การบริโภคภาคการท่องเที่ยวแสดงให้เห็นความมีชีวิตชีวาของเศรษฐกิจจีน

(People's Daily Online)วันศุกร์ 06 มิถุนายน 2025


ผู้คนชมการแข่งขันเรือมังกรในแม่น้ำต้าจาง อำเภอหมิ่นโหว มณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน เมื่อวันที่ 31
พฤษภาคม 2568 (ซินหัว)

วันหยุดเทศกาลเรือมังกรสามวันนี้เป็นโอกาสดีที่ทำให้ได้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาและศักยภาพของภาคการท่องเที่ยวจีน ซึ่งกำลังก้าวขึ้นมาเป็นอุตสาหกรรมหลักเชิงยุทธศาสตร์สำหรับเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก

ข้อมูลทางการระบุว่า ในช่วงวันหยุดระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคมถึง 2 มิถุนายน รายจ่ายด้านการท่องเที่ยวอยู่ที่ 42,730 ล้านหยวน (5,950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงวันหยุดเดียวกันของปีที่แล้ว

ในฐานะส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การพัฒนาคุณภาพสูง จีนกำลังใช้ประโยชน์จากอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ กระตุ้นการบริโภค สร้างงาน และปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจด้วยการบูรณาการการท่องเที่ยวกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ และสร้าง อุปสงค์และรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ

จีนกลายเป็นตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งนักท่องเที่ยวต่างชาติรายใหญ่ที่สุด และเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักเดินทางต่างชาติ

ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ สมบัติทางประวัติศาสตร์ และแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ประกอบกับประชากรจำนวนมหาศาล ทำให้แนวโน้มการท่องเที่ยวของจีนสดใสเป็นพิเศษ โครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของประเทศซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่ครอบคลุมและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวที่ทันสมัย ​​เป็นรากฐานที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืน ขณะที่จีนกำลังก้าวไปสู่เป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวระดับโลก

ในขณะที่จีนกำลังเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภค อุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยวก็กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทางการได้ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศผ่านมาตรการที่ครอบคลุม รวมถึงการยกระดับคุณภาพการบริการ การกระจายผลิตภัณฑ์ และการริเริ่มที่ตรงเป้าหมายเพื่อปลดล็อกศักยภาพในการใช้จ่ายในภาคส่วนวัฒนธรรม การท่องเที่ยว กีฬา และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

ในปีนี้ จีนได้เปิดตัวนโยบายนวัตกรรมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึงแรงจูงใจสำหรับผู้บริโภค เช่น บัตรกำนัลและส่วนลด รวมไปถึงบริการการเดินทางเฉพาะกลุ่มอายุ ในขณะเดียวกัน มีการผลักดันในอุตสาหกรรมที่เติบโตใหม่ ๆ เช่น กีฬาฤดูหนาว การสัมผัสประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ ตัวเลือกการเดินทางที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุ

การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของการท่องเที่ยวนั้นเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในปี 2567 นักท่องเที่ยวภายในประเทศได้เดินทางภายในประเทศ 5.62 พันล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 14.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และรายจ่ายทั้งหมดสำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศอยู่ที่ 5.8 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 17.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

การท่องเที่ยวทั้งขาออกและขาเข้าของจีนก็เฟื่องฟูเช่นกัน เนื่องจากนโยบายเปิดประเทศ โดยในปี2567 จำนวนการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเป็น 26.94 ล้านครั้ง การเติบโตอย่างแข็งแกร่งนี้ยังคงดำเนินต่อไปในปีนี้ นอกจากนี้ การเติบโตอย่างรวดเร็วของนักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดจากโครงการยกเว้นวีซ่าฝ่ายเดียวของจีนที่ครอบคลุม 43 ประเทศ นักท่องเที่ยวจีนขาออกและนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นการบริโภคเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความเข้าใจต่อประเทศจีนในระดับโลกอีกด้วย

ด้วยความดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นและฐานนักท่องเที่ยวภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น การท่องเที่ยวจึงกลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มมากที่สุดของจีน โดยมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญและเป็นตัวเร่งในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น

สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (World Travel & Tourism Council) ยกย่องประเทศจีนให้เป็นตลาดการท่องเที่ยวที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยพิจารณาจากการฟื้นตัวหลังการระบาดใหญ่ที่แข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว สภาการท่องเที่ยวฯ เชื่อว่าการลงทุนอย่างต่อเนื่องของจีนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรมดิจิทัล และการพัฒนาจุดหมายปลายทางที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเข้าถึงการท่องเที่ยวโดยไม่ต้องมีวีซ่า ทำให้ประเทศจีนกลายเป็นผู้นำระดับโลกด้านการท่องเที่ยวสมัยใหม่ที่ยั่งยืน

เรื่องราวความสำเร็จของภาคการท่องเที่ยวตอกย้ำถึงความยืดหยุ่นพื้นฐานของเศรษฐกิจจีน ในฐานะเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งและเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการเติบโตของโลก ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของจีนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เจริญรุ่งเรือง