ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์เทียมฟื้นฟูสมรรถภาพให้กับผู้พิการทางร่างกายด้วยเทคโนโลยีและการดูแล

จาง เวย ผู้อำนวยการแผนกอุปกรณ์เทียมฟื้นฟูสมรรถภาพให้กับผู้พิการที่โรงพยาบาลกิจการพลเรือนฉงชิ่งการแพทย์แผนจีน
และตะวันตกแบบบูรณาการ กำลังปรับแต่งแบบหล่อปูนปาสเตอร์สำหรับขาเทียมที่โรงพยาบาลฯ ในเมืองฉงชิ่ง ทางตะวันตก
เฉียงใต้ของจีน เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 (ซินหัว)

จาง เวย ผู้อำนวยการแผนกอุปกรณ์เทียมฟื้นฟูสมรรถภาพให้กับผู้พิการที่โรงพยาบาลกิจการพลเรือนฉงชิ่งการแพทย์แผนจีนและตะวันตกแบบบูรณาการ กำลังปั้นแบบหล่อปูนปาสเตอร์สำหรับขาเทียม เขากล่าวว่า “การเบี่ยงเบนแม้แต่เพียงมิลลิเมตรเดียวในช่องเสียบขาเทียมก็อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวได้”

กว่า 20 ปีที่ผ่านมา เมื่อจางเข้าสู่สาขานี้เป็นครั้งแรก การใส่ขาเทียมยังคงเป็นอาชีพที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักในประเทศจีน เขาเล่าว่าแผ่นดินไหวในเวิ่นชวนเมื่อปี พ.ศ. 2551 กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขามีความมุ่งมั่นต่อการทำงานมากขึ้น

ในบรรดาผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ หลี่ ชิง ซึ่งขณะนั้นเป็นนักเรียนมัธยมต้น สูญเสียขาซ้ายและได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขาขวา

จางใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติเพื่อสร้างแผ่นรองรองเท้าซิลิโคนแบบพิเศษที่ช่วยให้หลี่มีความมั่นใจและเคลื่อนไหวได้คล่องตัวอีกครั้ง หลี่ได้รับกำลังใจและประสบความสำเร็จในฐานะนักศึกษา และต่อมาได้ผันตัวมาเป็นนักออกแบบ

ในปี 2567 หลี่ส่งตั๋วเข้าร่วมงานกีฬาที่เธอร่วมออกแบบให้จาง ปัจจุบันตั๋วดังกล่าวถูกแขวนไว้อย่างภาคภูมิใจในสำนักงานของจาง เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการอุทิศตนในการช่วยเหลือผู้พิการขาขาดในการสร้างชีวิตใหม่ของตนเอง

หนิง ชิงหยวน ช่างทำขาเทียมที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกันในฉงชิ่ง ค้นพบสิ่งที่เธอต้องการตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย หลังจากเห็นคลิปข่าวของชายชราที่เดินกะเผลกด้วยขาไม้ที่ทำเองในตลาดขายผัก

เธอบอกว่า “ฉันประทับใจในความอดทนของเขา และฉันต้องการใช้เทคโนโลยีเพื่อบรรเทาความยากลำบากของคนอื่น ๆ ที่เป็นเหมือนเขา” ปัจจุบัน เครื่องสแกนเลเซอร์สามารถสร้างแผนที่แขนขาของผู้ป่วยบนคอมพิวเตอร์ได้อย่างแม่นยำในระดับมิลลิเมตร ขณะที่นวัตกรรมต่าง ๆ เช่น การควบคุมด้วยไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อและเซ็นเซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้อุปกรณ์เสริมทำงานอย่างคล่องตัวขึ้น

ความก้าวหน้าเหล่านี้สอดคล้องกับความพยายามของจีนในการปรับปรุงการช่วยเหลือผู้พิการ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 14 ของประเทศจีน (ค.ศ. 2021-2025) เน้นย้ำถึงนโยบายที่ดีขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมอุปกรณ์ฟื้นฟู รวมถึงการวิจัยและพัฒนาและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ เช่น อุปกรณ์เทียมและอุปกรณ์พยุงร่างกายที่ดีขึ้น

ความก้าวหน้าเหล่านี้สอดคล้องกับความพยายามของจีนในการปรับปรุงการสนับสนุนสำหรับผู้พิการ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (พ.ศ. 2564-2568) ฉบับที่ 14 ของประเทศ เน้นย้ำถึงนโยบายที่ดีขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมอุปกรณ์ฟื้นฟูสมรรถภาพ การวิจัยและการพัฒนาที่ดีขึ้น รวมถึงการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์เทียมและอุปกรณ์ช่วยพยุงร่างกาย

ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าตลาดอุปกรณ์เทียมของจีนในปี 2566 มีมูลค่าเกิน 5.13 พันล้านหยวน (ราว 713.11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และคาดว่าจะสูงถึง 5.42 พันล้านหยวนในปี 2568

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความท้าทายอยู่เพราะ จางสังเกตว่าผู้ป่วยจำนวนมากได้รับอุปกรณ์ที่เหมาะสมอย่างล่าช้าเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง

เพื่อช่วยแก้ไขปัญหานี้ จีนได้เปิดตัวโครงการอุดหนุนค่าอุปกรณ์เทียมสำหรับผู้พิการที่มีรายได้น้อย ภายในปี 2567 รัฐบาลฉงชิ่งเพียงแห่งเดียวได้ลงทุนไปแล้ว 25.1 ล้านหยวน เพื่อจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือให้กับผู้พิการทางร่างกายจำนวน 5,806 ราย

ในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคมเป็นวันครบรอบ 35 ปีของวันช่วยเหลือคนพิการแห่งชาติจีน เสียงฝีเท้าที่เป็นจังหวะยังคงดังก้องไปทั่วห้องฝึกฟื้นฟูสมรรถภาพของโรงพยาบาลเช่นเคย

เขากล่าวว่า การช่วยเหลือผู้พิการไม่ใช่การกุศล แต่เป็นการช่วยให้ทุกคนได้รับความเท่าเทียมกัน