ของเล่นแบรนด์จีนได้รับความนิยมจากทั่วโลก
ของเล่นสะสมแบรนด์จีนที่เรียกกันว่า “ของเล่นทันสมัย” กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก เนื่องจากมีดีไซน์โดดเด่นและมักขายในกล่องสุ่ม
วิดีโอที่นำเสนอตุ๊กตาเอลฟ์ Labubu ที่ผลิตโดย Pop Mart ผู้ผลิตของเล่นจีน ดึงดูดผู้ชมได้หลายแสนครั้งบนโซเชียลมีเดียระหว่างประเทศ ขณะที่การเห็นคนดังในโลกตะวันตกถือของเล่นเหล่านี้ก็กระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค
เทรนด์นี้สามารถมองเห็นได้ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ในตลาดต่างประเทศหลัก ๆ ร้านขายของเล่นทันสมัยของจีนได้ครอบครองทำเลทองในเมืองต่าง ๆ เช่น ปารีสและลอนดอน โดยผู้ที่ชื่นชอบชาวต่างชาติเข้าแถวรอซื้อของที่พวกเขาต้องการมากที่สุดเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
จากบทความที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Time ระบุว่า เมื่อค้นหาด้วยคำว่า “Pop Mart” บน TikTok จะแสดงให้เห็นวิดีโอแกะกล่องสินค้าหลายหมื่นรายการ นอกจากนี้ แฟนๆ ยังเดินทางไปต่างประเทศเพื่อตามหาสินค้าที่ขายหมดหรือสินค้าพิเศษอีกด้วย โดยกลุ่มบน Facebook และ WeChat จะแชร์ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่หรือสินค้าที่เติมสต็อก
Pop Mart เป็นตัวอย่างการขยายตัวของของเล่นสุดฮิตของจีนทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในปี 2567 Pop Mart ได้เปิดร้านแห่งแรกในเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อิตาลี และสเปน นอกจากนี้ Pop Mart ยังได้เปิดตัวสาขาหลักในจุดหมายปลายทางสำคัญหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ และบนถนนออกซ์ฟอร์ดในลอนดอน
ลูกค้ากำลังเลือกของเล่นที่ร้าน Pop Mart ในกรุงเทพฯ (ซินหัว)
เหตุการณ์สำคัญในเดือนกรกฎาคม 2567 Pop Mart กลายเป็นแบรนด์ของเล่นจีนรายแรกที่บุกเบิกสู่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในปารีส และเมื่อสิ้นปี 2567 Pop Mart ดำเนินกิจการร้านค้าจริงมากกว่า 500 แห่งและ "ร้านหุ่นยนต์" หรือเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติมากกว่า 2,300 แห่งในประเทศและภูมิภาคกว่า 30 แห่งทั่วโลก
ช่องทางออนไลน์ของบริษัทก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงเช่นกัน ปัจจุบัน Pop Mart เข้าถึงลูกค้าในประเทศและภูมิภาคกว่า 90 แห่งผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนต่าง ๆ และรายได้ออนไลน์ในต่างประเทศของบริษัทในปี 2567 อยู่ที่ 1.46 พันล้านหยวน (203 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งถึง 834% จากปีก่อนหน้า
ส่วนแบ่งรายได้ต่างประเทศของ Pop Mart มากที่สุดอยู่ที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2567 คิดเป็น 47.4% และสร้างรายได้ 2.4 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 619% จากปีก่อน
แบรนด์จีนอื่น ๆ ก็ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติเช่นกัน ตัวอย่างเช่น Top Toy ดำเนินกิจการร้านค้ามากกว่า 280 แห่งทั่วโลก โดยบริษัทที่เกี่ยวข้องส่งออกผลิตภัณฑ์ 53 ชุด มูลค่าประมาณ 47 ล้านหยวนในปี 2567 อีกหนึ่งแบรนด์อย่าง 52Toys รายงานว่า มีการเติบโตมากกว่า 300% ในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นโดยรวม 220% ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การขยายตัวในระดับนานาชาติได้กลายมาเป็นแรงผลักดันการเติบโตที่สำคัญสำหรับแบรนด์ของเล่นจีนอย่างชัดเจน
ของเล่นเทรนด์จีนได้ข้ามพรมแดนทางวัฒนธรรมและภูมิศาสตร์ผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น ช่องทางการขายที่หลากหลาย และกลยุทธ์การพัฒนาที่มุ่งเน้นระดับโลก จนพัฒนาเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความสำคัญก้าวข้ามวัฒนธรรม
ผู้บริโภคชาวไทยรายหนึ่งเล่าเรื่องราวของเธอว่า “ฉันรู้จัก Pop Mart ครั้งแรกจากตัว Crybaby บนโซเชียลมีเดีย ฉันรู้สึกประทับใจทันทีที่ได้เห็น รู้สึกเหมือน Crybaby สะท้อนความรู้สึกภายในของฉัน เมื่อฉันรู้สึกเศร้าและมองดูมัน แทนที่จะร้องไห้ด้วยกัน ฉันอยากจะยิ้มและปลอบโยนมัน”
อุตสาหกรรมของเล่นทันสมัยของจีนยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในตลาดโลก โดยมูลค่ารวมของภาคส่วนนี้คาดว่าจะสูงถึง 110,100 ล้านหยวนภายในปี 2569 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 20% ตามรายงานในปี 2567 ของสถาบันกลยุทธ์เศรษฐกิจแห่งชาติ สถาบันสังคมศาสตร์จีน ความเชื่อมั่นในการเติบโตนี้ส่วนใหญ่ขับเคลื่อนโดยความสามารถในการวิจัยและการพัฒนาอย่างอิสระ