การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ช่วยเสริมสร้างการพัฒนาคุณภาพสูงของจีน
แค่แตะสองครั้งบนหน้าจอ เพลงเบาๆ ก็ดังขึ้น และแขนกลก็เริ่มนวด แขกคนหนึ่งยิ้มพร้อมกล่าวว่า “สบายจังเลย ฉันนอนอยู่ตรงนี้ได้ทั้งวันเลย”
นี่ไม่ใช่เครื่องจักรธรรมดา แต่คือหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน หรือที่เรียกว่า cobots ที่สามารถรับรู้ ปรับตัว และตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ มันเป็นตัวแทนของขอบเขตใหม่ของระบบอัตโนมัติที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ embodied intelligence หรือเครื่องจักรที่ไม่เพียงแต่คิดเป็น แต่ยังรับรู้และเข้าใจได้ด้วย cobots พัฒนาและผลิตโดยบริษัท AUBO (Beijing) Robotics Technology Co., Ltd ของจีน
เทียน หัว ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดของ AUBO กล่าวว่า “ยินดีต้อนรับสู่โฉมใหม่ของการผลิตในจีน ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร แต่เป็นการร่วมมือกันระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร”
เดิมที cobots ถูกจำกัดให้อยู่ในโรงงาน แต่ปัจจุบันได้ขยายไปสู่ภาคการดูแลสุขภาพและการบริการ ขณะที่จีนกำลังเปลี่ยนผ่านสู่การเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและมีคุณภาพสูง บริษัทต่าง ๆ เช่น AUBO กำลังวางตำแหน่งให้ cobots ซึ่งสามารถเป็นทั้งผู้รับงานและพันธมิตร เพื่อปลดล็อกศักยภาพใหม่ๆ ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก แรงงานที่มีทักษะ และชีวิตประจำวัน
ความร่วมมือไม่ใช่การแทนที่
เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ระบบอัตโนมัติมักถูกมองเป็นการลดจำนวนแรงงาน แต่การเพิ่มขึ้นของcobots ชี้ให้เห็นถึงแนวคิดใหม่ นั่นคือ ความร่วมมือมากกว่าการแข่งขัน
เทียน หัว ชี้ไปที่หุ่นยนต์บาริสต้าพร้อมกล่าวว่า “การชงลาเต้ให้ออกมาเหมือนมืออาชีพใช้เวลาเพียง 90 วินาที ลาเต้ถูกตกแต่งด้วยลวดลายโฟมอย่างงดงาม เราติดตั้งลาเต้แบบนี้ในห้องสมุดและสถานที่ถ่ายภาพสำหรับอินสตาแกรมในปักกิ่ง และลาเต้ก็กลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในทันที”
หุ่นยนต์สามารถผลิตกาแฟลาเต้อาร์ตคุณภาพสูงได้อย่างต่อเนื่อง 300 แก้วต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับบาริสต้าที่ทำงานตลอด 15 ชั่วโมง โดยยังคงรักษาคุณภาพในระดับเดียวกัน
“หุ่นยนต์เหล่านี้ไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ พวกมันช่วยสนับสนุนพนักงานมนุษย์โดยการจัดการงานที่ซ้ำซากและต้องใช้แรงกายมาก ช่วยให้พวกเขามีอิสระในการทำงานที่มีคุณค่าและมุ่งเน้นที่มนุษย์เป็นหลักมากกว่า”
สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) จำนวนมากในจีน แรงกดดันกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนแรงงานก็ทวีความรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อคนรุ่น Gen Z หลีกเลี่ยงงานในโรงงานที่มีลักษณะซ้ำซาก ระบบอัตโนมัติจึงเปลี่ยนจากสิ่งฟุ่มเพือยกลายเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต
cobots ของ AUBO ถูกออกแบบมาเพื่อให้การติดตั้งเป็นไปอย่างง่ายดายและมีราคาเข้าถึงได้ ช่วยเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว เช่น cobots รุ่นวางพาเลทที่ขายดีที่สุดของพวกเขาสามารถวางซ้อนกล่องได้สูงสุด 9 กล่องต่อนาที ซึ่งเทียบเท่ากับการทำงานของคนงาน 3-4 คน
ปัจจุบัน AUBO มียอดขายให้กับผู้ผลิตรายย่อยคิดเป็นมากกว่าร้อยละ 40 ของคำสั่งซื้อภายในประเทศ และสัดส่วนนี้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซ่ง จงคัง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย AUBO กล่าวให้สัมภาษณ์กับซินหัวว่า “เราขายได้ยอดรวมสะสมมากกว่า 35,000 เครื่อง ทำให้เราเป็นเจ้าแรกในจีนที่มียอดขายเกิน 30,000 เครื่อง ครองอันดับหนึ่งของประเทศและอันดับสองของโลก รองจาก Universal Robots” และ “ในช่วงที่กำไรสูงสุด กำไรต่อปีเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ปัจจุบันการเติบโตทรงตัวอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30-50”
ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องประสิทธิภาพเท่านั้น cobots ของ AUBO กำลังสนับสนุน SMEs ให้สามารถแข่งขันในเวทีระดับโลกได้ ตั้งแต่โรงงานทอผ้าในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ไปจนถึงโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน เนื่องจาก SMEs เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจจีนและมีส่วนสำคัญต่อ GDP มากกว่าร้อยละ 60 รวมทั้ง การจ้างงานในเขตเมืองร้อยละ 80
“นอกเหนือจาก SMEs เรายังจัดหาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงให้กับผู้เล่นชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ 3C และเครื่องใช้ในบ้านอีกด้วย” เทียน หัว กล่าวเสริม
แรงงานกับทักษะใหม่
ในประเทศที่ยังคงพึ่งพาแรงงานจำนวนมาก AUBO ยังได้ลงทุนในด้านการศึกษาอีกด้วย
เทียนกล่าวว่า “งานบางอย่าง เช่น การเชื่อมโลหะที่ร้อนจัด การทาสีที่มีฝุ่นจับ หรือการผ่าตัด ล้วนเป็นงานที่โหดร้ายเกินไปสำหรับมนุษย์ หุ่นยนต์ที่ร่วมปฏิบัติงานไม่ได้เข้ามาแทนที่คนงาน แต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความทรงเกียรติ”
AUBO ได้ริเริ่มโครงการฝึกอบรมมากกว่า 1,000 โครงการในวิทยาลัยเทคนิคของจีน เพื่อเติมเต็มช่องว่างด้านทักษะ ช่วยให้แรงงานหลายพันคน ซึ่งหลายคนไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการเขียนโค้ดหรือระบบอัตโนมัติมาก่อน ได้พัฒนาตนเองเป็นผู้ควบคุม cobots ที่มีทักษะ สามารถควบคุมเครื่องจักรด้วยปุ่มควบคุม และได้ค้นพบเป้าหมายใหม่ในยุคเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนา
cobots ของ AUBO ซึ่งมีน้ำหนักเบา ปลอดภัยต่อมนุษย์ และใช้งานง่าย กำลังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกำลังแรงงานของจีน เทียนกล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษา พนักงานระดับสูงของเราบางคนเคยทำงานเป็นพนักงานบรรจุหีบห่อหรือพนักงานทำความสะอาดมาก่อน”
“ผมเชื่อว่าระบบอัตโนมัติจะเข้ามาแย่งงานของผม แต่กลับทำให้ผมได้งานที่ดีกว่า ได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า และสามารควบคุมได้มากกว่า” หลิว เว่ย อดีตพนักงานประกอบชิ้นส่วนและปัจจุบันเป็นช่างเทคนิคที่ได้รับการรับรองกล่าว
AUBO กำลังพัฒนาแรงงานที่มีความสามารถในการปรับตัว ยืดหยุ่น และพร้อมรับอนาคตมากขึ้น โดยการลดภาระงานซ้ำซาก หนัก และอันตรายของคนงาน เช่น การเชื่อมหรือการยกของหนัก
รากฐานท้องถิ่น ความมุ่งมั่นระดับโลก
cobots ของ AUBO สะท้อนถึงวิสัยทัศน์อันกล้าหาญและความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี
ต่างจากบริษัทจีนหลายแห่งที่มีความสัมพันธ์กับต่างประเทศ AUBO เติบโตภายในประเทศจีน มีการวิจัย พัฒนาและการผลิตในประเทศ 100% ขับเคลื่อนโดยทีมงานซึ่งประกอบด้วยผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก 10 คน และปริญญาโท 60 คน จากพนักงานทั่วโลก 500 คน เว่ย หงซิง ผู้ก่อตั้ง ซึ่งเคยเป็นนักวิจัยด้านอวกาศ ได้ก่อตั้งบริษัทในห้องปฏิบัติการขนาดเล็กที่มีพนักงานเพียง 10 คน ภายใต้โครงการ “863” ของจีนสำหรับเทคโนโลยีล้ำสมัย
ปัจจุบัน AUBO มีสิทธิบัตรมากกว่า 270 ฉบับ และลงทุนด้านการวิจัยเกือบ 100 ล้านหยวน (13.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี ซึ่งคิดเป็นประมาณหนึ่งในหกของรายได้ทั้งหมด เว่ยกล่าวว่า “ไม่มีชิปจากต่างประเทศแม้แต่ตัวเดียวที่ขับเคลื่อนระบบหลักของเรา ความปลอดภัยและความสามารถในการปรับขนาดที่แท้จริงมาจากการพัฒนาเครื่องมือของตนเอง”
ความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของ AUBO Robotics ในการพัฒนาให้มีความหลากหลายและครอบคลุมทุกด้าน (Full-stack independence) ตั้งแต่ชิปไปจนถึงอัลกอริทึม ทำให้ AUBO Robotics เป็นคู่แข่งที่น่าเกรงขามของยักษ์ใหญ่ด้านหุ่นยนต์ระดับโลกอย่าง ABB, KUKA และ Universal Robots ในปีนี้ อัตราการผลิตภายในประเทศของ AUBO สูงถึง 95% ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการแสวงหาความสามารถในการพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยีของจีน
แต่ความทะเยอทะยานของ AUBO ขยายออกไปไกลกว่าขอบเขตในประเทศอย่างมาก
ด้วยพันธมิตรกว่า 2,000 รายใน 50 ประเทศ บริษัทฯ ส่งออกไปยังอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาใต้ และตลาดขั้นสูงอย่างญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการนำหุ่นยนต์มาใช้สูงที่สุดในโลก ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐาน CE (ยุโรป) และมาตรฐาน NRTL (สหรัฐฯ และแคนาดา) จึงมีอัตรากำไรสูงกว่าในต่างประเทศ
ตลาดต่างประเทศกำลังเผชิญกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น รายงานจากสำนักวิจัย Grand View Research ระบุว่า ตลาด cobots ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตถึง 11.6 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 โดยบริษัทจีนที่นำโดย AUBO ตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 30%
เทียนกล่าวว่า “ลูกค้าต่างประเทศให้ความสำคัญกับความสามารถในการปรับตัวของเรา cobotsของเราสามารถเปลี่ยนรูปแบบและจัดการคำสั่งซื้อที่หลากหลายได้ โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึงสองชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องใช้ทีมงานเทคนิคเต็มรูปแบบ”
ในอนาคต AUBO กำลังลงทุนในหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานที่เชื่อมต่อผ่านคลาวด์ ระบบควบคุมที่ปรับได้ซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI และหุ่นยนต์ผ่าตัดระยะไกล เมื่อเครื่องจักรมีความฉลาดมากขึ้น ขอบเขตของการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์ก็จะขยายกว้างขึ้น
ไม่ว่าจะอยู่ในโรงงานหรือในร้านกาแฟ วิสัยทัศน์ของ AUBO ยังคงเดิม นั่นคือ มนุษย์ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักเหมือนเครื่องจักรอีกต่อไป เนื่องจากปัจจุบันเครื่องจักรทำงานเคียงข้างพวกเขา