ความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ข้ามพรมแดนระหว่างไทย-จีนยังคงแน่นแฟ้นขึ้น

ที่ร้าน Pop Mart ในศูนย์การค้าชุ่นเฉิง ในเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน นักท่องเที่ยวชาวไทยมักจะถือกระเป๋าแขวนตุ๊กตาลาปูปู้และธงของไกด์ท่องเที่ยวก็มีลาปูปู้ห้อยอยู่

“เพื่อซื้อของเล่นรุ่นลิมิเต็ด นักท่องเที่ยวชาวไทยจึงไปที่ร้านป๊อปมาร์ทเกือบทุกแห่งในคุนหมิงเพื่อ ‘ช้อปปิ้ง’” จันมณี นพมาศ ไกด์นำเที่ยวชาวไทยกล่าวพร้อมรอยยิ้ม หลังจากที่ ลาปูปู้ ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ร้านค้าออฟไลน์หลายแห่งก็ขายหมดเกลี้ยง และแฟนๆ ชาวไทยยังแห่กันไปยังแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและชุมชนออนไลน์ของจีนเพื่อซื้อกล่องสุ่มผ่านเถาเป่าและการไลฟ์สดผ่านโต่วอิน

กระแสความนิยมในการซื้อกล่องสุ่มสินค้าของจีนทางออนไลน์นั้นถือเป็นภาพย่อของ “การแห่ซื้อสองทาง” ของอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนระหว่างไทยและจีน ในงานมหกรรมสินค้าจีน-เอเชียใต้ (China-South Asia Expo) ครั้งที่ 9 ได้มีการแสดงให้เห็นถึง “การแห่ซื้อสองทาง” ดังกล่าวอย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น

แม้ว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องในเมืองคุนหมิง แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดความกระตือรือร้นในการจับจ่ายของผู้บริโภคได้ เมื่อเดินเข้าไปในศาลาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พื้นที่จัดนิทรรศการของไทยก็เต็มไปด้วยผู้คน และมีบริษัทมากกว่า 70 แห่งนำสินค้าหลากหลายประเภทมาวางจำหน่าย สินค้าของไทย เช่น กระเป๋าเจลลี่และยาหม่องดึงดูดให้ผู้คนแห่ซื้อ

ในบรรดานั้น พ่อค้ากระเป๋าเจลลี่ชาวไทยได้รับความนิยมเป็นพิเศษ หลี่ เจียวานจากเมืองเหวินซาน มณฑลยูนนาน เห็นโพสต์บนเว็บไซต์ Xiaohongshu เกี่ยวกับการเข้าร่วมนิทรรศการของพ่อค้ารายนี้ เช้าวันรุ่งขึ้น เธอและเพื่อนๆ ก็มาซื้อกระเป๋าเจลลี่กัน 6 ใบในคราวเดียว หลี่ เจียวานกล่าวว่า “ฉันเคยซื้อทางออนไลน์มาก่อน แต่ระบบโลจิสติกส์ในเวลานั้นยังไม่สมบูรณ์แบบ และมีราคาแพงกว่าการซื้อที่นิทรรศการมาก”

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ผู้บริโภคชาวจีนกำลังจับจ่ายซื้อกระเป๋าเจลลี่ที่งาน South China Expo (ซินหัว)

ในพื้นที่ถ่ายทอดสดอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกบนแพลตฟอร์ม South China Expo ห้องถ่ายทอดสดมีการติดตั้งไฟ ขาตั้ง และโทรศัพท์มือถือ ผู้เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซระดับนานาชาติ 23 คน ผลัดกันแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของมณฑลยูนนานรวมทั้งสินค้าจากทั่วโลกผ่านการถ่ายทอดสดข้ามพรมแดนพร้อมกัน และมีการโปรโมตกาแฟ ดอกไม้ ชา และอื่น ๆ ของมณฑลยูนนานให้กับผู้บริโภคในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่การถ่ายทอดสดออนไลน์ช่วยให้สินค้าส่งออกไปต่างประเทศได้ ความร่วมมือด้านโลจิสติกส์แบบออฟไลน์ก็ยังคงก้าวหน้าต่อไปเช่นกัน ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ บริษัท Yunnan Tengjin Logistics Co., Ltd. ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์สำหรับทางรถไฟจีน-ลาว ได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือเบื้องต้นกับหน่วยจัดการโครงการพัฒนาภูมิภาคของประเทศไทยและบริษัท กรีนส์ ฟอร์เวิร์ด และยังได้ลงนามข้อตกลงบริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศเพิ่มเติมในงาน South China Expo

วนิภา กุเสลา สมาชิกหน่วยบริหารโครงการพัฒนาภูมิภาคของประเทศไทย กล่าวว่า “ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ด้านโลจิสติกส์และการค้าระหว่างสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ปัจจุบันโครงการการค้าข้ามพรมแดนไทย-จีนได้ดำเนินการคัดเลือกสินค้าของไทยเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังเตรียมสร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและส่งเสริมสินค้า”

วนิภากล่าวว่า “ปีนี้เราได้จัดบริษัทไทย 8 บริษัทเข้าร่วมงานนิทรรศการ โดยนำสินค้ามาจำหน่าย เช่น กาแฟอินคา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไทยสีทอง และซอสพริกลำปาง” นอกจากจะจำหน่ายในงาน South China Expo แล้ว สินค้าเหล่านี้ยังจะใช้ระบบห่วงโซ่อุปทานลอจิสติกส์ของบริษัท Tengjin เพื่อเข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างรวดเร็วด้วยโมเดลที่สร้างสรรค์ และสามารถส่งมอบถึงผู้บริโภคได้ภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์

พาวิลเลียนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในงาน South China Expo เต็มไปด้วยผู้คนกำลังเยี่ยมชม ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 21
มิถุนายน 2568 (ซินหัว)

ที่คลังสินค้าปลอดภาษีไช่เหนี่ยวคุนหมิง (ยูนนาน) เครื่องสำอางไทยบรรจุหีบห่อ นมผง ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ฯลฯ กำลังจะถูกส่งมอบให้กับผู้บริโภคชาวจีน ตู้ เหมิง หัวหน้าบริษัท Yunnan Zhengmai Supply Chain Management Co., Ltd. กล่าวว่า บริษัทช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปิด “เส้นทางสุดท้าย” สู่จีนได้โดยการเชื่อมต่อกับ Taobao, Tmall, Xiaohongshu และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ปัจจุบัน ปริมาณการจัดส่งเฉลี่ยต่อวันของคลังสินค้าปลอดภาษีอยู่ที่ 3,500 รายการและในช่วงเวลาเร่งด่วนจะสูงถึง 5,100 รายการต่อวัน

นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ในการอำนวยความสะดวกในการดำเนินพิธีการศุลกากรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนที่สำคัญสำหรับความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซจีน-ไทย ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ในช่วงสี่เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในเขตปลอดอากรคุนหมิงมีจำนวน 1.6282 ล้านชิ้น โดยส่งออกไปยัง 7 ประเทศอาเซียน รวมทั้งไทยด้วย

ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน และ “ครบรอบ 50 ปียุคทองของมิตรภาพไทย-จีน” ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการขนส่งข้ามพรมแดนอย่างเข้มแข็ง ความร่วมมือทางการค้าระหว่างสองประเทศจึงมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น และต้นไม้แห่งมิตรภาพไทย-จีนก็เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นยังประโยชน์ให้กับทั้งสองประเทศ