เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน 3.0 สร้างแรงผลักดันใหม่ให้กับการเปิดกว้างและความร่วมมือในภูมิภาค
ท่ามกลางกระแสลัทธิฝ่ายเดียวและลัทธิกีดกันทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ประเทศต่างๆ จะสามารถส่งเสริมเสถียรภาพในภูมิภาคได้อย่างไร เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จีนและอาเซียนได้ลงนามในพิธีสารยกระดับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน 3.0 ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่เป็นอีกก้าวสำคัญในความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างความร่วมมือแบบเปิดกว้างเท่านั้น แต่ยังช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้างในช่วงเวลาสำคัญอีกด้วย
ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นผลลัพธ์ที่สำคัญจากฉันทามติที่บรรลุระหว่างประธานาธิบดีจีนสี จิ้นผิงและผู้นำอาเซียนในระหว่างการประชุมสุดยอดพิเศษอาเซียน-จีน เพื่อรำลึกครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์การเจรจาอาเซียน-จีน
นอกจากนี้ ยังถือเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินการตามมติของการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 4 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 20 ซึ่งเรียกร้องให้ขยายการเปิดกว้างที่มีมาตรฐานสูงและสร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย
ความร่วมมือที่ยกระดับระหว่างประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองและเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของโลก ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผลรวมของตัวเลขเท่านั้น แต่เป็นการพบกันของความคิด
นับตั้งแต่การบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2553 เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน (CAFTA) ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการในการเร่งบูรณาการระดับภูมิภาค การพัฒนาที่ก้าวหน้าของเขตการค้าเสรีนี้ ตั้งแต่การลดภาษีสินค้า ไปจนถึงการขยายภาคบริการ และปัจจุบัน คือการประสานกฎระเบียบและมาตรฐานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แสดงให้เห็นถึงขอบเขตที่กว้างขวางขึ้นและความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นของความร่วมมือทางเศรษฐกิจจีน-อาเซียน กระบวนการนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มองไปข้างหน้าและความเข้าใจเชิงกลยุทธ์ของทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับแนวโน้มระดับโลก
การสร้าง CAFTA 3.0 ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การสร้างตลาดขนาดใหญ่และส่งเสริมชุมชนที่มีอนาคตร่วมกัน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง จีนและอาเซียนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกันและกันมาเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2567 มีปริมาณการค้ารวมเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าการลงทุนสองทางสะสมสูงกว่า 450 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ เดือนกรกฎาคมปีนี้ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอันแน่นแฟ้นเหล่านี้ก่อให้เกิดรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับชุมชนที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและมีอนาคตร่วมกัน
ภายใต้กรอบ CAFTA 3.0 ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว ปรับปรุงมาตรฐานและกฎระเบียบให้สอดคล้องกัน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน มาตรการเหล่านี้จะผลักดันภูมิภาคให้ก้าวไปสู่การบูรณาการทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ภาคธุรกิจคาดการณ์ว่าข้อกำหนดของข้อตกลงจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ของภูมิภาคนี้ในฐานะจุดหมายปลายทางการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ และมีส่วนช่วยในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ความคาดหวังที่สูงเหล่านี้ตอกย้ำศักยภาพของเขตการค้าเสรีที่ได้รับการยกระดับนี้ เพื่อเปิดประตูสู่มิติใหม่ของความร่วมมือระหว่างจีนและอาเซียน
เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน 3.0 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันอย่างจริงจังของทั้งสองฝ่ายในการธำรงไว้ซึ่งระบบพหุภาคีและการค้าเสรี ท่ามกลางการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นและลัทธิกีดกันทางการค้าที่แผ่ขยาย จีนและอาเซียนกำลังสร้างความมั่นคงผ่านความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในโลกที่ไม่แน่นอน
ความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างตลาดบูรณาการระดับภูมิภาคที่เปิดกว้าง ครอบคลุม และตั้งอยู่บนกฎเกณฑ์ และระบบอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคที่มีความยืดหยุ่นและก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน จะช่วยเปิดโอกาสสำคัญ ๆ ให้กับธุรกิจต่างๆ ทั่วทั้งภูมิภาคและทั่วโลก สร้างความเชื่อมั่นและพลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งให้กับการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก และเป็นแบบอย่างสำหรับประเทศต่าง ๆ ที่ร่วมมือกันเพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ
การยึดมั่นในความเปิดกว้าง ความร่วมมือ และผลประโยชน์ร่วมกัน ถือเป็นสิ่งจำเป็นตามธรรมชาติของการพัฒนาจีนให้ทันสมัย และณ ต้นปี 2568 ในปี 2568 จนถึงปัจจุบัน จีนได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี 23 ฉบับ กับ 30 ประเทศและภูมิภาค
ด้วยการที่จีนยังคงขยายการเปิดกว้างทางสถาบัน ส่งเสริมการเติบโตทางการค้าที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ขยายช่องทางการลงทุนสองทาง และทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อส่งเสริมความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่มีคุณภาพสูง พื้นที่สำหรับผลประโยชน์ร่วมกันและความสำเร็จร่วมกันจะยังคงเติบโตต่อไป
เมื่อมองไปข้างหน้า ความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของจีนต่อความเปิดกว้างและความร่วมมือจะทำให้จีนยังคงเป็นผู้สร้างเสถียรภาพและแหล่งพลังขับเคลื่อนให้กับเศรษฐกิจโลก
โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจเป็นแนวโน้มที่ไม่อาจย้อนกลับได้ในประวัติศาสตร์ จีนจะยังคงร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อธำรงไว้ซึ่งลัทธิพหุภาคีและความร่วมมือที่เปิดกว้าง แบ่งปันโอกาสการพัฒนาผ่านการเปิดกว้าง และแสวงหาผลลัพธ์ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ เพื่อส่งเสริมโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์และครอบคลุมทั่วโลก สร้างเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้าง และร่วมกันสร้างอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นสำหรับมวลมนุษยชาติ