จีนสร้างกลุ่มดาวเทียมบนห้วงอวกาศ ส่งเสริมการเชื่อมต่ออัจฉริยะ

(People's Daily Online)วันพฤหัสบดี 29 พฤษภาคม 2025


จรวดขนส่ง CERES-1 บรรทุกดาวเทียม 4 ดวง พุ่งขึ้นจากน่านน้ำใกล้มณฑลซานตง ทางตะวันออกของจีน เมื่อวันที่ 19
พฤษภาคม 2568 (ซินหัว)

ด้วยดาวเทียมใหม่ 4 ดวงที่ถูกปล่อยสู่ห้วงอวกาศในเดือนนี้เพื่อขยายกลุ่มดาวเทียมเทียนฉี่ จีนกำลังเร่งดำเนินการในวงโคจรต่ำของโลกเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการเชื่อมต่ออุปกรณ์อัจฉริยะ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทอวกาศของจีนจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้เริ่มสร้างเครือข่ายดาวเทียมแบบ Starlink ตามแนวทางของ SpaceX บริษัทอวกาศเชิงพาณิชย์บางแห่งตั้งเป้าไปที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สำคัญสำหรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things) โดยเฉพาะ

กลุ่มดาวเทียมเทียนฉี่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท GuoDianGaoKe Technology ได้บรรลุเฟสแรกด้วยการมีดาวเทียมในวงโคจร 37 ดวง ประกอบเป็นเครือข่ายระดับโลกที่ให้บริการต่าง ๆ แก่เมืองอัจฉริยะ การเฝ้าสำรวจทางทะเล การเฝ้าสำรวจสิ่งแวดล้อมและการสื่อสารในกรณีเหตุฉุกเฉิน

หลังจากนำดาวเทียมทั้ง 4 ดวงนี้ไปใช้งานแล้ว เวลาในการตรวจเยี่ยมกลุ่มดาวเทียมจะสั้นลงเหลือเพียง 5 นาที ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานของดาวเทียมเพิ่มขึ้น 37.5% ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการอำนวยความสะดวกในการส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์

ปัจจุบัน บริษัทกำลังสำรวจการขยายบริการจากดาวเทียมเทียนฉี่สู่ตลาดผู้บริโภค รวมถึงสมาร์ทโฟน ยานยนต์อัจฉริยะ และอุปกรณ์สวมใส่ รวมทั้งมีแผนที่จะออกแบบและปล่อยดาวเทียมเพิ่มเติมในระยะที่สอง โดยมุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงแอปพลิเคชันระดับผู้บริโภค

การเชื่อมต่อของภาครถยนต์

โครงการกลุ่มดาวเทียมเชิงพาณิชย์อีกโครงการหนึ่งซึ่งได้รับเงินทุนจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของจีน เตรียมที่จะปฏิวัติการเชื่อมต่ออัจฉริยะสำหรับยานพาหนะบนท้องถนนจากอวกาศ

กลุ่มดาวเทียม Future Mobility Constellation ของ Geely (บริษัทผลิตรถยนต์ของจีน) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Geespace ซึ่งเป็นบริษัทลูกด้านอวกาศเชิงพาณิชย์ ได้ติดตั้งดาวเทียม 30 ดวงในระนาบวงโคจร 3 ระนาบ และเมื่อเดือนกันยายน 2567 กลุ่มดาวเทียมดังกล่าวได้ขยายขอบเขตด้วยการปล่อยดาวเทียมเพิ่มอีก 10 ดวง

การใช้งานนี้ทำให้สามารถครอบคลุมทั่วโลกถึง 90 % ทำให้เป็นองค์กรด้านอวกาศเชิงพาณิชย์แห่งแรกของจีนที่ให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมในวงโคจรต่ำแก่ผู้ใช้ระดับนานาชาติ

หวัง หยาง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Geespace กล่าวว่า กลุ่มดาวเทียมดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การขับขี่อัจฉริยะ การเดินทางอัจฉริยะ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค

ข้อมูลจากหวังระบุว่า บริษัทมีแผนดำเนินการในสามระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ดาวเทียม 72 ดวงสำหรับการสื่อสารข้อมูลแบบเรียลไทม์ทั่วโลก, ระยะที่สอง ดาวเทียม 264 ดวงสำหรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนโดยตรง และระยะที่สาม ดาวเทียม 5,676 ดวงสำหรับบริการบรอดแบนด์ทั่วโลก

ด้วยการสนับสนุนจากกลุ่มดาวเทียม รถยนต์ไฟฟ้า Zeekr และ Galaxy ของ Geely บางรุ่นสามารถสื่อสารผ่านอวกาศได้แล้ว ผู้ใช้สามารถส่งและรับข้อความผ่านดาวเทียมได้เมื่อเครือข่ายภาคพื้นดินขัดข้อง

เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว กลุ่มดาวเทียมของ Geely เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างประเทศในบางส่วนของตะวันออกกลาง และมีแผนที่จะขยายบริการไปยังแอฟริกาเหนือภายในปี 2025 การขยายครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับบริษัทอวกาศเชิงพาณิชย์ของจีนบนเวทีระหว่างประเทศ

นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมสังเกตว่า เครือข่ายดาวเทียมมีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับแอปพลิเคชันการขับขี่อัตโนมัติ เนื่องจากเครือข่ายเหล่านี้ให้การเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้ในพื้นที่ที่เครือข่ายแบบดั้งเดิมไม่สามารถใช้งานได้

ตามการวิจัยของ Grand View ตลาดการขับขี่อัตโนมัติทั่วโลกคาดว่าจะสูงถึง 557 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 กลุ่มดาวเทียมของจีนกำลังวางตำแหน่งตัวเองเพื่อยึดส่วนแบ่งตลาดที่สำคัญโดยจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตยานยนต์หลายราย

Geespace ได้ก่อตั้งโรงงานที่ทันสมัยในไถโจว เมืองทางตะวันออกของจีน โดยใช้ประโยชน์จากการออกแบบแบบแยกส่วนและเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะ โรงงานแห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดค่าใช้จ่ายการผลิตลง 45% และสามารถผลิตดาวเทียมได้ 1 ถึง 2 ดวงต่อวัน โดยมีกำลังการผลิตดาวเทียมสูงสุด 500 ดวงต่อปี

ภาคเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วอีกภาคหนึ่งของจีนยังสร้างโอกาสมากมายสำหรับอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมในวงโคจรต่ำของโลก เนื่องจากโดรนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ต้องอาศัยเครือข่ายอัจฉริยะที่ระดับความสูงต่ำ

จีนกำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายอัจฉริยะที่ระดับความสูงต่ำ และผลักดันการวิจัยและการสร้างเทคโนโลยี 5G/5G-A ระบบนำทางเป่ยโต่ว (Beidou) และอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม