จีน-สหภาพยุโรปย้ำเจตนารมณ์ยึดมั่นต่อการค้าเสรีและเปิดกว้าง
นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า จีนมีเครื่องมือนโยบายมากเพียงพอที่จะรับมือกับผลกระทบด้านลบจากภายนอกในปีนี้ พร้อมย้ำว่าจีน “มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมในการรักษาการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและมีสุขภาพดี” ระหว่างวิจารณ์มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าอย่างกว้างขวางของสหรัฐฯ ต่อคู่ค้าทั่วโลก
นายกรัฐมนตรีจีนให้ความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ในช่วงที่เกิดความปั่นป่วนจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
นายหลี่ย้ำว่า มาตรการนโยบายมหภาคของจีนในปีนี้ได้คำนึงถึงปัจจัยความไม่แน่นอนต่าง ๆ อย่างครบถ้วนแล้ว พร้อมตอกย้ำเจตนารมณ์ที่จะขยายการเปิดกว้างและส่งเสริมความร่วมมือกับเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงสหภาพยุโรป เพื่อแบ่งปันโอกาสทางการพัฒนา
การสนทนาดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งบริหารเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสูงสุดถึง 34% และจากสหภาพยุโรป 20% โดยสหรัฐฯ ขู่จะขึ้นภาษีเพิ่มอีก 50% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน
นายหลี่ระบุว่าการใช้มาตรการภาษีอย่างไม่เป็นธรรมของสหรัฐฯ ต่อคู่ค้าทั้งหมดด้วยข้ออ้างต่าง ๆ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ “ลัทธิฝ่ายเดียว การปกป้องทางการค้า และการข่มเหงทางเศรษฐกิจ”
เขากล่าวด้วยว่าการตอบโต้อย่างหนักแน่นของจีนไม่เพียงเพื่อปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ทางการพัฒนาเท่านั้น แต่ยังเพื่อพิทักษ์กฎการค้าระหว่างประเทศและความยุติธรรมระดับโลก
“มวลมนุษยชาติอาศัยอยู่ในหมู่บ้านโลกเดียวกัน ไม่มีประเทศใดสามารถเจริญรุ่งเรืองอย่างโดดเดี่ยวได้ การปกป้องทางการค้าคือทางตัน มีเพียงความร่วมมือแบบเปิดกว้างเท่านั้นที่เป็นหนทางที่แท้จริงในการก้าวไปข้างหน้า” นายหลี่กล่าว
ทั้งจีนและสหภาพยุโรปในฐานะผู้สนับสนุนหลักของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจและการค้าเสรี รวมถึงองค์การการค้าโลก ควรเสริมสร้างการสื่อสารและประสานงาน ขยายการเปิดกว้างซึ่งกันและกัน ปกป้องการค้าและการลงทุนที่เสรีและเปิดกว้าง และยึดมั่นต่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานโลก
นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำถึงความพร้อมของจีนที่จะเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองกับสหภาพยุโรปและขยายความร่วมมือในทางปฏิบัติ โดยปีนี้ถือเป็นวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองฝ่าย
อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอินได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความสัมพันธ์ที่สม่ำเสมอและมั่นคงระหว่างสหภาพยุโรปกับจีน พร้อมชี้ว่าภาษีของสหรัฐฯ สร้างความสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงต่อการค้าระหว่างประเทศ ทั้งต่อสหภาพยุโรป จีน และประเทศที่เปราะบาง
ทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันเจตนารมณ์ที่จะปกป้องระบบการค้าพหุภาคี ซึ่งสอดคล้องกับผลประโยชน์ร่วมของทั้งสองฝ่ายและของโลก
แถลงการณ์จากสำนักของประธานคณะกรรมาธิการยุโรประบุเพิ่มเติมว่า การสนทนายังครอบคลุมถึงความร่วมมือด้านวาระสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศ และการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมสะอาดระหว่างสหภาพยุโรปกับจีน