การผลิตเก้าอี้อัจฉริยะในภาคตะวันออกของจีนเป็นหัวใจสำคัญของความยั่งยืน

(People's Daily Online)วันพฤหัสบดี 11 กันยายน 2025

ในอำเภออันจี๋ มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “บ้านเกิดของเก้าอี้” ของประเทศจีน โรงงานต่าง ๆ เต็มไปด้วยเครื่องจักรที่มีความแม่นยำในการผลิต เก้าอี้หนึ่งในสามตัวที่ผลิตในจีนมาจากอันจี๋ และครึ่งหนึ่งของจำนวนเก้าอี้ที่ผลิตส่งออกไปต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็นำการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีอันชาญฉลาดมาสู่ประเทศ

ที่บริษัทอันจี๋ ว่านเป่า อินเทลลิเจนท์ โฮม เทคโนโลยี จำกัด เครื่องจักรมีบทบาทสำคัญต่อการผลิต เนื่องจากแขนกลหุ่นยนต์ทำการทดสอบอย่างแม่นยำ สายการบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และคลังสินค้าแบบบูรณาการอัจฉริยะจัดการสินค้าคงคลังโดยมีการแทรกแซงของมนุษย์น้อยที่สุด

หลี่ เหว่ยปิง รองผู้จัดการทั่วไปของบริษัทฯ กล่าวว่า “เครื่องจักรคือดาวเด่นของโรงงานเรา นับตั้งแต่นำระบบอัจฉริยะมาใช้ ประสิทธิภาพในการจัดเก็บของเราเพิ่มขึ้นห้าเท่า และกระบวนการอัตโนมัติก็ทำให้การบรรจุและงานอื่น ๆ รวดเร็วขึ้นสามเท่า”

แต่ความเร็วไม่ใช่สิ่งเดียวที่บริษัทให้ความสำคัญ ความยั่งยืนถูกผูกโยงเข้ากับห่วงโซ่การผลิตทั้งหมด ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการใช้พลังงาน บริษัทได้ปฏิบัติตามการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และส่งเสริมจริยธรรมคาร์บอนต่ำในหมู่พนักงาน

“เราได้ฝังหลักการสีเขียวไม่เพียงแต่ไว้ในกระบวนการต่าง ๆ ของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในความคิดของผู้คนของเราด้วย” หลี่กล่าวเสริม

ด้วยเงินลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาประจำปีเกือบ 30 ล้านหยวน (ประมาณ 135 ล้านบาท) บริษัทฯ มุ่งเน้นนวัตกรรมด้านการออกแบบและการใช้งาน เก้าอี้สำหรับเล่นเกมของบริษัทได้รับความนิยมไปทั่วโลก สร้างยอดขายมากกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และติดอันดับสินค้าขายดีอันดับต้นๆ ในตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรป

หลิว เสียง ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจของบริษัทกล่าวว่า “เราปรับปรุงทั้งด้านสุนทรียศาสตร์และประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคต่างประเทศ”

ประวัติศาสตร์การผลิตเก้าอี้ของอันจี้ย้อนกลับไปกว่าสี่ทศวรรษ เมื่ออันจี้ผลิตเก้าอี้หมุนห้าล้อตัวแรกของจีน อย่างไรก็ตาม การขยายตัวทางอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วจนบางครั้งก็ไร้ความรอบคอบในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 นำไปสู่ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมและภาวะอิ่มตัวของตลาด อุตสาหกรรมนี้ตกต่ำลงสู่จุดต่ำสุดก่อนที่จะเปลี่ยนไปสู่การผลิตแบบอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบัน อันจี้คือต้นแบบของการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรม อันจี้ประสบความสำเร็จในการนำระบบดิจิทัลมาใช้อย่างเต็มรูปแบบในบรรดาผู้ผลิตรายใหญ่ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นหน่วยงานนำร่องด้าน “การออกแบบเชิงนิเวศน์ในการใช้งานอุตสาหกรรม” โดยองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติในปี 2566

ใน “เขตอุตสาหกรรมบ้านสีเขียว” ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทเฟอร์นิเจอร์สีเขียวมากกว่า 180 แห่ง ระบบนิเวศทั้งหมดตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาไปจนถึงการผลิต ล้วนเจริญเติบโตจากความร่วมมือและความยั่งยืน

ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า อุตสาหกรรมบ้านสีเขียวในท้องถิ่นมีผู้ประกอบการมากกว่า 1,700 ราย มีมูลค่าผลผลิตรวม 39,110 ล้านหยวนในปี 2567 เพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี เฉพาะการผลิตเก้าอี้อย่างเดียวมีมูลค่า 31,190 ล้านหยวน การส่งออกเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านก็โดดเด่นยิ่งขึ้น โดยมีมูลค่า 22,370 ล้านหยวน หรือคิดเป็น 62.5% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของมณฑล

“จุดแข็งของอันจี้อยู่ที่กลุ่มอุตสาหกรรม” หวัง ตงชิง ผู้จัดการโครงการประจำศูนย์แสดงสินค้าของนิคมอุตสาหกรรมกล่าว พร้อมเสริมว่า “บริษัทต่าง ๆ ที่นี่ได้รับประโยชน์จากห่วงโซ่อุปทานต้นน้ำและปลายน้ำที่ครบวงจร ซึ่งช่วยเสริมสร้างแบรนด์ ‘บ้านสีเขียว’ ของอันจี้ไปทั่วโลก”

หลิน เผิง เลขาธิการสมาคมการค้าข้ามพรมแดนอันจี้ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างแบรนด์และความยั่งยืน โดยกล่าวว่า “บริษัทต่าง ๆ จะต้องมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อนำผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงมาสู่โลก”