จีน ไทย เมียนมาร่วมมือขจัดเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ

จีน ไทยและเมียนมา เห็นพ้องที่จะเสริมสร้างความร่วมมือให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อทลายเครือข่ายการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมทั้งหมด และจับกุมผู้ต้องสงสัยทั้งหมดในเมียวดีและแหล่งฉ้อโกงทางโทรคมนาคมอื่น ๆ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (6 ก.ค.)

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุมรัฐมนตรีด้านการปราบปรามการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมร่วมกันเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของทั้งสามประเทศเข้าร่วม

ด้วยความพยายามร่วมกัน ชาวจีนกว่า 5,400 คน ที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ฉ้อโกงในเมียวดีได้ถูกส่งตัวกลับประเทศในปี 2568 ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าที่สำคัญในการปราบปรามการฉ้อโกงของสามฝ่าย

ไม่ใช่ครั้งแรกที่จีนร่วมมือกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อปราบปรามการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนประกาศว่า ศูนย์ฉ้อโกงทางโทรคมนาคมขนาดใหญ่ทั้งหมดที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนจีน-เมียนมา ทางตอนเหนือของเมียนมาถูกกวาดล้างจนสิ้นซาก

ในสิ้นปี 2567 ชาวจีนกว่า 53,000 คน ที่ต้องสงสัยในกรณีฉ้อโกงถูกจับกุมผ่านความร่วมมือของตำรวจจีนและเมียนมา นับตั้งแต่กระทรวงฯ เริ่มดำเนินการปราบปรามการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมในตอนเหนือของเมียนมาในปี 2566

กระทรวงฯ ระบุว่า ในระหว่างความร่วมมือระหว่างจีนกับตำรวจของ สปป.ลาว ในปี 2567 มีผู้ต้องสงสัย 268 รายที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงโทรคมนาคมข้ามพรมแดนที่ส่งผลให้ เกิดการส่งตัวพลเมืองจีนจากลาวกลับสู่จีน

จีนเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น กัมพูชาและเวียดนาม ร่วมมือกับจีนในการปราบปรามการพนันออนไลน์ การฉ้อโกงโทรคมนาคม และอาชญากรรมข้ามพรมแดนประเภทอื่น ๆ อย่างเด็ดขาด

กัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า การต่อต้านการพนันออนไลน์และการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมเป็นทางเลือกที่จำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ร่วมกันของจีนและประเทศในภูมิภาคอื่นๆ

ตามที่เบเนดิกต์ ฮอฟมันน์ รักษาการผู้แทนระดับภูมิภาคของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกกล่าว การฉ้อโกงทางโทรคมนาคมและอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องมีลักษณะที่ซับซ้อนและข้ามพรมแดน ดังนั้นจึงต้องการความพยายามร่วมกันระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขความท้าทายที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญอยู่