การแข่งขันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ชิงแชมป์โลก 2025 ในจีน เน้นนวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลก

การแข่งขันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ชิงแชมป์โลก 2025 ครั้งแรก ได้ปิดฉากลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (17 ส.ค.) ณ กรุงปักกิ่ง ทีมหุ่นยนต์ฟุตบอลจากจีนคว้าแชมป์จากการแข่งขันฟุตบอล โดยชิงหัว เฮเฟสตัส ทีมหุ่นยนต์ฟุตบอลประเภท 5 คนจากจีน เอาชนะทีม HTWK Robots และ Nao Devils จากเยอรมนี นอกจากนี้ ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลประเภท 3 คน ทีม Mountain & Sea จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จีน เอาชนะทีม Sweaty ของเยอรมนี

การแข่งขันหุ่นยนต์เริ่มต้นเมื่อวันพฤหัสบดี โดยมีทีมเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 280 ทีมจาก 16 ประเทศ ใน 26 กิจกรรม ครอบคลุมประเภทต่าง ๆ เช่น การแข่งขัน นิทรรศการ และการแข่งขันตามสถานการณ์จำลอง การปะทะกันระหว่างโลหะ ชิปและอัลกอริธึมครั้งนี้ ถือเป็นเวทีแสดงผลงานและการแลกเปลี่ยนทางเทคนิคสำหรับวงการปัญญาประดิษฐ์ (embodied intelligence) ที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ ซึ่งมีหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์เป็นตัวแทน

สถานการณ์การทดสอบขั้นสูงสุด

การแข่งขันประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลาย เช่น วิ่ง 100 เมตร, 400 เมตร, 1500 เมตร, กระโดดไกล, ยิมนาสติกฟรีสไตล์ และฟุตบอล นิทรรศการมีการแสดงการเต้นรำทั้งแบบเดี่ยวและกลุ่ม

รวมถึงกีฬาวูซู (Wushu) ขณะเดียวกันกิจกรรมจำลองสถานการณ์ได้จำลองสถานการณ์จริง เช่น โรงงาน, โรงพยาบาล, และโรงแรม ความท้าทายเหล่านี้ถือเป็นการทดสอบขั้นสูงสุดสำหรับหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์

ณ ใจกลางสังเวียนมวย หุ่นยนต์ G1 สองตัวจาก Unitree ประจันหน้ากันอย่างดุเดือด หุ่นยนต์เหล่านี้มีความสูงประมาณ 130 เซนติเมตร และน้ำหนักประมาณ 35 กิโลกรัม สวมถุงมือและหมวกกันน็อคมวยสากลอาชีพ หุ่นยนต์เหล่านี้เลียนแบบนักสู้ สลับหมัดฮุกซ้ายและขวา เตะข้างและเข่า และหลบหลีกการโจมตีได้อย่างคล่องแคล่ว แม้จะถูกน็อค พวกมันก็ยังลุกขึ้นยืนโดยไม่มีผู้ช่วย และต่อสู้ต่อไป

หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่เข้าร่วมการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งในงานแข่งขันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ระดับโลก 2025 ณ กรุงปักกิ่ง
เมืองหลวงของจีน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 (ซินหัว)

Deng Huasheng จาก Unitree กล่าวว่า ความทนทานของฮาร์ดแวร์ในกีฬาต่อสู้แบบฟรีสไตล์มีความสำคัญไม่แพ้อัลกอริธึมของซอฟต์แวร์ "หากโครงสร้างไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกได้ ก็จะพังทลายลงมา และหากอัลกอริธึมการทรงตัวล้มเหลว แม้เพียงการผลักเบาๆ ก็สามารถทำให้หุ่นยนต์ล้มได้"

ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอล 5 คน และฟุตบอล 3 คน ทั้งสี่ทีมได้ส่งหุ่นยนต์ T1 จาก Booster Robotics ในกรุงปักกิ่งลงสนาม หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถประเมินสภาพแวดล้อมรอบตัวได้โดยอัตโนมัติ และดำเนินการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนได้ด้วยตนเอง เช่น การวิ่งเหยาะๆ การเข้าปะทะ การยิงประตู และการป้องกัน การบรรลุเป้าหมายนี้ไม่เพียงแต่ต้องอาศัยฮาร์ดแวร์ที่มีน้ำหนักเบาและทนทานต่อแรงกระแทก แต่ยังต้องอาศัยการรับรู้แบบเรียลไทม์ที่ซับซ้อน การควบคุมการเคลื่อนไหวขั้นสูง การตัดสินใจเชิงปัญญา และการประสานงานระหว่างเอเจนต์หลายตัวอย่างราบรื่น

Zhao Weichen รองประธานบริษัท Booster Robotics กล่าวว่า การเตะฟุตบอลของหุ่นยนต์เป็นสนามทดสอบเทคโนโลยีที่พื้นฐานที่สุด ความสามารถที่หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์พัฒนาขึ้นในสถานการณ์ฟุตบอล เช่น การเคลื่อนไหว อัลกอริธึมการรับรู้ การวางตำแหน่งและการนำทาง รวมถึงตรรกะการตัดสินใจ ล้วนมีศักยภาพสำหรับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันและการทำงาน

พรสวรรค์เยาวชน

นอกจากนักกีฬาหุ่นยนต์แล้ว ผู้ควบคุมที่ทำงานเบื้องหลังยังได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและวิศวกรรุ่นเยาว์ในช่วงอายุ 20 และ 30 ปี และบางคนยังอยู่ในวัยมัธยมศึกษาตอนปลาย

ในพิธีเปิด เด็กชายอายุ 14 ปี ผู้ถือธงจากโรงเรียนมัธยมต้นในกรุงปักกิ่ง กลายเป็นวิศวกรที่อายุน้อยที่สุดที่เข้าร่วมการแข่งขัน ทีมฟุตบอลสามทีม ซึ่งประกอบด้วยนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายได้เข้าร่วมการแข่งขันด้วย

ทีมนานาชาติเดินขบวนในสนามกีฬาระหว่างพิธีเปิดการแข่งขันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ชิงแชมป์โลก 2025 ที่กรุงปักกิ่ง
เมืองหลวงของจีน เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 (ซินหัว)

เยาวชนที่มีความสามารถจากหลากหลายประเทศต่างหลั่งไหลเข้ามาสู่การพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีความสนใจในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) หรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ วิศวกรรมเครื่องกล อิเล็กทรอนิกส์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และการสื่อสาร ในการแข่งขัน พวกเขาจะได้แก้ไขปัญหาหุ่นยนต์ที่ทำงานผิดปกติ ณ สถานที่แข่งขัน โดยเชื่อมต่อแล็ปท็อปเพื่อปรับพารามิเตอร์ของซอฟต์แวร์ให้แม่นยำและตรงจุดเหมือนการทดลองในห้องปฏิบัติการ

ความได้เปรียบด้านความสามารถของจีนเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ Zhou Changjiu ประธานสมาพันธ์ RoboCup เอเชีย-แปซิฟิก และหนึ่งในผู้ร่วมจัดงาน กล่าวว่า จีนมีวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาด้าน STEM อย่างมาก ทั้งผู้ปกครองและสังคมให้ความสำคัญกับ STEM อย่างจริงจัง โดยเด็ก ๆ จำนวนมากเข้าร่วมการแข่งขันอย่างกระตือรือร้น ส่งผลให้เกิดสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมและสังคมที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งส่งเสริมการพัฒนาทักษะความสามารถ

ตามเอกสารนโยบายที่เผยแพร่ในเดือนพฤษภาคมนี้ จีนจะจัดตั้งระบบการศึกษาด้าน AI ที่มีหลายระดับ ครอบคลุมตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมต้น และมัธยมปลาย เพื่อชี้นำให้นักเรียนตั้งแต่ระดับการตระหนักรู้ทางปัญญาพื้นฐานไปจนถึงระดับนวัตกรรมเทคโนโลยีในทางปฏิบัติ

แพลตฟอร์มระดับโลกที่เปิดกว้าง

เกมดังกล่าวยังเป็นแพลตฟอร์มสำหรับนักวิจัยหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ หรือหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จากทั่วโลกในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งช่วยให้วิศวกรจากหลายประเทศได้ทำความคุ้นเคยกับหุ่นยนต์รุ่นล่าสุดและพัฒนาอัลกอริธึมของตน

ในการแข่งขันฟุตบอล มีทีมนานาชาติกว่า 10 ทีมจากประเทศต่างๆ ได้แก่ บราซิล เยอรมนี ญี่ปุ่น มาเลเซีย ออสเตรเลีย อิตาลี ไทย และอินโดนีเซีย ที่ใช้หุ่นยนต์ T1 จาก Booster Robotics บริษัทในกรุงปักกิ่ง ในการแข่งขัน RoboCup 2025 ที่บราซิลในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทีมจากจีนสองทีมได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการใช้หุ่นยนต์ T1 เหล่านี้ คว้าทั้งแชมป์และรองแชมป์ในประเภทหุ่นยนต์ผู้ใหญ่

หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล 3 ต่อ 3 ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ปี 2025 ที่กรุงปักกิ่ง
เมืองหลวงของจีน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 (ซินหัว)

โคอาว วิกเตอร์ สมาชิกทีมฟุตบอล RoboFEI จากบราซิล กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใช้ Booster Robotics T1 และหุ่นยนต์เหล่านี้น่าทึ่งมาก ทีมของเขาสามารถสื่อสารกับทีมอื่นๆ จากทั่วโลก และได้เรียนรู้กลยุทธ์ใหม่ๆ จากการแข่งขัน

Zhao Weichen กล่าวว่า Booster Robotics ได้เพิ่มการลงทุนในระบบปฏิบัติการและเครื่องมือพัฒนาแบบครบวงจร ช่วยให้ผู้ใช้รายอื่นสามารถพัฒนาต่อได้ง่ายขึ้น

Zhou Changjiu ระบุว่า เกมดังกล่าวทำหน้าที่เป็นทั้งแพลตฟอร์มและตัวอย่างผลงาน แสดงให้เห็นถึงความได้เปรียบของจีนในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ตั้งแต่ห่วงโซ่อุตสาหกรรม ฮาร์ดแวร์หุ่นยนต์ ไปจนถึงฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังแสดงให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทั่วโลกเห็นว่า การร่วมมือกับจีนจะช่วยให้พวกเขาสามารถผสานรวมฮาร์ดแวร์ชั้นนำของจีนเข้ากับอัลกอริทึมของตนเอง เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้