มาตรการใหม่ของจีนในการขยายการบริโภคภาคบริการจะช่วยกระตุ้นการเติบโต

มาตรการใหม่ของจีนที่ออกเพื่อเพิ่มการบริโภคในภาคบริการได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดหาบริการ กระตุ้นความต้องการใหม่ ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูง และปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

มาตรการเหล่านี้ ซึ่งประกาศใช้โดยหน่วยงานภาครัฐ 9 แห่ง ครอบคลุมภารกิจ 19 ภารกิจใน 5 ด้าน ในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เซิ่ง ฉิวผิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เน้นย้ำถึงประเด็นสำคัญของมาตรการเหล่านี้ ได้แก่ การเสริมสร้างแพลตฟอร์มการบริโภคบริการ การเพิ่มปริมาณอุปทานที่มีคุณภาพสูง การกระตุ้นอุปสงค์ใหม่ และการเสริมสร้างการสนับสนุนทางการเงินและการคลัง

เซิ่งกล่าวว่า มาตรการเหล่านี้เชื่อมโยงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเข้ากับการส่งเสริมการบริโภค โดยมุ่งหวังที่จะยกระดับมาตรฐานการครองชีพควบคู่ไปกับการกระตุ้นความต้องการใหม่ ๆ ตัวอย่าง ได้แก่ การพัฒนากิจกรรมและลีกกีฬาที่มีชื่อเสียง การขยายความคุ้มครองประกันภัยการดูแลระยะยาว และการสนับสนุนบริการดูแลเด็กในชุมชนเพื่อตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้คนได้ดียิ่งขึ้น

เพื่อประสานระหว่างอุปทานและอุปสงค์ มาตรการเหล่านี้ได้แก่ การขยายอุปทานที่มีคุณภาพผ่านเมืองนำร่องสำหรับรูปแบบและสถานการณ์ทางธุรกิจใหม่ การเสริมสร้างข้อเสนอทางวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และกีฬา และการปรับปรุงบริการในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ความบันเทิง กีฬา การดูแลผู้สูงอายุ และการดูแลเด็ก เซิ่งกล่าว

นอกจากนี้ จะมีการนำมาตรการต่าง ๆ มาใช้เพื่อขยายการเข้าถึงตลาดในด้านต่าง ๆ เช่น โทรคมนาคม การดูแลสุขภาพ และการศึกษา ขณะเดียวกัน จะมีการดำเนินการเพื่อปรับปรุงการอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าและการชำระเงินสำหรับชาวต่างชาติในจีน และส่งเสริมตลาดต่างประเทศสำหรับบริการทางการแพทย์และนิทรรศการ เซิ่งกล่าว

ในเวลาเดียวกัน ข้อจำกัดต่อภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การดูแลสุขภาพและการพักผ่อนหย่อนใจระดับกลางถึงระดับสูง จะได้รับการผ่อนปรน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนและต่างประเทศมากขึ้น โดยนำทรัพยากรที่มีคุณภาพเข้ามาเพื่อเพิ่มอุปทาน กระตุ้นความมีชีวิตชีวาของตลาด และปรับปรุงประสิทธิภาพ

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มาตรการต่าง ๆ เช่น การอนุญาตให้พิพิธภัณฑ์และสถานที่ทางวัฒนธรรมสร้างสรรค์นวัตกรรมในแง่ของรูปแบบนิทรรศการและรักษารายได้ที่เกี่ยวข้องไว้เพื่อเป็นแรงจูงใจให้พนักงาน ถือเป็นก้าวสู่การปฏิรูปที่มีผลกระทบ

โจว ยุ่นหัน นักวิจัยจากศูนย์สารสนเทศแห่งรัฐ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยเปลี่ยนพิพิธภัณฑ์จากสถาบันดั้งเดิมที่เน้นการสะสมและการวิจัยให้กลายเป็นสถานที่ทางวัฒนธรรมและพักผ่อนหย่อนใจที่ครอบคลุม ส่งเสริมความพยายามในการบูรณาการทรัพยากร นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และประสบการณ์ของผู้เข้าชมที่ดีขึ้น และปลดล็อกศักยภาพของพิพิธภัณฑ์เพื่อมอบข้อเสนอทางวัฒนธรรมคุณภาพสูงให้กับสาธารณชนมากยิ่งขึ้น

ธนาคารประชาชนจีน ซึ่งเป็นธนาคารกลางของประเทศ ได้เพิ่มการสนับสนุนการใช้บริการเช่นกัน โดยในเดือนพฤษภาคม ธนาคารได้เปิดตัวโครงการสินเชื่อหมุนเวียนวงเงิน 5 แสนล้านหยวน (ประมาณ 2.25 ล้านล้านบาท) สำหรับการใช้บริการและการดูแลผู้สูงอายุ โดยแนะนำให้สถาบันการเงินเพิ่มการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การจัดเลี้ยง วัฒนธรรม การศึกษา และการท่องเที่ยว

ควบคู่ไปกับโปรแกรมการให้สินเชื่อที่ขยายเพิ่มขึ้นสำหรับนวัตกรรมเทคโนโลยีและการอัพเกรดอุปกรณ์ เครื่องมือเหล่านี้กำลังช่วยจัดสรรสินเชื่อให้กับโครงการที่เกี่ยวข้องกับบริการมากขึ้น หยาง หง เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ

นอกเหนือจากเครื่องมือทางการเงินแล้ว ธนาคารกลางยังเรียกร้องให้สถาบันการเงินสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่และขยายอุปทานสินเชื่อสำหรับพื้นที่การบริโภคที่สำคัญ ซึ่งครอบคลุมถึงอาหาร ที่อยู่อาศัย การเดินทาง และความบันเทิง หยางกล่าวเสริม

ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2568 ยอดสินเชื่อคงค้างในการบริโภคภาคบริการหลักทั่วประเทศอยู่ที่ 2.79 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา

มาตรการใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่การขยายการบริโภคบริการยังรวมถึงการระดมงบประมาณกลางและพันธบัตรเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษของรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว การดูแลผู้สูงอายุ การดูแลเด็ก และกีฬา ตลอดจนการให้เงินอุดหนุนดอกเบี้ยแก่ผู้ให้บริการในภาคส่วนที่มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันของประชาชน

ฝู อีฟู นักวิจัยจากธนาคารเจียงซู ซู เมิร์แชนท์ กล่าวว่า ทางเลือกการสนับสนุนเงินทุนต่าง ๆ รวมถึงการอุดหนุนดอกเบี้ยและพันธบัตรเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษของรัฐบาลท้องถิ่น จะช่วยลดต้นทุนการจัดหาเงินทุนสำหรับธุรกิจและลดต้นทุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค

ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า เมื่อมาตรการเหล่านี้มีผลบังคับใช้ คาดว่าการบริโภคภาคบริการจะค่อย ๆ กลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของอุปสงค์ภายในประเทศ รวมทั้งมีบทบาทมากขึ้นในการปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพสูงของจีน