วอลมาร์ทขยายธุรกิจในจีน เปิดสาขาใหม่ที่เทียนจิน
วอลมาร์ทได้เริ่มก่อสร้าง Sam's Club ซึ่งมีพื้นที่ปฏิบัติการที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของจีน โดยทำพิธีวางศิลาฤกษ์ในนครเทียนจินเมื่อวันอังคาร ถือเป็นการเดิมพันครั้งล่าสุดของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ในตลาดผู้บริโภคอันกว้างใหญ่ของจีน
ศูนย์กระจายสินค้าขนาด 25,000 ตารางเมตร ซึ่งมีกำหนดเปิดในปี 2569 จะนำเอาโมเดล Omnichannel ที่ผสานรวมร้านค้าจริง 1 แห่งกับศูนย์กระจายสินค้าแบบดิจิทัล 20 แห่ง เพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคระดับพรีเมียมและหลากหลายในภูมิภาคปักกิ่ง เทียนจิน และเหอเป่ย สาขา Sam's Club แห่งที่ 3 ในเขตมหานครทางตอนเหนือแห่งนี้ทำให้เทียนจินกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำหรับการขยายตัวในระดับภูมิภาคของวอลมาร์ท
นับตั้งแต่เปิดร้านสาขาแรกในจีนที่เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน เมื่อปี 2539 เครือข่ายคลังสินค้าของวอลมาร์ทก็เติบโตจนมีสาขาที่ดำเนินงานแล้ว 55 แห่งทั่วประเทศ Sam's Club ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2567 ด้วยรายได้ประจำปีในจีนเกิน 100,000 ล้านหยวน (ราว 13,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในขณะที่ วอลมาร์ทจีน (Walmart China) รายงานยอดขายสุทธิในไตรมาสแรกของปี 2568 มีมูลค่าเท่ากับ 6,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
คริสติน่า จู ประธานและซีอีโอของ Walmart China กล่าวในการประชุม Walmart Investment Community Meeting เมื่อเดือนที่แล้วว่า “เรารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งกับการเติบโตของ Sam ในประเทศจีน” และคาดว่าในปีนี้จะมียอดขายประจำปีเกิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐจาก Sam's Club ทั้ง 8 แห่งในจีน
วอลมาร์ทได้เร่งการลงทุนในประเทศจีนนับตั้งแต่ประกาศแผนในเดือนธันวาคม 2566 ที่จะเปิด Sam's Club ใหม่หกถึงเจ็ดแห่งต่อปี ขณะนี้ มีโครงการมากกว่าสิบโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการในปักกิ่ง กวางตุ้ง เจ้อเจียง และภูมิภาคอื่น ๆ
ความสำเร็จของ Sam's Club สอดคล้องกับภาคการนำเข้าที่กำลังขยายตัวของจีน ซึ่งในปี 2567สร้างสถิติใหม่กว่า 18 ล้านล้านหยวน และจีนยังคงรักษาตำแหน่งตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกและเป็นตลาดค้าปลีกออนไลน์อันดับหนึ่ง โดยยอดขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหมดในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2568 มีมูลค่า 12.47 ล้านล้านหยวน เติบโตขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับปีก่อหน้า
ตามที่ยี่ว์ หย่งติ้ง นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันบัณฑิตสังคมศาสตร์จีนกล่าว ข้อได้เปรียบของตลาดขนาดใหญ่ของจีนอยู่ที่ขนาดทางเศรษฐกิจ ศักยภาพของตลาด ระบบอุตสาหกรรม และทุนมนุษย์ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่มีหลายมิติที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ
แม้ว่าจะมีอุปสรรคด้านการค้าระหว่างประเทศเกิดขึ้น แต่ในไตรมาสแรกของปีนี้ จีนก็สามารถดึงดูดบริษัทต่างชาติรายใหม่ได้ 12,603 แห่ง โดยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยี่ว์ หย่งติ้งกล่าวว่า “บริษัทข้ามชาติ เช่น วอลมาร์ท กำลังใช้เงินทุนของตนในตลาดจีน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและความน่าดึงดูดใจของตลาดจีน”