นวัตกรรมกระตุ้นการฟื้นฟูภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
ไอศกรีมในรูปแบบต่าง ๆ ที่งานไอศกรีมแห่งชาติจีน 2024 ในเมืองเทียนจิน ทางตอนเหนือของประเทศจีน ภาพถ่ายเมื่อ
วันที่ 26 กันยายน 2567 (ซินหัว)
ในอดีตภาคตะวันออกเฉียงเหนือเคยเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมหนักและการผลิตในจีน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน บริษัทในท้องถิ่นจำนวนมากขึ้นกำลังนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อฟื้นฟูตนเองและเศรษฐกิจในท้องถิ่น
การออกแบบที่เก๋ไก๋
เต๋อชื่อ (Deshi) ผู้ผลิตไอศกรีมที่มีฐานการผลิตอยู่ในเมืองเสิ่นหยาง เมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เป็นตัวอย่างที่ดีของแนวโน้มนี้ โดยได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากการเป็นผู้บุกเบิกไอศกรีมที่มีรูปร่างเหมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมในท้องถิ่น
ไอศกรีมของบริษัทนี้ออกแบบในรูปของพระราชวังหลวง โบราณวัตถุ และตัวละครที่มีอายุหลายศตวรรษ ทำให้ภาพที่พบเห็นได้ทั่วไปในเมืองคือภาพผู้บริโภคถือไอศกรีมแบบจำลองขนาดเล็กของสถานที่สำคัญและโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียงเหล่านี้
บริษัทได้ใช้ประโยชน์จากองค์ประกอบทางวัฒนธรรมในการส่งเสริมอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมของประเทศและเปลี่ยนขนมธรรมดาให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบที่สร้างสรรค์ ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายได้ นับตั้งแต่เปิดตัวแท่งไอศกรีมธีมพระราชวังในปี ค.ศ. 2021 ยอดขายออนไลน์ของเต๋อชื่อก็เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า
หวัง เต๋อกัง ประธานบริษัทเต๋อชื่อกล่าวว่า “เมื่อก่อน ผลิตภัณฑ์ไอศกรีมของเรามีหน้าตาเรียบ ๆ และคนส่วนใหญ่กินเพื่อรสชาติหวาน ๆ แต่ตอนนี้ เราสร้างสรรค์ไอศกรีมที่มีรูปทรงแปลกใหม่ และผู้บริโภคก็ชื่นชอบไอศกรีมเพราะรสชาติ ความสำคัญทางวัฒนธรรม และคุณค่าทางอารมณ์”
นอกจากนี้ บริษัทได้เริ่มนำเสนอขนมแช่แข็งที่ออกแบบเองเป็นรูปของตึกมหาวิทยาลัยชื่อดังและสัญลักษณ์ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่
หวังกล่าวว่า บริษัทของเขาได้ปรับปรุงการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ด้วยการได้รับสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าเพิ่มมากขึ้น
ทุ่งนาในเมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ภาพถ่ายทางอากาศเมื่อวันที่ 1 กันยายน
2565 (ซินหัว)
การท่องเที่ยวตาม GI
ความร่วมมือข้ามสายงานยังกลายเป็นส่วนสำคัญของภาคเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวของภูมิภาคอีกด้วย
เพื่อจำหน่ายข้าวชิงสุ่ย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ระดับชาติจากเมืองเสิ่นหยาง ชาวบ้านได้พัฒนา “เมืองข้าว” ซึ่งเป็นโครงการบูรณาการที่ผสมผสานการปลูกข้าว การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และความบันเทิงเข้าด้วยกัน นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพทุ่งนาที่งดงาม ทำกิจกรรมทำนาด้วยตนเอง และลิ้มรสไอศกรีมและเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่ทำจากส่วนผสมของข้าว
GI คือทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่แสดงถึงแหล่งกำเนิดเฉพาะของผลิตภัณฑ์และคุณภาพหรือชื่อเสียงที่เชื่อมโยงกับสถานที่นั้น โดยทำหน้าที่เป็นเครื่องหมายแสดงคุณภาพที่ทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นแตกต่างจากคู่แข่ง ภายในสิ้นปี 2567 จีนได้อนุมัติผลิตภัณฑ์ GI ทั้งหมด 2,544 รายการ โดยมูลค่าผลผลิตโดยตรงของ GI เกิน 960,000 ล้านหยวน (ประมาณ 134,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
จ้าว อ้ายจวิน หัวหน้าเมืองข้าวกล่าวว่า ตั้งแต่เปิดตัวในปี 2557 เมืองนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 220,000 คน กระตุ้นยอดขายข้าว และสร้างโอกาสการจ้างงานมากมาย
ที่สำคัญกว่านั้น เมืองนาข้าวแห่งนี้ยังช่วยเพิ่มการรับรู้ในทรัพย์สินทางปัญญาของคนในท้องถิ่นอีกด้วย
จุดชมวิวสูง 27 เมตรที่โดดเด่นเป็นจุดเด่นของเมืองนาข้าวแห่งนี้ โดยผู้มาเยี่ยมชมสามารถชมภาพวาดนาข้าวขนาดยักษ์แบบพาโนรามา ชาวนาปลูกข้าวด้วยใบข้าวสีเขียว ม่วง และเหลืองในรูปแบบที่พิถีพิถัน สร้างสรรค์การจัดแสดงออกมาเป็นภาพที่น่าทึ่ง
จ้าวกล่าวว่า เมืองนาข้าวแห่งนี้ยังคงได้รับความนิยมด้วยการนำเสนอภาพยอดนิยมในงานศิลปะบนนาข้าว เช่น ตัวละครการ์ตูนเรื่อง “นาจา”
แบรนด์ท้องถิ่น
แม้ว่าเศรษฐกิจจะซบเซามาหลายสิบปี แต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ไม่เคยสูญเสียอารมณ์ขันอันเป็นเอกลักษณ์ และตัวอย่างล่าสุดคือคำว่า “เอ๋อปิน” ซึ่งเป็นชื่อเล่นที่น่ารักของฮาร์บิน "เมืองน้ำแข็ง" ซึ่งกลายเป็นกระแสไวรัลในปี 2567 เนื่องจากเป็นภาพที่แสดงให้เห็นเมืองเอกของมณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งเป็นมณฑลที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือสุดของประเทศ คอยเอาใจนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานเฉลิมฉลองเทศกาลน้ำแข็งและหิมะประจำปีของเมือง โดยคำว่าเอ๋อปินยังเป็นเครื่องหมายการค้า ทรัพย์สินทางปัญญาของเมืองเพื่อส่งเสริมการสร้างแบรนด์ท้องถิ่นและสนับสนุนเศรษฐกิจด้วย
นางแบบในชุดของ Bosideng ที่งานการแสดงสินค้าและเศรษฐกิจนานาชาติฮาร์บิน ครั้งที่ 34เมืองฮาร์บิน มณฑล
เฮยหลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 (ซินหัว)
Bosideng ผู้นำตลาดเสื้อผ้าดาวน์ของจีน ร่วมมือกับฮาร์บินเปิดตัวคอลเลกชั่น “เอ๋อปิน” (Erbin) ที่ร่วมแบรนด์ โดยนำสัญลักษณ์ของเมือง เช่น ชิงช้าสวรรค์ โคมไฟโบสถ์ และอักษรจีนสำหรับ “Erbin” มาผสมผสานกับดีไซน์แจ็กเก็ตดาวน์ โดยผสมผสานสุนทรียศาสตร์แบบเมืองเข้ากับการใช้งานในอากาศหนาวเย็น
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น คอลเลกชั่นดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้ซื้อรุ่นเยาว์ที่ให้ความสำคัญกับทั้งดีไซน์และประสิทธิภาพ แจ็กเก็ตดาวน์ “Erbin” ซึ่งมีราคาอยู่ระหว่าง 1,699 หยวนถึง 3,999 หยวน (ราว 7,815-18,395 บาท) ขายได้ดีภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2567
หลี่ ปิง นักท่องเที่ยวซึ่งซื้อแจ็กเก็ต “Erbin” สองตัวกล่าวว่า “ดีไซน์ของแจ็กเก็ตดูทันสมัยและสะท้อนถึงลักษณะเฉพาะตัวของฮาร์บิน มันมีความหมายมาก”
ตามข้อมูลของสำนักบริหารทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติจีน ท่ามกลางยุทธศาสตร์ระดับชาติที่สำคัญในการฟื้นฟูภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน จำนวนสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าในภูมิภาคยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งนวัตกรรม
เหิง ฟู่กวง โฆษกสำนักงานฯ กล่าวว่า การเสริมสร้างแบรนด์เครื่องหมายการค้า การส่งเสริมอุตสาหกรรม GI และการส่งเสริมการบูรณาการอย่างลึกซึ้งระหว่างอุตสาหกรรม GI กับภาคส่วนวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นวาระสำคัญสำหรับการพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญาคุณภาพสูงของภูมิภาค