จากโบราณวัตถุสู่รายได้: เทคโนโลยีใหม่ช่วยปรับเปลี่ยนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจีนอย่างไร

(People's Daily Online)วันอังคาร 12 สิงหาคม 2025


สินค้าวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ที่ร้านกาแฟในสวนไซไฟเสมือนจริง ซึ่งปรับปรุงพื้นที่จากเดิมที่เคยเป็นเตาหลอมเหล็กหมายเลข 1
ในนิคมอุตสาหกรรมโส่วกัง กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 (ซินหัว)

เตาเผาอุตสาหกรรมหลอมเหล็กของเก่าสามารถนำมาประยุกต์ใช้ทำอะไรได้บ้าง? แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้มากมาย แต่การเปลี่ยนมันให้กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งนิยายวิทยาศาสตร์อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สร้างสรรค์ที่สุด

วิสัยทัศน์นี้ได้กลายเป็นความจริงที่นิคมอุตสาหกรรมโส่วกังหรือสวนโส่วกัง อดีตพื้นที่อุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ชานเมืองด้านตะวันตกของกรุงปักกิ่ง หนึ่งในเตาหลอมเหล็กของสวนแห่งนี้ถูกดัดแปลงเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวนิยายวิทยาศาสตร์ (Sci-Fi) เสมือนจริง ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนพื้นที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยอุตสาหกรรมหนัก

หลี่ว์ เสี่ยวจัว ผู้จัดการทั่วไป สวนไซไฟเสมือนจริง (Shougang No.1 Blast Furnace SoReal Sci-Fi Park) ให้สัมภาษณ์กับซินหัวว่า “ด้วยการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานทางอุตสาหกรรมดั้งเดิมและเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ เราจึงสามารถปรับตำแหน่งพื้นที่อุตสาหกรรมดั้งเดิมให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวชั้นนำได้สำเร็จ”

เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยช่วยผลักดันให้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ เฟื่องฟู เช่น สวนสนุกแห่งนี้ ส่งผลให้การบริโภคด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจีนเพิ่มสูงขึ้น และยังช่วยผลักดันการพัฒนาคุณภาพสูงของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกด้วย

ประสบการณ์สัมผัสเทคโนโลยี

จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในระดับใหญ่ทำให้สวนสนุกแนววิทยาศาสตร์แห่งนี้กลายเป็นเรื่องราวความสำเร็จที่โดดเด่น นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ตามที่หลี่ว์กล่าว

หลี่ว์กล่าวว่า “เราเห็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลในกลุ่มทัวร์ศึกษาดูงานและการท่องเที่ยวแบบครอบครัว” พร้อมย้ำว่าสวนสาธารณะแห่งนี้ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนทั้งหมดในปีนี้

หลิว สือซิน นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวจีน แสดงเห็นว่า นวัตกรรมเหล่านี้ “ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นการบุกเบิกยุคใหม่แห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีกด้วย”

การเปลี่ยนแปลงที่คล้ายคลึงกันนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วประเทศ ยกตัวอย่างเช่น สวนสนุกโลกแห่งหิมะและน้ำแข็งฮาร์บินในมณฑลเฮยหลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ได้นำระบบแสงดิจิทัลแบบอินเทอร์แอคทีฟที่ทันสมัยมาจัดแสดงในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ขณะที่อนุสรณ์สถานในธีมการปฏิวัติในนครเซี่ยงไฮ้ได้นำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาใช้ เพื่อมอบประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สมจริงให้แก่ผู้มาเยือน

การบูรณาการเทคโนโลยีและวัฒนธรรมเช่นนี้ได้เติมชีวิตชีวาให้กับภาคส่วนทางวัฒนธรรม สถาบันการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน (China Tourism Academy) ระบุว่า ปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) และแบบจำลองภาษาขนาดใหญ่แนวตั้ง (Dimensional Language Model) กำลังขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัลในแวดวงวัฒนธรรม โดยนำเสนอประสบการณ์เชิงโต้ตอบที่ดีขึ้น ตัวเลือกแบบดื่มด่ำที่หลากหลาย และบริการเฉพาะบุคคลมากขึ้นแก่ผู้มาเยือน


