เลขาธิการอาเซียนเรียกร้องให้มีการริเริ่มความร่วมมือเชิงรุกกับจีน

ดร.เกา คิม โฮร์น เลขาธิการอาเซียน กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาในฟอรั่มจาการ์ตาว่าด้วยความสัมพันธ์อาเซียน-จีนว่า อาเซียนและจีนจะต้องเป็นผู้ริเริ่มความร่วมมือเชิงรุกเพื่ออนาคต โดยยึดโยงกับการบูรณาการห่วงโซ่มูลค่าต่าง ๆ ที่ยืดหยุ่นและเท่าเทียม ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบสนองต่อสภาพอากาศและเทคโนโลยี เพื่อสร้างเส้นทางที่ครอบคลุมและยั่งยืนมากขึ้นในโลกที่แตกแยกในปัจจุบัน

ดร.เกา คิม โฮร์นได้เน้นย้ำถึงยุทธศาสตร์ 5 ด้านที่เขาเชื่อว่าจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของความสัมพันธ์อาเซียน-จีนใหม่ ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัล การเปลี่ยนผ่านสีเขียว ความเชื่อมโยงและความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน ความเชื่อมโยงด้านการขนส่ง และความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว

ความร่วมมืออาเซียน-จีนก่อให้เกิดความสำเร็จทางเศรษฐกิจที่สำคัญ การค้าสองทางเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 105,900 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2547 เป็น 770,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567 คิดเป็นร้อยละ 20 ของการค้าทั้งหมดของอาเซียน

โหว เยี่ยนฉี เอกอัครราชทูตจีนประจำอาเซียนกล่าวว่า ทั้งอาเซียนและจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือในอุตสาหกรรมเกิดใหม่ และผลักดันให้เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญ

ฟอรั่มจาการ์ตาว่าด้วยความสัมพันธ์อาเซียน-จีน ซึ่งจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “สาขาใหม่ เครื่องยนต์ใหม่ โอกาสใหม่” เมื่อวันพฤหัสบดี โดยมีเจ้าหน้าที่ นักการทูต และผู้นำทางธุรกิจมาร่วมงานเพื่อสำรวจเส้นทางใหม่สำหรับการเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืน

}
|ผู้เข้าร่วมถ่ายภาพร่วมกันระหว่างการประชุมจาการ์ตาฟอรั่มว่าด้วยความสัมพันธ์อาเซียน-จีน ที่กรุงจาการ์ตา
ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 (ซินหัว)