สนามบินหลักในภาคใต้ของจีนรายงานจำนวนผู้โดยสารจากอาเซียนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
จากการจัดงาน China-ASEAN Expo ครั้งที่ 22 และการประชุมสุดยอดธุรกิจและการลงทุน China-ASEAN ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ท่าอากาศยานนานาชาติกว่างโจวไป๋หยุนในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน รายงานว่าจำนวนผู้โดยสารจากประเทศอาเซียนมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้
ข้อมูลจากหน่วยงานชายแดนท้องถิ่นเมื่อวันอังคารที่ 16 กันยายน 2568 ระบุว่า ในปี 2568 จนถึงปัจจุบัน ศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศหลักแห่งนี้รองรับนักท่องเที่ยวขาเข้าและขาออกจากประเทศสมาชิกอาเซียนประมาณ 1.5 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 42.6% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า โดยนักท่องเที่ยวคิดเป็น 70.5% ของจำนวนทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 60% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา จีนได้เริ่มนำข้อตกลงยกเว้นวีซ่าร่วมกับสามประเทศในอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย มาใช้ ซึ่งนโยบายการเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่านี้ได้ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนระหว่างจีนและอาเซียน
“ผมใช้เวลาบินจากกรุงเทพฯ ไปกว่างโจวเพียงสามชั่วโมงกว่า ๆ นับตั้งแต่มีนโยบายยกเว้นวีซ่า ผมเดินทางไปจีนทุกเดือนเพื่อซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และกระบวนการศุลกากรก็สะดวกสบายมาก” สมชาย จันทวานี นักธุรกิจชาวไทยที่เพิ่งผ่านพิธีการขาเข้าที่สนามบินไป๋หยุน กล่าวกับซินหัวเมื่อวันพุธ
ปีนี้ ท่าอากาศยานแห่งนี้รองรับผู้โดยสารจากประเทศสมาชิกอาเซียนเกือบ 500,000 ราย ภายใต้นโยบายการเดินทางโดยไม่ต้องมีวีซ่าของจีน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 61.3
เนื่องจากความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและอาเซียนมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น และความต้องการเดินทางเข้าสู่ประเทศจีนเพิ่มสูงขึ้นจากนโยบายวีซ่าที่ได้รับการปรับปรุง จำนวนเส้นทางบินจากสนามบินไป๋หยุนไปยังจุดหมายปลายทางในอาเซียนจึงเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีเส้นทางบินประจำสัปดาห์ที่เชื่อมต่อเมืองกว่างโจวกับเมืองต่างๆ ในอาเซียนมากกว่า 100 เส้นทาง