หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ตอกบัตรเข้าทำงาน

(People's Daily Online)วันอังคาร 06 พฤษภาคม 2025

หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ที่มีความสูง 1.72 เมตรในโครงสีเงินมันวาวนั้นสามารถปฏิบัติงานในสายการผลิตได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการคัดแยกวัสดุ ขนกล่อง และประกอบชิ้นส่วน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนี้เปลี่ยนวิสัยทัศน์ในอนาคตให้กลายเป็นความจริงทางอุตสาหกรรม

เครื่องจักรขั้นสูงเหล่านี้ ซึ่งรู้จักกันในชื่อหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ Walker S1 ได้รับการพัฒนาโดย UBTECH Robotics ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ปัจจุบัน หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์เต็มรูปแบบได้เริ่มปฏิบัติงานอย่างเป็นทางการแล้วที่โรงงานอัจฉริยะ 5G ของ Zeekr ซึ่งเป็นแบรนด์ภายใต้ Geely ผู้ผลิตรถยนต์ของจีน ในเขตพื้นที่ใหม่เฉียนวาน เมืองหนิงปัว มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน

เมื่อวันที่ 19 เมษายน การแข่งขันฮาล์ฟมาราธอนสำหรับหุ่นยนต์มนุษย์ครั้งแรกของโลกจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง โดยหุ่นยนต์ Tiangong Ultra ซึ่งพัฒนาโดยศูนย์นวัตกรรมหุ่นยนต์มนุษย์ปักกิ่ง เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกและคว้าตำแหน่งแชมป์ไปครอง

หุ่นยนต์ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์จะต้องขยายขอบเขตการทำงานให้กว้างไกลกว่าการปฏิบัติหน้าที่เพื่อรวมเอาความสามารถในการโต้ตอบและการทำงานร่วมกันไว้ด้วยเพื่อให้บรรลุถึงการทำงานที่เหมือนมนุษย์อย่างแท้จริง ในเดือนมีนาคมของปีนี้ UBTECH ได้เปิดตัวการทดลองการทำงานร่วมกันของหุ่นยนต์หลายตัวครั้งแรก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการประสานงานในสถานการณ์และชุดงานที่หลากหลาย

ในการทดสอบครั้งหนึ่ง หุ่นยนต์ Walker S1 สองตัวเดินไปที่ลังอย่างมั่นคง จากนั้นยกลังขึ้นมาพร้อมกันอย่างสอดประสาน และเดินตามเส้นทางการส่งมอบที่วางแผนไว้ โดยสามารถหลบเลี่ยงหุ่นยนต์ที่กำลังเคลื่อนที่ตัวอื่น ๆ ไปได้ตลอดทาง

หุ่นยนต์มีการประสานงานกันยังไง?

เจียว จี้เฉา รองประธานของ UBTECH และคณบดีบริหารของสถาบันวิจัย UBTECH อธิบายว่า “เราได้มอบ ‘สมอง’ และ ‘สมองน้อย’ ให้กับหุ่นยนต์เช่นเดียวกับมนุษย์”

“สมอง” ซึ่งขับเคลื่อนด้วยโมเดลการใช้เหตุผลแบบหลายโหมดที่อิงตามเอไอของ DeepSeek-R1 ช่วยให้สามารถอนุมานตามสามัญสำนึกได้ “สมองน้อย” ซึ่งผสานเทคโนโลยีการรับรู้และการควบคุมแบบกระจาย ช่วยให้สามารถเรียนรู้แบบกระจายขนานกันได้ ทำให้การพัฒนาทักษะและการถ่ายโอนรวดเร็วขึ้น

ที่โรงงานของ BYD ประสิทธิภาพการทำงานของ Walker S1 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และหุ่นยนต์ดังกล่าวมีกำหนดจะนำไปใช้งานจริงในไตรมาสที่สอง นอกจากนี้ ที่โรงงานหลงหัว ของ Foxconn ในเมืองเซินเจิ้น ได้มีการพิสูจน์แล้วว่าสามารถนำหุ่นยนต์ดังกล่าวไปใช้งานด้านโลจิสติกส์ได้สำเร็จ

“เราได้เข้าสู่ขั้นตอนการผลิตนำร่องในระดับเล็กแล้ว แต่จะต้องใช้เวลาอีกหนึ่งถึงสองปีจึงจะบรรลุขีดความสามารถในการผลิตจำนวนมากในระดับอุตสาหกรรมเต็มรูปแบบ” เจียวกล่าว เขาตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยการผลิตอัจฉริยะมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นสาขาการประยุกต์ใช้งานหลักสาขาแรกสำหรับหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์