จีนลงทุนเพื่อการอนุรักษ์น้ำในช่วงปี 2564-2568 มูลค่าเกิน 5.4 ล้านล้านหยวน
หลี่ กั๋วอิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า คาดว่ามูลค่าการลงทุนรวมของจีนในการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการอนุรักษ์น้ำจะสูงเกิน 5.4 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 759,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ปี ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2564-2568) ซึ่งสูงกว่าระดับในช่วง 5 ปีก่อนหน้าถึง 1.6 เท่า
กระทรวงทรัพยากรน้ำรายงานว่า ในปี 2567 จีนได้ลงทุนสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการอนุรักษ์น้ำสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 1.35 ล้านล้านหยวน ซึ่งถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จครั้งสำคัญของภาคส่วนนี้ที่ได้ทุ่มเงินเกิน 1 ล้านล้านหยวนในปี 2565 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญและสร้างระดับการลงทุนที่ทำลายสถิติเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน
หลี่กล่าวว่า ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2558-2560) จีนได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการอนุรักษ์น้ำขนาดใหญ่ 172 โครงการ โดยเร่งเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำในแง่ของรูปแบบ โครงสร้าง ฟังก์ชัน และการบูรณาการระบบ
ภายในสิ้นปี 2567 จีนได้สร้างอ่างเก็บน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว 95,000 แห่ง โครงการผันน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง 200 โครงการ เขตชลประทานขนาดใหญ่และขนาดกลาง 6,924 แห่ง และเขื่อนกั้นน้ำยาว 318,000 กิโลเมตร ก่อให้เกิดระบบโครงสร้างพื้นฐานการอนุรักษ์น้ำที่ใหญ่ที่สุดและครอบคลุมที่สุดในโลก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชากรจำนวนมากที่สุด
ขณะเดียวกัน จีนได้พัฒนาระบบป้องกันอุทกภัยและภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง และสามารถจัดการอุทกภัยจากแม่น้ำที่เกินระดับเตือนภัยได้สำเร็จถึง 3,981 ครั้ง
จีนได้ตอบสนองต่อภัยแล้งรุนแรงในลุ่มแม่น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น แม่น้ำแยงซีเกียง และแม่น้ำจูเจียง โดยรับรองความปลอดภัยของแหล่งน้ำสำหรับผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และตอบสนองความต้องการชลประทานสำหรับพืชผล
ในช่วงปี 2564-2568 สัดส่วนเปอร์เซ็นต์ของการสูญเสียทางเศรษฐกิจจากอุทกภัยและภัยพิบัติน้ำท่วมขังของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศลดลงเหลือ 0.18% จาก 0.28% ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (2559-2563)
ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 14 (2558-2560) ภาคส่วนทรัพยากรน้ำของจีนยึดมั่นในหลักการให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์น้ำมาโดยตลอด เฉิน หมิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำกล่าวในโอกาสเดียวกัน
ด้วยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยต่อปีที่ 5.5% การใช้น้ำทั้งหมดของประเทศจึงยังคงมีเสถียรภาพโดยไม่มีการเติบโตเลย เฉินกล่าวในการแถลงข่าว
ประสิทธิภาพการใช้น้ำมีการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2567 ปริมาณการใช้น้ำต่อ 10,000 หยวนของ GDP และ 10,000 หยวนของมูลค่าเพิ่มทางอุตสาหกรรม ลดลง 17.7% และ 23.6% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับระดับในปี 2563
หลี่กล่าวเสริมว่า ณ สิ้นปี 2567 พื้นที่ชลประทานประหยัดน้ำทั่วประเทศอยู่ที่ 638 ล้านหมู่ (ประมาณ 42.53 ล้านเฮกตาร์) เพิ่มขึ้น 12.5% จากช่วงสิ้นสุดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ขณะเดียวกัน ปริมาณการใช้น้ำต่อหมู่ของพื้นที่เกษตรกรรมชลประทานลดลง 4% (1 หมู่เท่ากับ 0.42 ไร่)
