เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ช่วยส่งเสริมเกษตรกรรมให้ก้าวสู่การพัฒนาคุณภาพสูง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความพยายามในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) มาใช้ในภาคเกษตรกรรมได้รับการผลักดันอย่างมาก โดยเปิดโอกาสใหม่ในฐานะโมเดลเอไอขนาดใหญ่ที่ก้าวหน้าต่อเนื่อง แต่นวัตกรรมเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพอย่างไร
ในมณฑลจี๋หลิน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน หุ่นยนต์กำลังบินสำรวจทุ่งข้าวโพดในเมืองกงจูหลิง โดยสามารถจับภาพได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ ภาพฟุตเทจที่แชร์โดยเฉิน เจี้ยน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แห่งประเทศจีน แสดงให้เห็นว่า AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำฟาร์มอย่างไร
เฉินกล่าวว่า “ในอดีต การพัฒนาพันธุ์พืชใหม่ใช้เวลาหลายปีในการสังเกตและทดลองในทุ่งนา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน”
ในปัจจุบัน เฉินและทีมของเขาใช้หุ่นยนต์ในการสังเกตและวิเคราะห์พืช โดยทำการคัดกรองเบื้องต้นเพื่อระบุพืชที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น ผลผลิตสูงหรือต้านทานโรค จากนั้นจึงส่งพืชที่มีแนวโน้มดีไปทดสอบต่อไป
เฉินยังกล่าวว่า “หุ่นยนต์จะทำงานที่น่าเบื่อและไม่ต้องใช้ทักษะสูง ซึ่งเคยเป็นหน้าที่ของคนทำงานเพาะพันธุ์” ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์เพาะพันธุ์อัจฉริยะไม่เพียงแต่ทำตามคำสั่ง แต่ยังสามารถคิดและเชื่อมโยงข้อมูลได้เหมือนมนุษย์
เฉินชี้ให้เห็นว่า หุ่นยนต์ตัวเดียวสามารถตรวจสอบพื้นที่การเกษตรได้ถึง 2.5 หมู่ (1.05 ไร่) ต่อชั่วโมง และเมื่อมีหุ่นยนต์หลายร้อยหรือหลายพันตัวทำงานพร้อมกัน ผลผลิตก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การคัดกรองเบื้องต้นยังช่วยลดจำนวนพืชที่ต้องทดสอบในห้องปฏิบัติการ ทำให้กระบวนการเพาะพันธุ์เร็วขึ้น
เขาหวังว่า การใช้ AI จะช่วยเร่งการผสมพันธุ์พืชผล เช่น ข้าวสาลีและข้าวโพด ให้สามารถเติบโตในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ที่ราบสูง ทะเลทราย และดินเค็ม
หุ่นยนต์ลาดตระเวนกำลังตรวจสอบสวนเกษตรอัจฉริยะ ณ นครเทียนจิน
ทางตอนเหนือของจีน ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 (ซินหัว)
เซี่ย หงยี่ว์ ผู้จัดการบริษัท Jurong Chuntian Ecological Agriculture Development จำกัด เป็นผู้ดำเนินการฟาร์มที่ไม่มีคนทำงาน ระบุว่า นอกเหนือจากการเพาะพันธุ์ AI ยังได้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับเกษตรกรในหมู่บ้านเหอจวง เมืองเจิ้นเจียง มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน
เซี่ยกล่าวว่า ในอดีต เครื่องจักรกลจำเป็นต้องมีการสร้างแผนที่เส้นทางแบบทำด้วยมือหรือแมนวล “แต่ตอนนี้ ด้วยการระบุตำแหน่งที่แม่นยำสูงจากการบูรณาการระหว่างดาวเทียมเป๋ยโต่วและ 5G ร่วมกับอัลกอริทึมเอไอ เครื่องจักรกลสามารถวางแผนเส้นทางและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างอัตโนมัติ”
ในด้านการควบคุมศัตรูพืชและการกำจัดวัชพืช AI สามารถประเมินการเจริญเติบโตของพืชและการระบาดของศัตรูพืชได้อย่างรวดเร็วโดยใช้การจดจำภาพจากฟีดวิดีโอและภาพถ่าย ซึ่งมักทำได้เร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์
โดรนทางการเกษตรเป็นตัวอย่างที่ดีในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่โดรนเชิงพาณิชย์มาพร้อมกับความสามารถของ AI ในการจัดการงานต่าง ๆ เช่น การฉีดพ่นยาฆ่าแมลง การใส่ปุ๋ย การหว่านเมล็ด การขนส่ง และการตรวจสอบพื้นที่ที่ประสบภัย ตามข้อมูลของหาน จวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและกิจการชนบทของจีน โดรนทางการเกษตรมากกว่า 200,000 ลำกำลังปฏิบัติงานในประเทศ ครอบคลุมพื้นที่การเกษตรกว่า 400 ล้านหมู่ (168 ล้านไร่)
กระทรวงเกษตรและกิจการชนบทร่วมกับ Tencent ได้เปิดตัวแผนส่งเสริม AI ในพื้นที่ชนบทเป็นเวลา 3 ปี โดยจะจัดฝึกอบรมฟรีให้กับบุคลากรสำคัญในการบริหารชนบทและหัวหน้าหน่วยธุรกิจการเกษตรใหม่ ๆ AI ยังได้ก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ เช่น การแปรรูป การเก็บรักษา โลจิสติกส์ และการตลาดดิจิทัล ในอำเภอหลิงซาน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตลิ้นจี่รายใหญ่เป็นอันดับสองของจีน ความท้าทายในการเก็บรักษา การทำโลจิสติกส์ และช่องทางการขายได้จำกัดชื่อเสียงของลิ้นจี่ในท้องถิ่น ส่งผลให้ผลกำไรของเกษตรกรลดลง
อย่างไรก็ตาม AI สามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ โดยหลังการเก็บเกี่ยว เทคโนโลยีการจดจำภาพของ AI จะทำการคัดแยกลิ้นจี่ตามขนาดและสี ก่อนที่จะจัดสรรไปยังช่องทางการขายต่าง ๆ เพื่อเพิ่มผลกำไรสูงสุด โดยอัลกอริธึม AI จะทำการจับคู่คำสั่งซื้อกับสินค้าคงคลังอย่างรวดเร็ว เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับลิ้นจี่สดใหม่เสมอ ๆ