ทางด่วนที่จีนลงทุนสร้างทำให้คุณภาพชีวิตชาวบ้านกัมพูชาดีขึ้น

สำนักข่าวซินหัวรายงานจากจังหวัดกำปงสปือ ประเทศกัมพูชาเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2568 ว่าทางด่วนสายพนมเปญ-สีหนุวิลล์ที่จีนลงทุนสร้าง ทำให้ชาวบ้านหมู่บ้านโวอาซาร์ อำเภอสำโรงทอง จังหวัดกำปงสปือ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชาที่อยู่ริมทางมีรายได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

นายชัย คิมซาน ผู้ใหญ่บ้านวัย 69 ปี กล่าวว่าหมู่บ้านแห่งนี้มีประชากรทั้งหมด 1,128 คน ประกอบอาชีพด้วยการทำงานในภาคส่วนต่างๆ โดยบางคนยังทำงานกับบริษัท พีพีเอสเอชวี เอ็กซ์เพรสเวย์ จำกัด ของกัมพูชา ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางด่วนสายพนมเปญ-สีหนุวิลล์ ระยะทาง 187 กิโลเมตร ทางด่วนซึ่งเปิดให้สัญจรตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ได้ช่วยเปลี่ยนหมู่บ้านที่ครั้งหนึ่งเคยยากจนและเงียบสงบให้กลายเป็นหมู่บ้านที่เจริญรุ่งเรือง จากบ้านไม้ที่มีหลังคาเหล็กสังกะสีเปลี่ยนเป็นบ้านคอนกรีตหรือวิลล่าขนาดเล็ก และจากถนนลูกรังก็เปลี่ยนมาเป็นถนนคอนกรีต และยังได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซินหัวด้วยว่า “ในอดีต ชีวิตของพวกเขาไม่ดีเท่าทุกวันนี้ พวกเขาต้องอยู่กันอย่างยากลำบากมากมาย”

เขากล่าวว่าทางด่วนได้ให้ประโยชน์มากมายแก่ชาวบ้านเนื่องจากสะดวก ปลอดภัย ประหยัดเวลา และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง “ตั้งแต่มีทางด่วนนี้ ชาวบ้านก็ชอบเดินทางโดยทางด่วนไปยังสีหนุวิลล์เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ” นอกจากนี้ ทางด่วนยังกระตุ้นให้ราคาที่ดินริมทางหลวงสูงขึ้นอย่างมาก “ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในอาชีพของพวกเขาเนื่องจากราคาที่ดินในบริเวณนี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ดังนั้น พวกเขาจึงมีเงินมากจากการขายที่ดินที่อยู่ติดกับทางด่วน”

ผู้ใหญ่บ้านโวอาซาร์ กล่าวว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่พอใจกับทางด่วน เพราะสะท้อนถึงการพัฒนาประเทศที่รวดเร็ว “ผมขอเสนอให้บริษัทช่วยสร้างโอกาสการจ้างงานให้มากขึ้น ชาวบ้านจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”

นายแมนน์ ไพเสธ ชาวบ้านวัย 40 ปีคุณพ่อลูกสี่ซึ่งได้งานจากผู้ประกอบการทางด่วน กล่าวผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซินหัวว่าทางด่วนสายนี้สร้างงานให้กับชาวกัมพูชาได้มาก ทางด่วนสายนี้ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ริมทาง “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีทางด่วนผ่านหมู่บ้านของเรามันทำให้หมู่บ้านสวยงามขึ้นและยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน” แถมทางด่วนสายนี้ยังทำให้ความสัมพันธ์กัมพูชาและจีนดีขึ้นด้วย

ทางด่วนสายนี้ลงทุนโดยบริษัท ไชน่า โรด แอนด์ บริดจ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (China Road and Bridge Corporation: CRBC) ด้วยเงิน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นโครงการแรกในกัมพูชาที่มีลักษณะดังกล่าว และถือเป็นโครงการเดียวที่ใหญ่ที่สุดภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) ระหว่างกัมพูชาและจีน ทางด่วนสายนี้ผ่านจังหวัดกันดาล กำปงสปือ และเกาะกง โดยมีช่องจราจรขาเข้าและขาออกฝั่งละ 2 ช่องจราจรและ 1 ช่องจราจรฉุกเฉิน ทำให้การใช้ทางด่วนสามารถถึงจุดหมายปลายทางได้ภายใน 2 ชั่วโมง ขณะที่การเดินทางโดยทางหลวงหมายเลข 4 ต้องใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมง

นายเกิน เพีย ผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งกัมพูชา ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยภายใต้ราชบัณฑิตยสถานแห่งกัมพูชา กล่าวกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซินหัวว่า ทางด่วนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางและระบบโลจิสติกส์ “เส้นทางดังกล่าวถือเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางการค้ากับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และยังเป็นเส้นทางหลักที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่จังหวัดพระสีหนุซึ่งเป็นจังหวัดชายฝั่งทะเลอีกด้วย” พร้อมกล่าวด้วยว่าการใช้ทางด่วนช่วยประหยัดทั้งเชื้อเพลิงและเวลา อีกทั้งยังปลอดภัยกว่าการเดินทางบนถนนธรรมดา