หันมาเสริมสร้างสายสัมพันธ์ด้านการลงทุนระหว่างจีน-สหรัฐฯ เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกัน

(People's Daily Online)วันอังคาร 08 เมษายน 2025


ผู้บริโภคกำลังทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ Apple ที่ร้าน Apple ในเขตจิ้งอัน นครเซี่ยงไฮ้ ทางตะวันออกของจีน (พีเพิลส์
เดลี่ ออนไลน์)

โรงงานขนาดใหญ่แห่งใหม่ของบริษัท Tesla ผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐอเมริกาในเซี่ยงไฮ้ ได้เปิดสายการผลิตในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยโรงงานมีขนาดกว้างขวางถึง 200,000 ตารางเมตร ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา

โรงงานแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างเพียงแปดเดือนเศษ โดยตั้งเป้าผลิตแบตเตอรี่สำรองพลังงานได้ 10,000 ชุดต่อปี ซึ่งเพิ่มความจุสำรองพลังงานได้ประมาณ 40 กิกะวัตต์-ชั่วโมง โครงการนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มผลผลิตสำรองพลังงานทั่วโลกของ Tesla ได้มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำถึงสิ่งที่บางคนมองว่าเป็นแบบจำลองของ “ความเร็วเซี่ยงไฮ้” ที่ผสานกับ “ความเร็วของ Tesla”

นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี ค.ศ. 1979 การลงทุนระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาได้เติบโตอย่างรวดเร็ว จากเกือบเป็นศูนย์เพิ่มขึ้นเป็น 260,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การค้าทวิภาคีเพิ่มจากต่ำกว่า 2,500 ล้านดอลลาร์เป็นมากกว่า 680,000 ล้านดอลลาร์ บริษัทจากสหรัฐอเมริกามากกว่า 70,000 แห่งได้ลงทุนและดำเนินกิจการในจีน โดยการส่งออกไปยังตลาดจีนช่วยสนับสนุนการจ้างงานของชาวอเมริกันประมาณ 930,000 ตำแหน่ง ในขณะเดียวกัน บริษัทจีนกว่า 7,000 แห่งได้ลงทุนมากกว่า 140,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสร้างงานให้กับชาวอเมริกันมากกว่า 1 ล้านตำแหน่ง

หลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันก็คือบริษัท Fuyao Group ของจีน ในปี พ.ศ. 2557 บริษัทได้เปิดตัวโรงงานผลิตกระจกรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่รัฐโอไฮโอ นับแต่นั้นมา โรงงานแห่งนี้ก็กลายมาเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานรถยนต์ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการจ้างงานในท้องถิ่นและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

จีนเปิดโอกาสการลงทุนและการพัฒนามากมายสำหรับธุรกิจระดับโลก รวมถึงบริษัทจากอเมริกา แม้จะมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายฝ่ายเดียว การคุ้มครองทางการค้า และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ธุรกิจจำนวนมากในสหรัฐฯ ยังคงมองว่าจีนเป็นตลาดที่สำคัญและเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญในนวัตกรรมและห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

รายงานของหอการค้าอเมริกันในจีน (AmCham China) ที่เผยแพร่เมื่อเดือนมกราคม เปิดเผยว่า บริษัทในสหรัฐฯ ที่ได้รับการสำรวจร้อยละ 48 จัดให้จีนเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนสามอันดับแรกของโลก และร้อยละ 53 มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มในประเทศจีนในปีนี้

อัลวิน หลิว ประธานของ AmCham China เน้นย้ำถึงความสำคัญที่ยั่งยืนของจีนในฐานะตลาดผู้บริโภคที่สำคัญสำหรับบริษัทในสหรัฐฯ และเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนที่สำคัญต่อนวัตกรรมและห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ธุรกิจในสหรัฐฯ จำนวนมากก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยพวกเขายืนกรานว่าการไม่ยุ่งเกี่ยวกับจีนเป็นกลยุทธ์ทางการค้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ พวกเขาโต้แย้งว่าจีนเสนอระบบนิเวศทางอุตสาหกรรมที่ไม่สามารถเทียบได้ สิ่งแวดล้อมทางการค้าที่ปรับปรุง นโยบายการลงทุนระหว่างประเทศที่มั่นคง และแรงงานที่มีทักษะสูง

ฌอน สไตน์ ประธานสภาธุรกิจสหรัฐฯ-จีน กล่าวว่า จีนได้เติบโตเป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ซึ่งเปิดโอกาสมากมายให้กับบริษัทระดับโลก


ผู้เยี่ยมชมเดินดูรถยนต์ที่โชว์รูม Tesla ในเขตเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)

แม้แต่ความพยายามที่จะย้ายการผลิตออกจากจีนก็มักจะพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถทำได้ในทางปฏิบัติ เมื่อ Apple พยายามผลิตคอมพิวเตอร์ระดับไฮเอนด์ในสหรัฐฯ ก็พบว่าการผลิตในประเทศไม่มีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับความร่วมมือระยะยาวกับจีน Tim Cook ซีอีโอของ Apple ยอมรับอย่างเปิดเผยว่า ความสำเร็จระดับโลกของ Apple นั้นเชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกกับซัพพลายเออร์ในจีน

สำหรับทั้งสองประเทศ ตรรกะทางเศรษฐกิจของความร่วมมือด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่องยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แม้ว่าการแข่งขันจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การเสริมซึ่งกันและกันทางเศรษฐกิจถือเป็นแรงผลักดันหลัก

ด้วยการใช้จุดแข็งของแต่ละประเทศ ทั้งสองประเทศจะสามารถสร้างโอกาสในการเติบโตที่ทั้งสองประเทศไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง ซึ่งมักสรุปเป็นพลวัตแบบ “1+1>2”

ในขณะที่เศรษฐกิจของจีนยังคงฟื้นตัวและนักลงทุนทั่วโลกเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลายคนมองว่าการลงทุนในจีนเป็นการลงทุนในอนาคต พร้อมกันนั้น การลงทุนของจีนในสหรัฐฯ ยังช่วยส่งเสริมนวัตกรรม การสร้างงาน และการเติบโตของอุตสาหกรรม

การนำการลงทุนเข้าสู่เรื่องการเมืองและการกำหนดข้อจำกัดตามอำเภอใจจะไม่ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ และอาจขัดขวางการพัฒนาของจีน แต่กลับจะทำลายผลประโยชน์ร่วมกันที่ธุรกิจและประชาชนในทั้งสองประเทศได้รับมาอย่างยาวนาน

ขณะที่จีนเดินหน้าปฏิรูปและปรับปรุงให้ทันสมัย และสหรัฐฯ พยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจ โอกาสในการร่วมมือกันยังมีอยู่มากมาย การให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ร่วมกันมากกว่าการแข่งขันทางการเมืองจะช่วยให้ทั้งสองประเทศสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่มั่นคงและเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยรักษาการเติบโตในระยะยาวทั้งสำหรับเศรษฐกิจและประชาชนของแต่ละประเทศ