จิตวิญญาณจีน-เอเชียกลางหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 (ซินหัว)

จีนและ 5 ประเทศในเอเชียกลางลงนามสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือฉันมิตรระหว่างประเทศเพื่อนบ้านถาวร เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) โดยกำหนดหลักการมิตรภาพชั่วนิรันดร์ข้ามรุ่นในรูปแบบทางกฎหมาย

สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ลงนามในเอกสารดังกล่าวร่วมกับผู้นำของคาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน ณ กรุงอัสตานา เมืองหลวงของคาซัคสถาน ซึ่งผู้นำทั้งหมดได้รวมตัวกันเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลาง ครั้งที่ 2

ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสุดยอด สี จิ้นผิงกล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างจีนและเอเชียกลางมีรากฐานมาจากการแลกเปลี่ยนฉันมิตรที่ยาวนานกว่า 2,000 ปี ซึ่งยึดโยงด้วยความสามัคคีและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมทั้งได้รับการปลูกฝังผ่านความสัมพันธ์ทางการทูตที่ยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ และดำเนินต่อไปด้วยความเปิดกว้างและความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในยุคใหม่

ในขณะที่โลกกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของความปั่นป่วนและการเปลี่ยนแปลง สี จิ้นผิงกล่าวว่า ความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในความยุติธรรมและความถูกต้อง รวมทั้งความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันและความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายเป็นหนทางเดียวที่จะรักษาสันติภาพโลกและบรรลุการพัฒนาร่วมกัน

“สงครามภาษีศุลกากรหรือสงครามการค้าไม่มีผู้ชนะ ลัทธิฝ่ายเดียว ลัทธิคุ้มครองทางการค้า และการผูกขาดอำนาจย่อมส่งผลเสียตามมาและทำร้ายผู้อื่น” สี จิ้นผิงกล่าวพร้อมเสริมว่า

“ผมยืนกรานเสมอว่าประวัติศาสตร์ควรเดินหน้าต่อไป ไม่ใช่ถอยหลัง และโลกควรเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่แบ่งแยก มนุษยชาติไม่ควรถอยหลังกลับไปสู่กฎแห่งป่า เราควรสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ”

เขาเรียกร้องให้สืบสานจิตวิญญาณจีน-เอเชียกลาง เสริมสร้างความร่วมมือด้วยพลังที่เข้มแข็งขึ้นและมาตรการที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงของข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และก้าวไปข้างหน้าสู่เป้าหมายของชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับภูมิภาค

สี จิ้นผิงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับปรุงกรอบความร่วมมือจีน-เอเชียกลางให้เหมาะสมที่สุด เพื่อมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์มากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และบูรณาการอย่างลึกซึ้งมากขึ้น โดยความร่วมมือจะเน้นที่การค้าที่ราบรื่น การลงทุนด้านอุตสาหกรรม การเชื่อมต่อ ภาคส่วนแร่ธาตุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปรับปรุงการเกษตรให้ทันสมัย ​​และการแลกเปลี่ยนบุคลากร

ประธานาธิบดีจีนกล่าวว่า เพื่อส่งเสริมความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง จีนจะให้เงินช่วยเหลือ 1.5 พันล้านหยวน (ราว 209 ล้านดอลลาร์) แก่ประเทศในเอเชียกลางในปีนี้ เพื่อนำไปใช้ในโครงการด้านการยังชีพและการพัฒนาซึ่งอยู่ในวาระสำคัญของพวกเขา รวมทั้ง จีนจะจัดโอกาสการฝึกอบรม 3,000 ครั้งแก่ประเทศในเอเชียกลางในอีกสองปีข้างหน้า

คาสซิม โจมาร์ต โตกาเยฟ ประธานาธิบดีคาซัคสถาน, ซาดีร์ แจแปรอฟ ประธานาธิบดีคีร์กีซสถาน, เอมอมาลี ราห์มอน ประธานาธิบดีทาจิกิสถาน, เซร์ดาร์ เบร์ดือมูฮาเมดอว์ ประธานาธิบดีเติร์กเมนิสถาน และชัฟคัต มีร์ซีโยเยฟ ประธานาธิบดีอุซเบกิสถาน เข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้

พวกเขาชื่นชมกลไกจีน-เอเชียกลางว่าเป็นเวทีสำคัญในการส่งเสริมการเจรจาและความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย และขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในประเทศเอเชียกลาง ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของกลไกความร่วมมือจีน-เอเชียกลางกำลังมีความโดดเด่นมากขึ้น เนื่องจากความเจริญรุ่งเรืองและความแข็งแกร่งของจีนกำลังส่งผลดีต่อประเทศเพื่อนบ้าน

ผู้นำกล่าวว่าจีนเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์และเพื่อนแท้ที่ประเทศเอเชียกลางสามารถพึ่งพาได้ตลอดไป และหวังว่าจะได้ร่วมมือกับจีนอย่างใกล้ชิดและรอบด้านเพื่อทำให้กลไกจีน-เอเชียกลางเป็นแบบอย่างของความร่วมมือในภูมิภาค

ผู้นำในเอเชียกลางต่างให้คำมั่นว่าจะประสานงานและร่วมมือกับจีนอย่างใกล้ชิด ยึดมั่นในหลักการการค้าเสรีและระบบการค้าพหุภาคีอย่างมั่นคง และร่วมกันปกป้องความยุติธรรมและความเป็นธรรมระหว่างประเทศ

ผู้นำจีนและประเทศในเอเชียกลางได้ลงนามในปฏิญญาอัสตานาภายใต้การประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลาง ครั้งที่ 2 นอกจากนี้ ผู้นำทั้งหมดยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวศูนย์ความร่วมมือ 3 แห่งเกี่ยวกับการลดความยากจน การแลกเปลี่ยนทางการศึกษา และการป้องกันและควบคุมการกลายเป็นทะเลทราย ตลอดจนแพลตฟอร์มความร่วมมือด้านการค้าที่ราบรื่นภายใต้กรอบความร่วมมือจีน-เอเชียกลาง ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ จีนได้ตัดสินใจเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลาง ครั้งที่ 3 ในปี 2027