“โสมทะเลทราย” ในมองโกเลียใน เศรษฐกิจใหม่ในภาคเหนือของจีน

เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ พาน ตัวจู เฝ้ามองผืนทรายในทะเลทรายเปลี่ยนแปลงและกลืนกินความหวัง ปัจจุบัน เขากำลังเฝ้ามองผืนทรายเหล่านั้นตั้งรกราก ยึดเกาะแน่นด้วยรากไม้พุ่มเตี้ยๆ ที่กลายเป็นสมบัติล้ำค่าของครอบครัวเขา

ท่ามกลางทะเลทรายอูลัน บูห์ (Ulan Buh Desert) อันกว้างใหญ่ ทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับแปดของจีน พานและครอบครัวเดินทางผ่านป่าต้นแซกซอลที่ทนแล้ง พวกเขาใช้มืออย่างระมัดระวังปัดทรายที่โคนพุ่มไม้ออก และขุดรากไม้ที่หนาและอวบน้ำชื่อซิสตันเช เดเซิร์สติโคลา (Cistanche deserticola) พืชสมุนไพรอันทรงคุณค่าที่รู้จักกันในชื่อ “โสมทะเลทราย”

“‘โสมทะเลทราย’ นี้เปลี่ยนชีวิตพวกเราไปมาก” พานกล่าวพลางถือครองผลผลิตอันล้ำค่า “พวกเราเคยยากจน อาศัยอยู่ริมทะเลทรายแห่งนี้ แต่ตอนนี้พวกเราไม่เพียงแต่รั้งทะเลทรายไว้เท่านั้น แต่ยังเติบโตอย่างมั่งคั่งจากมันอีกด้วย”

เพื่อรับประกันความสำเร็จ หมู่บ้านของพานจึงได้จัดตั้งสหกรณ์ขึ้น โดยได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร พวกเขาจึงได้กำหนดมาตรฐานเทคนิคการปลูก

อย่างไรก็ตาม การเดินทางของโสมทะเลทรายขยายออกไปไกลกว่าทะเลทราย ช่วงเวลาสำคัญมาถึงในปี 2566 เมื่อสารนี้ได้รับการอนุมัติให้เป็นสาร “ที่มีคุณสมบัติทางยาและอาหารคล้ายคลึงกัน” ในประเทศจีน ซึ่งปูทางไปสู่การนำไปใช้ในสินค้าอุปโภคบริโภค

การตัดสินใจครั้งนี้ได้จุดประกายให้เกิดกระแสนวัตกรรมใหม่ๆ บริษัทต่างๆ เช่น Inner Mongolia Desert Soul Biotechnology Co., Ltd. ได้แปรรูปรากพืชดิบนี้ให้เป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด ซึ่งรวมถึงเครื่องดื่มเข้มข้น เครื่องดื่มผง และลูกอม

การเปลี่ยนผ่านจากการขายวัตถุดิบดิบไปสู่การตลาดผลิตภัณฑ์ที่เน้นสุขภาพนี้ ถือเป็นบทใหม่ในการพัฒนาภูมิภาค เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่ามูลค่าของเครือข่ายอุตสาหกรรมโสมทะเลทรายน่าจะสูงเกิน 2.5 พันล้านหยวนในปีนี้