ผู้เยี่ยมชมดื่มด่ำไปกับนิทรรศการศิลปะดิจิทัลในงาน China International Fair for Trade in Services (CIFTIS) 2024
ณ พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการเชิงวิชาการด้านบริการทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวที่สวนโส่วกังในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 (ซินหัว)

ปัจจัยสนับสนุนการเติบโต

หลี่ว์ได้ชี้แจงถึงความสำเร็จของสวนสนุกนิยายวิทยาศาสตร์และตลาดการบริโภคทางวัฒนธรรมที่กำลังเติบโตว่าเป็นผลมาจากระบบนิเวศนโยบายที่สนับสนุน ตลาดผู้บริโภคที่มีความเข้มแข็ง และพลังของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

“เราได้รับประโยชน์อย่างมากจากนโยบายของรัฐบาล” หลี่ว์กล่าว พร้อมเสริมว่ารัฐบาลได้ให้การสนับสนุนหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่องในทุกขั้นตอนของการพัฒนาสวนสาธารณะ

ในเอกสารนโยบายสำคัญซึ่งระบุโครงร่างการพัฒนาทางวัฒนธรรมสำหรับปี 2564-2568 จีนได้กำหนดให้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเป็นรากฐานเชิงยุทธศาสตร์ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาทางวัฒนธรรมของตน

ในระดับท้องถิ่น หน่วยงานต่าง ๆ ได้เร่งรัดการบูรณาการดังกล่าวผ่านนโยบายที่มีเป้าหมายชัดเจน และการจัดตั้งอุทยานวัฒนธรรมพร้อมศูนย์กลางนวัตกรรม เช่น ปักกิ่งได้ส่งเสริมระบบนิเวศที่มีชีวิตชีวาของบริษัทสร้างสรรค์นิยายวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเทคโนโลยีกว่า 130 แห่ง ณ ศูนย์กลางนวัตกรรมนิยายวิทยาศาสตร์จงกวนชุน ซึ่งปัจจุบันได้มอบบริการเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่หลากหลาย

ความต้องการที่เข้มแข็งของตลาดเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยสถานการณ์การบริโภคใหม่ ๆ การใช้จ่ายของผู้บริโภคในด้านบริการของจีนจึงกลายเป็นจุดแข็ง ยอดค้าปลีกภาคบริการในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่ายอดขายจากการขายสินค้า

เทคโนโลยียังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง หลี่ว์กล่าวว่า เทคโนโลยีที่นำมาใช้ในสวนโส่วกังได้รับการพัฒนาผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับผู้นำด้านโทรคมนาคม เช่น ควอลคอมม์ และไชน่าโมบายล์

เธอกล่าวว่า “เทคโนโลยีเหล่านี้ถือเป็นการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาตลอดระยะเวลา 8 ปี โดยผ่านวงจรการพัฒนาหลายรอบ เราจะยังคงพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของเราต่อไป” พร้อมเน้นย้ำว่าพนักงานของบริษัทมากกว่าครึ่งหนึ่งทุ่มเทให้กับการวิจัยและพัฒนาและการออกแบบ

โอกาสอันมีค่า

แม้จะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่หลี่ว์ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อเส้นทางการเติบโตในระยะยาวของตลาดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ได้รับการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

เธอกล่าวว่า “ตลาดภายในประเทศของจีนเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์สำหรับธุรกิจของเรา และเรามั่นใจในผลการดำเนินงานในอนาคตของสวนโส่วกัง”

กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีความดื่มด่ำของจีนเติบโตขึ้นร้อยละ 24.1 เมื่อเปรียบเทียบเป็นรายปีในปี 2567 ซึ่งเน้นย้ำถึงศักยภาพอันมหาศาลในตลาดการบริโภคทางวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ตามที่สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปักกิ่งระบุ

ด้วยความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ เธอได้เน้นย้ำถึงโอกาสสำคัญในต่างประเทศสำหรับวิสาหกิจด้านวัฒนธรรมจีน โดยระบุว่าประเทศไทยและญี่ปุ่นเป็นตลาดเป้าหมายหลักสำหรับการเปิดตัวบริษัทในระดับโลก