สัมผัสดินแดนแห่งอนาคตในจีน

ศูนย์วิจัยและพัฒนาหัวเหว่ย ณ ทะเลสาบเหลียนฉิวในนครเซี่ยงไฮ้ (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)

หากคุณไปเยือนเซี่ยงไฮ้และต้องเลือกระหว่างเซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์กับศูนย์วิจัยและพัฒนาหัวเหว่ย ณ ทะเลสาบเหลียนฉิว คุณจะเลือกที่ไหน

เมื่อไม่นานมานี้ โทมัส ฟรีดแมน นักเขียนคอลัมน์นิตยสารนิวยอร์กไทมส์ กล่าวถึงสถานที่ทั้งสองแห่งว่าเป็นสัญลักษณ์ของ “ดินแดนแห่งอนาคต” (Tomorrowland) แต่สุดท้ายก็สรุปว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาของหัวเหว่ยที่ทะเลสาบเหลียนฉิวเป็นตัวแทนของนครแห่งอนาคต ดังนั้น เขาจึงเลือกไปทะเลสาบเหลียนฉิว

อะไรทำให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งนี้มีเสน่ห์ดึงดูดนัก?

ศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตสาธิตสำหรับการพัฒนาเชิงนิเวศและสีเขียวแบบบูรณาการในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี โดยมาพร้อมการลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านหยวน (1.38 พันล้านดอลลาร์) และได้รับการออกแบบให้รองรับนักวิจัยหลายหมื่นคน

สำหรับฟรีดแมน สภาพแวดล้อมที่เหนือกว่าคือ “การออกแบบเพื่อดึงดูดนักเทคโนโลยีชาวจีนและชาวต่างชาติที่ดีที่สุด” นั่นเอง ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน ความมีชีวิตชีวาและความคิดสร้างสรรค์ของศูนย์วิจัยแห่งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษ

ไม่ใช่แค่หัวเหว่ยเท่านั้น บริษัทต่าง ๆ ทั่วประเทศจีนกำลังนำนวัตกรรมมาใช้และมุ่งหน้าสู่การเป็นองค์กรระดับไฮเอนด์ อัจฉริยะ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ตัวอย่างเช่น BYD ยักษ์ใหญ่ยานยนต์พลังงานใหม่ของจีน ได้ทุ่มเงินมากกว่า 180,000 ล้านหยวนให้กับการวิจัยและพัฒนาเมื่อสิ้นปี 2567 ซึ่งในปีเดียวกันนั้น การใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของจีนก็สูงเกิน 3.6 ล้านล้านหยวน ทำให้จีนยังคงเป็นประเทศที่มีการใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาสูงเป็นอันดับสองของโลก

ในยุคที่มีการแข่งขันทางเทคโนโลยีที่รุนแรง อุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลกต่างก็ทุ่มเทให้กับนวัตกรรมมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและความเชื่อมั่นในอนาคต

โมเมนตัมการเปลี่ยนแปลงของจีนจาก “โรงงานของโลก” ไปสู่ศูนย์กลางนวัตกรรมระดับโลกได้เน้นย้ำถึงความสำคัญที่เพิ่มมากขึ้นของประเทศในระบบนิเวศนวัตกรรมระดับโลก ไม่น่าแปลกใจที่ ฟรีดแมนกล่าวถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาหัวเหว่ย ณ ทะเลสาบเหลียนฉิวว่าเป็นการตอบสนองโดยตรงของบริษัทเทคโนโลยีของจีนต่อ “ความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะบีบคั้นให้จนมุม”

จีนกำลังมุ่งเน้นพลังงานของตนไปที่เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและการปรับปรุงอุตสาหกรรมผ่านนวัตกรรมเชิงรุก ความเปิดกว้างต่อแนวคิดใหม่ ๆ และความคิดสร้างสรรค์ที่กล้าหาญ เพื่อเพิ่มความสามารถในการดึงดูดทรัพยากรระดับโลกที่มีคุณภาพสูง ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มศักยภาพในการพัฒนาและความสามารถในการแข่งขันของจีนเองเท่านั้น แต่ยังทำให้ประเทศน่าดึงดูดใจสำหรับเงินทุนและบุคลากรที่มีความสามารถจากต่างประเทศมากขึ้นอีกด้วย

ความเชื่อมั่นในตลาดจีนไม่ได้จำกัดอยู่แค่ชาวจีนเท่านั้น ธุรกิจต่างชาติก็กำลังแสวงหาโอกาสเช่นกัน ฮาร์ลีย์ เซย์ดิน ประธานหอการค้าอเมริกันในจีนตอนใต้ กล่าวว่า บริษัทต่างชาติที่ขยายกิจการในจีนแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการบรรลุการเติบโตในระยะยาวภายในหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและมีพลวัตมากที่สุดของโลก

ตัวอย่างเช่น การก่อสร้างโรงงานผลิตของคารส์เบิร์ก (Carlsberg) ในเมืองฝอซาน มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีนอย่างรวดเร็วทำให้บริษัทมีข้อได้เปรียบที่สำคัญในฐานะผู้บุกเบิก การเจรจาจนถึงการลงนามสัญญาใช้เวลาเพียงหกเดือน ในขณะที่การวางศิลาฤกษ์จนการก่อสร้างแล้วเสร็จใช้เวลาเพียงหนึ่งปีครึ่ง

ด้วยความคาดหวังของตลาดที่มั่นคง สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มั่นคง และรากฐานอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง ทั้งบริษัทจีนและต่างประเทศต่างก็ได้รับความเชื่อมั่นในการเพิ่มการลงทุนและขยายการดำเนินงาน

พ่อค้าต่างชาติหาซื้อของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดการค้าระหว่างประเทศอี้อูในเมืองจินหัว มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวัน
ออกของจีน ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)

ตลาดยังคงกว้างใหญ่ และเมื่อเผชิญกับอุปสรรคและนโยบายกีดกันทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้น สิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริงคือความสามารถและความมุ่งมั่น จีนกำลังเปลี่ยนแรงกดดันให้เป็นแรงจูงใจด้วยการเปิดกว้างมากขึ้น กระชับความร่วมมือ และมุ่งมั่นใหม่อีกครั้ง

เมืองอี้อูในมณฑลเจ้อเจียงเป็นตัวอย่างที่น่าเรียนรู้ การสนทนากับผู้ประกอบการในท้องถิ่นเผยให้เห็นว่าไม่มีการร้องเรียนใด ๆ เลย แต่กลับมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาแทน

ผู้ผลิตบางรายกำลังเผชิญกับความท้าทายที่รุนแรง การตอบสนองเป็นอย่างไร? ผู้ส่งออกรายหนึ่งกล่าวว่า ธุรกิจในท้องถิ่นกำลังแบ่งปันเครือข่ายลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ความร่วมมือในเชิงพาณิชย์และการผลิตเพื่อฝ่าฟันวิกฤตไปด้วยกันได้กลายเป็นทั้งฉันทามติและแนวทางปฏิบัติทั่วไป เมื่อไม่นานนี้ สมาคมอุตสาหกรรม ผู้ค้าปลีกชั้นนำ และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้ร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมการบูรณาการการค้าในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นหลักฐานชัดเจนของแนวโน้มนี้ ด้วยอุตสาหกรรมที่มีความยืดหยุ่นและความต้องการในประเทศที่แข็งแกร่ง จีนจึงยังคงมีความยืดหยุ่นอย่างมาก

ทั้งสวนสนุกเซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์และศูนย์วิจัยและพัฒนาหัวเหว่ยต่างก็มีรถไฟขนาดเล็กที่เชื่อมต่อหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในหมู่บ้านโลก ณ ปัจจุบัน เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเชื่อมโยงกันด้วย “รถไฟขนาดเล็ก” มากมายที่เชื่อมต่อกันและเอื้อประโยชน์ต่อกัน จีนไม่เพียงแต่เป็นตัวเชื่อมต่อในห่วงโซ่อุตสาหกรรมและอุปทานระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้รักษาเสถียรภาพของความเชื่อมั่นทางธุรกิจระดับโลกอีกด้วย จีนกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางความยากลำบากด้วยการฝ่าฟันช่วงเวลาอันปั่นป่วนและคว้าโอกาสใหม่ ๆ