บริษัทข้ามชาติส่งเสริมการลงทุนในจีนท่ามกลางความเชื่อมั่นของตลาด

แขนหุ่นยนต์ส่งเสียงฮัมขณะที่คนงานเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำผ่านเวิร์กชอปของบริษัท Taiho Kogyo ในเมืองเยียนไถ มณฑลซานตง ทางตะวันออกของจีน ขณะที่ลูกปืนเครื่องยนต์และคอมเพรสเซอร์กำลังเคลื่อนตัวออกจากสายการผลิต ไม่เพียงแต่สำหรับผู้ผลิตรถยนต์อย่างโตโยต้าและโฟล์คสวาเกนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฉากรถจักรยานยนต์หรูหราที่กำลังเติบโตในจีนด้วย

จุนจิ โคชิมะ ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทในเครือกล่าวว่า บริษัทที่ตั้งอยู่ในเมืองเยียนไถ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่บริษัท Taiho Kogyo Co., Ltd. ถือหุ้นทั้งหมด ได้รับ "อำนาจบริหารงานด้วยตนเองอย่างเต็มที่" จากสำนักงานใหญ่ในญี่ปุ่นในการพัฒนาและผลิตสินค้าสำหรับตลาดจีน

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า การตัดสินใจในระดับท้องถิ่นนี้ทำให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ในขณะเดียวกันยังสามารถเข้าถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วและศักยภาพทางการตลาดที่กว้างใหญ่ของจีนได้

บริษัท Louis Dreyfus (LDC) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในยุโรป และเป็นผู้ค้าและผู้แปรรูปสินค้าเกษตรที่ติดอันดับ Fortune 500 ระดับโลก ได้เริ่มทำพิธีวางศิลาฤกษ์ศูนย์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีอาหารมูลค่า 7,000 ล้านหยวน (ประมาณ 981 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเมืองท่าชิงเต่าเมื่อปลายเดือนมิถุนายน

ศูนย์อุตสาหกรรมแห่งนี้มีพื้นที่ 153,000 ตารางเมตร และมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2570 โดยจะมีความเชี่ยวชาญด้านการแปรรูปเมล็ดพืชน้ำมัน โปรตีนอาหารสัตว์ชนิดพิเศษ และการผลิตฟอสโฟลิพิดเกรดอาหาร เมื่อเปิดดำเนินการแล้ว คาดว่าจะสามารถผลิตโปรตีนอาหารสัตว์ได้ 1.5 ล้านตัน น้ำมันกลั่น 370,000 ตัน และฟอสโฟลิพิด 15,000 ตันต่อปี พร้อมทั้งสร้างงานในท้องถิ่นประมาณ 200 ตำแหน่ง

เจมส์ โจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์และหัวหน้าภูมิภาคเอเชียของ LDC กล่าวว่า ศูนย์กลางอุตสาหกรรมนี้ในฐานะศูนย์กลางภูมิภาคของ LDC ทางตะวันออกของจีน จะเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ท่าเรือและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารสัตว์ในท้องถิ่น นับตั้งแต่เข้าสู่ตลาดฝ้ายของจีนในปี 2516 ปัจจุบัน LDC สร้างรายได้ทั่วโลกประมาณหนึ่งในสี่จากตลาดจีน

CJ Group ของสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่อาหาร เทคโนโลยีชีวภาพ โลจิสติกส์ บันเทิง และค้าปลีก กำลังเร่งการลงทุนเช่นกัน โดยบริษัทกำลังขยายการผลิตกรดอะมิโนและสารเติมแต่งอาหารในเมืองเหลียวเฉิง มณฑลซานตง ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นอย่างมั่นคงต่อโอกาสทางการตลาดของจีน

ซอน คยองชิก ประธานกลุ่ม CJ กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางการค้า ขณะที่จีนกำลังจัดการกับปัญหาเหล่านี้โดยตรงผ่านการส่งเสริมการเปิดกว้างที่มีมาตรฐานสูง เพื่อสร้างเสถียรภาพและแรงผลักดันให้กับการเติบโตของโลก ขณะนี้กลุ่มบริษัทฯ กำลังมองหาความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและโอกาสใหม่ ๆ ในจีน

กลุ่มบริษัทฯ ได้ดำเนินงานในประเทศจีนตั้งแต่ปี 2537 และได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดนานาชาติชิงเต่าทั้ง 6 ครั้ง ซึ่งเป็นเวทีที่เปิดตัวในปี 2562 เพื่อส่งเสริมการเจรจานโยบายและอำนวยความสะดวกในการร่วมมือในโครงการต่าง ๆ

การประชุมสุดยอดประจำปีในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วม 570 คน จาก 43 ประเทศและภูมิภาค ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์จีนแสดงให้เห็นว่า มีวิสาหกิจต่างชาติรายใหม่ 59,000 แห่งที่จัดตั้งขึ้นในประเทศจีนเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเปรียบเทียบเป็นรายปี การเติบโตยังคงดำเนินต่อไปจนถึงครึ่งแรกของปี 2568 โดยมีวิสาหกิจต่างชาติรายใหม่เพิ่มขึ้น 30,014 แห่ง

เพื่อเร่งการเปิดเสรีสถาบัน จีนได้เปิดตัวแผนปฏิบัติการปี 2568 เพื่อสร้างเสถียรภาพในการลงทุนจากต่างประเทศ และปรับปรุงรวมถึงขยายรายการอุตสาหกรรมที่สนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ

ที่บริษัท PHINIA Delphi Automotive Systems (Yantai) Co. ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ PHINIA Inc. บริษัทในสหรัฐอเมริกาในรอบ 30 ปี ระบบอัตโนมัติและแรงงานที่มีทักษะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการผลิตที่แม่นยำ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผู้นำด้านระบบเชื้อเพลิงรายนี้ได้ลงทุนมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในจีน ด้วยการสร้างโรงงานสองแห่ง และศูนย์วิจัยและพัฒนาหนึ่งแห่ง การจัดหาวัตถุดิบภายในประเทศของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 90% ขณะที่ยอดขายต่อปีพุ่งสูงขึ้นจาก 40 ล้านหยวน เป็น 2 พันล้านหยวน

ไซมอน กอดวิน รองประธานฝ่ายกิจการรัฐบาลของบริษัทฯ กล่าวว่า มณฑลซานตงถือเป็นศูนย์กลางของห่วงโซ่อุปทานระดับโลกของ PHINIA และเสริมว่า พวกเขากำลังส่งเสริมการลงทุนไม่เพียงแต่ในระบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในพลังงานสะอาดด้วย