AI มีบทบาทสำคัญต่อการกระตุ้นการบริโภค

ปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นการเติบโตของรูปแบบการบริโภคใหม่ และสร้างแรงผลักดันที่เข้มแข็งให้กับตลาดผู้บริโภคในจีน เนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลที่ล้ำสมัยนี้กำลังนำการปฏิวัติทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารระดับสูงของบริษัทกล่าว

พวกเขาระบุว่า การใช้ AI เชิงพาณิชย์ในอีคอมเมิร์ซและเครื่องใช้ในบ้านจะไม่เพียงแต่ยกระดับประสบการณ์การ ชอปปิงของผู้บริโภคและประสิทธิภาพการดำเนินงานของผู้ค้าเท่านั้น แต่ยังสร้างสถานการณ์การบริโภคใหม่ๆ และกระตุ้นยอดขายผลิตภัณฑ์อีกด้วย

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำกำลังเร่งใช้ประโยชน์จากผู้บรรยายเสมือนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในการไลฟ์สดเพื่อแนะนำสินค้าและกระตุ้นการซื้อ ผู้บรรยายสมือนเหล่านี้สามารถเลียนแบบการแสดงออกทางสีหน้าและการเคลื่อนไหวของมนุษย์ และโต้ตอบกับผู้บริโภคได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมตอบคำถามได้อย่างรวดเร็ว

มนุษย์ดิจิทัลที่เลียนแบบนายหลิว เฉียงตง ผู้ก่อตั้ง JD ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีน ได้ปรากฏตัวในห้องถ่ายทอดสดของบริษัทเพื่อส่งเสริมสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงเนื้อสัตว์ น้ำมันที่ใช้ในการบริโภค ไข่ นม เครื่องปรับอากาศ และโทรทัศน์

ผู้ประกาศข่าว AI สามารถเลียนแบบสีหน้า ภาษากาย ท่าทาง น้ำเสียง และสำเนียงของหลิวได้อย่างสมบูรณ์แบบ อวาตาร์ของเขามียอดวิวมากกว่า 20 ล้านครั้งภายในชั่วโมงแรก และทำยอดขายได้ 50 ล้านหยวน (6.96 ล้านดอลลาร์) ตลอดช่วงการออกอากาศแบบเรียลไทม์

Tmall ซึ่งเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซแบบธุรกิจถึงลูกค้า (B-to-C) ของ Alibaba Group มอบคำแนะนำและคำปรึกษาแบบเฉพาะบุคคลให้กับผู้บริโภคด้วยระบบแชทบอทบริการลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในขณะที่ PDD Holdings ซึ่งเป็นผู้ให้บริการส่วนลดออนไลน์ก็ใช้เครื่องมือ AI เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและปรับกลยุทธ์การขายให้เหมาะสม

“การใช้ผู้บรรยายเสมือนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในการไลฟ์สดอีคอมเมิร์ซสามารถสร้างความรู้สึกสดใหม่ให้กับผู้ใช้ ขณะเดียวกัน เจ้าของแบรนด์ก็สามารถดึงดูดผู้บริโภครายใหม่ได้โดยใช้วิธีการที่สร้างสรรค์นี้” ม่อ ไต้ชิง นักวิเคราะห์อาวุโสจากสถาบันเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาในประเทศ กล่าว

ม่อ กล่าวว่า AI จะเปลี่ยนแปลงวิธีการซื้อของของผู้คนโดยการมอบประสบการณ์การชอปปิงที่มีปฏิสัมพันธ์และส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของผู้ค้าปลีกแบบดั้งเดิม

เจมส์ หยาง หัวหน้าฝ่ายค้าปลีกของบริษัทที่ปรึกษา Bain & Company ประจำประเทศจีน กล่าวว่า “สิ่งสำคัญคือผู้ค้าปลีกชาวจีนต้องสร้างความผูกพันกับลูกค้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เครื่องมือ AI สามารถกระตุ้นความพยายามในการรักษาลูกค้า ช่วยให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซสามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้อย่างเฉพาะเจาะจง และสร้างประสบการณ์การชอปปิงที่ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคลให้กับพวกเขา”

ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านชั้นนำต่างเร่งนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในภาคการผลิต ผลิตภัณฑ์ และบริการ โจว หยุนเจี๋ย ประธานและซีอีโอของไฮเออร์ กรุ๊ป กล่าวว่า “ปัจจุบัน การนำ AI มาใช้ในองค์กรต่าง ๆ มุ่งเน้นไปที่การผลิต การวิจัยและพัฒนา การขาย การจัดซื้อ และการบริการเป็นหลัก”

โจวระบุว่าการรวมโมเดล AI เข้ากับหุ่นยนต์บริการภายในบ้านและอุปกรณ์ปลายทางจะสร้างแรงกระตุ้นการเติบโตใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนทั่วโลก โดยเสริมว่าบริษัทของเขาได้สนับสนุนการประยุกต์ใช้ AI ในหลายสาขา เช่น บ้านอัจฉริยะและอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม

Hisense Group ระบุว่าโมเดลภาษาขนาดใหญ่ Xinghai ของบริษัทมีการบูรณาการอย่างลึกซึ้งกับ DeepSeek ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัปด้าน AI ของจีน และด้วยความสามารถในการคิดเชิงลึกและการใช้เหตุผลที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สมาร์ททีวีของบริษัทสามารถเข้าใจความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น

การเติบโตของเทคโนโลยี AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร และกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางอัจฉริยะในภาคส่วนเครื่องใช้ในบ้าน พร้อมทั้งปลดล็อกศักยภาพในการบริโภค หลิว เฟย ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยแผนกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคของบริษัทที่ปรึกษาตลาด All View Cloud ในปักกิ่ง กล่าว

หง หย่ง นักวิจัยร่วมจากสถาบันการค้าระหว่างประเทศและความร่วมมือทางเศรษฐกิจของจีน ระบุว่า การบริโภครูปแบบใหม่นี้ได้รับการขับเคลื่อนโดยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI เป็นหลัก โดยมุ่งเน้นที่ความต้องการเฉพาะบุคคลและความหลากหลายของผู้บริโภค

เขากล่าวว่า “การปลูกฝังรูปแบบการบริโภคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ถือเป็นแกนหลักในการขยายความต้องการภายในประเทศ การขับเคลื่อนการยกระดับอุตสาหกรรม และการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีคุณภาพสูง”