาต่อเนื่อง 6 วัน ทำให้รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศของจีนในช่วงหยุดตรุษจีนปี 2568 พุ่งถึง 8.02 พันล้านหยวน ถือเป็นสถิติใหม่ในช่วงเวลาเดียวกันของประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมภาพยนตร์

ในขณะเดียวกัน ตามข้อมูลจากสำนักงานภาพยนตร์แห่งชาติจีนระบุว่า บ็อกซ์ออฟฟิศรวมของจีนในปี 2568 รวมถึงยอดขายแบบเรียลไทม์ทะลุ 1 หมื่นล้านหยวน (ราว 4.6 หมื่นล้านบาท) ครองอันดับ 1 ของโลก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพยนตร์ที่ติดอันดับบ็อกซ์ออฟฟิศเป็นผลงานในประเทศทั้งหมด โดย “นาจา 2” ซึ่งเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันภาคต่อของภาพยนตร์ฮิตในปี ค.ศ. 2019 ทำรายได้มากกว่า 3.8 พันล้านหยวน

ในขณะที่การชมภาพยนตร์ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงวันหยุด กิจกรรมการเดินทางและสันทนาการทั่วประเทศจีนก็เช่นกัน หลายคนเลือกที่จะสำรวจความงามทางธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศด้วยตนเอง

อัลไต สถานที่เล่นสกีชั้นนำของจีนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมระหว่างวันที่ 28-31 มกราคม ถึง 191,900 คน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 225 ล้านหยวน

อัลไตตั้งอยู่ที่ละติจูด 45-47 องศาเหนือมีหิมะตกประมาณ 170 ถึง 180 วันต่อปี ในพื้นที่ภูเขา ความลึกของหิมะเฉลี่ย 1 ถึง 2 เมตร ภูมิประเทศนี้เหมาะสำหรับการเล่นสกีเนื่องจากมีความสูงในแนวดิ่งมากกว่า 1,000 เมตร

จาง จูจุน ผู้ชื่นชอบกีฬาหิมะที่รีสอร์ทกล่าวว่า “รีสอร์ทแห่งนี้มีพื้นที่ภูมิประเทศที่มีระดับต่าง ๆ มากมายและด้วยลักษณะที่มีความคิดสร้างสรรค์เหมาะสมสำหรับทุกระดับ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่วิเศษสำหรับทุกคนในการมาเพื่อความสนุกสนานและท้าทาย”

อำเภอหยางซั่วในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางทิศใต้ของจีน ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจำนวนมากด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่วันที่ 28-30 มกราคม อำเภอหยางซั่วได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวประมาณ 410,600 คน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 589 ล้านหยวน

ที่เมืองลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซีจ้าง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ก็มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมชมเช่นกัน ตามข้อมูลจากสำนักงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวลาซาระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธ์ เมืองนี้ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยว 1.95 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวมเกือบ 1.76 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.75 เมื่อเทียบเป็นรายปี

แพลตฟอร์มการจองการเดินทางสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มโดยรวม โดยข้อมูลจากฟลิกกี้ (Fliggy) ซึ่งเป็นบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ชั้นนำ แสดงให้เห็นว่ามีการจองเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากเมืองต่าง ๆ เช่น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และกว่างโจว คำสั่งซื้อการเดินทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการจองเรือสำราญระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นมากกว่าหกเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

กลุ่มท่าอากาศยานเซี่ยงไฮ้รายงานว่า จำนวนผู้โดยสารในวันอาทิตย์พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 404,000 คน โดยสนามบินผู่ตงรองรับผู้โดยสาร 259,000 คน และสนามบินหงเฉียว 145,000 คน

เมื่อใกล้จะสิ้นวันหยุด สนามบินและศูนย์กลางการคมนาคมในเซี่ยงไฮ้ก็เตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาของนักเดินทาง ด้วยการประสานงานที่เข้มข้นยิ่งขึ้นของบริการรถไฟใต้ดิน รถบัส และแท็กซี่ เพื่อให้การเดินทางราบรื่น

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บริษัทการรถไฟแห่งประเทศจีน (China State Railway Group Co., Ltd.) รายงานเหตุการณ์สำคัญครั้งประวัติศาสตร์ เนื่องจากทางรถไฟของประเทศได้ขนส่งผู้โดยสาร 16.45 ล้านคน ถือเป็นปริมาณผู้โดยสารในวันเดียวที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของการเดินทางที่เร่งรีบในช่วงเทศกาลตรุษจีน

ในวันอังคาร ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันหยุดตรุษจีน คาดว่าระบบรถไฟแห่งชาติจะรองรับผู้โดยสารได้ 16.9 ล้านคน ซึ่งเป็นช่วงสูงสุดของกิจกรรมการเดินทาง ผู้คนหลายร้อยล้านคนเดินทางกลับจุดหมายปลายทางหลังจากที่ได้เดินทางเยือนครอบครัว

การบริโภคเป็นอีกเทรนด์ที่โดดเด่น โดยผู้คนจำนวนมากขึ้นที่ต้องการสัมผัสมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานของจีน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการที่เทศกาลตรุษจีนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติของยูเนสโก (UNESCO) ในเดือนธันวาคม 2567

จากข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ยอดขายของบริษัทค้าปลีกและการจัดเลี้ยงรายใหญ่ทั่วประเทศจีนในช่วง 4 วันแรกของวันหยุดเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

เทศกาลตรุษจีนได้เพิ่มความอยากในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มนำเข้าของผู้บริโภคชาวจีน เช่น ล็อบสเตอร์ เชอร์รี่ และไวน์ หยาง ซินหยีว์ จากบริษัทซัพพลายเชนระหว่างประเทศแห่งหนึ่งในกว่างโจวกล่าวว่า “เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน การนำเข้าของบริษัทเราจึงเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 ในเดือนที่ผ่านมา”

ตั้งแต่เดือนมกราคม หน่วยงานศุลกากรของท่าอากาศยานนานาชาติกว่างโจวไป๋หยุนได้จัดการกับสัตว์น้ำนำเข้า เช่น ล็อบสเตอร์และปูทะเล ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 14.3 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.8 เมื่อเทียบเป็นรายปี

เหม่ยถวน (Meituan) หนึ่งในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำของจีนสำหรับบริการต่าง ๆ รายงานว่า ยอดจองออนไลน์สำหรับดินเนอร์วันตรุษจีนเพิ่มขึ้นถึง 300% เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ คำสั่งซื้อแบบกลุ่มสำหรับแพ็คเกจธีม “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” เพิ่มขึ้นกว่า 12 เท่านับตั้งแต่เดือนมกราคมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในประสบการณ์ทางวัฒนธรรม

ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่และครอบครัว ข้อมูลจาก เหม่ยถวน ทราเวล (Meituan Travel) สะท้อนว่าคนหนุ่มสาวเลือกที่จะเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในเมืองเล็ก ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยดื่มด่ำไปกับมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์

การเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการบริโภค ตั้งแต่ประสบการณ์มรดกทางวัฒนธรรมไปจนถึงภาพยนตร์ดัง บ่งชี้ถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับกิจกรรมทางวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย