BYD ส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตจากไทยไปยังยุโรป

(People's Daily Online)วันศุกร์ 29 สิงหาคม 2025

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา BYD ได้ประกาศว่า โรงงานในประเทศไทยได้ส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รุ่น BYD DOLPHIN ชุดแรกไปยังตลาดยุโรปอย่างเป็นทางการ โดยมียอดส่งออกรวมกว่า 900 คัน โดยมีจุดหมายปลายทาง ได้แก่ สหราชอาณาจักร เยอรมนี และเบลเยียม

การส่งออกถูกดำเนินการโดยเรือของ BYD ที่ชื่อ "BYD ZHENGZHOU" ซึ่งออกเดินทางจากประเทศไทยไปยังยุโรปเป็นครั้งแรก ถือเป็นการเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานระดับโลกของ BYD ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเน้นย้ำถึงบทบาทของประเทศไทยในภูมิทัศน์ยานยนต์ระดับโลกในฐานะศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาคและประตูสู่การส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า

นายภนธร วงศ์พรหม ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจและการลงทุนภูมิภาคที่ 4 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวว่า การตัดสินใจของ BYD ในการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศไทยไปยังยุโรปแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งระหว่างประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลไทยจะยังคงส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนดังกล่าวเพื่อเสริมสร้างห่วงโซ่มูลค่าภายในประเทศ เพิ่มขีดความสามารถทางเทคโนโลยี และเสริมสร้างตำแหน่งของไทยในอุตสาหกรรม EV ระดับโลก

นางยุพิน บุญศิริจันทร์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า เหตุการณ์สำคัญนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอันแข็งแกร่งของ BYD ที่มีต่อประเทศไทย และยืนยันความสำคัญของประเทศไทยในห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก พร้อมทั้งเน้นย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงการผลิตและส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก

เคอ อวี้ปิน ผู้จัดการทั่วไป BYD ประเทศไทย กล่าวว่า “หลังจากการส่งมอบรถยนต์พลังงานใหม่คันที่ 90,000 ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เราได้ประสบความสำเร็จอีกครั้งในการส่งออกรถยนต์รุ่น DOLPHIN ที่ผลิตในประเทศไทยไปยังยุโรปเป็นครั้งแรก ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์การขยายธุรกิจสู่ระดับโลกของ BYD แต่ยังยืนยันบทบาทสำคัญของประเทศไทยในห่วงโซ่อุปทานรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลกอีกด้วย”

โรงงานของ BYD ในประเทศไทย ตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง เป็นส่วนสำคัญของเครือข่ายการผลิตระดับโลกของ BYD โดยผสานรวมห่วงโซ่อุปทานภายในท้องถิ่น และแสดงถึงความเชี่ยวชาญด้านการผลิตขั้นสูงของบริษัท โรงงานนี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการภายในประเทศ แต่ยังสนับสนุนการส่งออกไปยังยุโรปและตลาดโลกอื่นๆ ซึ่งยืนยันบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางเชิงกลยุทธ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก